31 ส.ค. 2550

มาสด้าร่วมกับ OVTA จัดโครงการฝึกอบรมฟรี





มาสด้าร่วมกับ OVTA จัดโครงการฝึกอบรมฟรีให้กับคนไทย
********************************************
กรุงเทพฯ – ประเทศไทย, 16 สิงหาคม 2550 – บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด จับมือกับสมาคมพัฒนาวิชาชีพโพ้นทะเล (Overseas Vocational Training Association) ของรัฐบาลญี่ปุ่นผ่านทางสถาบันฝึกหัดพัฒนาอาชีพของมาสด้า (Mazda Training Academy) ในการจัดโครงการฝึกหัดพัฒนาอาชีพให้แก่นิสิตนักศึกษาและประชาชนทั่วไปที่มีความสนใจทั่วประเทศ

มร. จอห์น เรย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการเพื่อสังคมไทยของมาสด้า และตลอดอายุของโครงการทั้งสิ้น 3 ปี โดยความร่วมมือกับสมาคมพัฒนาวิชาชีพโพ้นทะเล ซึ่งเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร ของกระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการสังคมของรัฐบาลญี่ปุ่น การริเริ่มโครงการนี้สะท้อนให้เห็นถึงพันธะกิจทางธุรกิจของเราที่มุ่งมั่นสร้างความพึงพอใจสูงสุดกับลูกค้าในประเทศไทย และเรารู้สึกว่าหากเราได้มีโอกาสที่จะมีส่วนร่วมในการที่จะเสริมสร้างมาตรฐานวิชาชีพในด้านการขาย การเจรจาต่อรอง และปฏิสัมพันธ์ในการทำงานร่วมกับผู้อื่นให้กับแรงงานในอนาคตของชาติ เรายังจะมีส่วนในการสร้างประโยชน์ให้แก่ภาคส่วนทางธุรกิจอื่นๆ ได้เช่นกัน”
บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) เป็นหนึ่งในบรรดาบริษัทในประเทศไทยที่ได้ริเริ่มในการจัดโครงการฝึกวิชาชีพโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเพื่อสร้างประโยชน์ให้แก่คนไทยและสังคมไทย จุดประสงค์หลักของโครงการคือส่งเสริมการพัฒนาองค์ความรู้ให้แก่นักเรียน นิสิตนักศึกษา พนักงานทั้งของมาสด้าและผู้แทนจำหน่ายและบุคคลทั่วไปในสายงานต่างๆ ภายใต้ปรัชญา “ความรู้ไม่ได้มีไว้เพื่อคนใดคนหนึ่ง”
“โครงการพัฒนาวิชาชีพซึ่งจัดขึ้นสำหรับประเทศต่างๆ ในกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิค หรือ เอเปค ซึ่งมุ่งที่จะสร้างประโยชน์กลับคืนให้แก่สังคม ด้วยการสร้างโอกาสให้กับผู้ที่กำลังจะก้าวเข้ามาเป็นแรงงานใหม่ และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับสังคมด้วยการพัฒนาองค์ความรู้” มร.จอห์น กล่าวเสริม
ทั้งนี้ โครงการฝึกอบรมนี้จะมีเนื้อหาเกี่ยวกับ 2 เรื่องคือ การบริการลูกค้าและการมีปฏิสัมพันธ์ในการทำงานร่วมกับผู้อื่น รวมทั้งเทคนิคการขายและการเจรจาต่อรอง โดยในหัวข้อแรกได้มีการจัดขึ้นเรียบร้อยแล้วในกรุงเทพมหานครเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2550 และที่เชียงใหม่ ขอนแก่น และนครศรีธรรมราชในวันที่ 12, 16 และ 20 กรกฎาคม 2550 ตามลำดับ ส่วนหัวข้อที่สองจะจัดขึ้นในกรุงเทพมหานครในวันที่ 7 สิงหาคม ที่นครศรีธรรมราช ในวันที่ 10 สิงหาคม ที่ขอนแก่นในวันที่ 20 สิงหาคม และที่เชียงใหม่ในวันที่ 23 สิงหาคม 2550 ที่ผ่านมา
OVTA สมาคมพัฒนาวิชาชีพโพ้นทะเล จัดตั้งขึ้นในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2525 ภายใต้ความร่วมมือของทั้งภาครัฐและเอกชน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือองค์กรธุรกิจในการพัฒนาทรัพยากรบุคคลเพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการทางธุรกิจในยุคโลกาภิวัตน์ และมีส่วนร่วมในการพัฒนาทรัพยากรบุคคลของประชาคมโลก
รถยนต์ของมาสด้าเป็นที่คุ้นเคยในเมืองไทยมานานกว่า 56 ปี และยังคงดำเนินบทบาทสำคัญต่อการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจไทย มาสด้ามุ่งมั่นในการนำอารมณ์สนุกสนานวัยเด็กกลับมาสู่ทุกท่านอีกครั้ง ด้วยการผลิตรถยนต์ภายใต้แนวคิด "ซูม ซูม" อันเปี่ยมไปด้วยคุณลักษณะแห่งความ "ท้าทาย" "สร้างสรรค์" และ "ร่าเริง" เพื่อให้ทุกการขับขี่ของคุณไม่ใช่เพียงการเคลื่อนที่จากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง นอกเหนือจากยนตรกรรมอันทรงเอกลักษณ์แล้ว เรายังทุ่มเทอย่างหนักในการพัฒนาการบริการหลังการขายเพื่อให้ลูกค้าของมาสด้าทุกคนได้รับความพึงพอใจสูงสุด เพราะเรายึดมั่นว่า รอยยิ้มของท่านคือความภาคภูมิใจของเรา
เชิญสัมผัสและทดลองขับรถยนต์นั่งสปอร์ตซีดาน New Mazda3 และสปอร์ตปิคอัพ Mazda BT-50 สปอร์ตปิคอัพ พลังแรง และรถยนต์มาสด้าทุกรุ่นได้ที่โชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐานของมาสด้า 87 แห่งทั่วประเทศ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ มาสด้า สปีดไลน์ หมายเลขโทรศัพท์ 0-2661-9880 หรือต่างจังหวัดโทรฟรี ได้ที่หมายเลข 1-800-226-408

30 ส.ค. 2550

PURE “เพียวไบโอดีเซล” สร้างโรงงาน 400 ล้าน



“เพียวไบโอดีเซล” ได้รับอนุมัติเงินกู้ 400 ล้านบาทจากกสิกรไทย
เร่งสร้างโรงงาน พร้อมผลิต บี 100 ป้อนโรงกลั่นสิงหาคมปีหน้า
***********************************

บริษัท เพียวไบโอดีเซล จำกัด ผู้ผลิตน้ำมันไบโอดีเซล แจ้งความคืบหน้าการก่อสร้างโรงงาน ประกาศแผนการดำเนินงานในอนาคต พร้อมทั้งได้รับการสนับสนุนสินเชื่อจำนวน 400 ล้านบาท จากธนาคารกสิกรไทย เพื่อเป็นทุนก่อสร้างโรงงาน และเก็บเป็นทุนหมุนเวียน ผลิตไบโอดีเซล ด้วยกำลังการผลิต 1 แสนตัน ตั้งเป้ามีกำไร 195 ล้านบาทต่อปี คาดว่าจะสามารถคืนทุนภายใน 5 ปี

นายสุวินัย สุวรรณหิรัญกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพียวไบโอดีเซล จำกัด หรือ PBC เปิดเผยถึงความคืบหน้าการก่อสร้างโรงงานผลิตไบโอดีเซล (B100) ว่าได้มีการออกแบบโรงงานโดยบริษัท เดสเมท บาลเลสตร้า จำกัด ซึ่งมีความเชี่ยวชาญ และมีชื่อเสียงในการสร้างโรงงานไบโอดีเซลเป็นผู้ออกแบบ จัดหาเครื่องมือหน่วยผลิต พร้อมทั้งการตรวจสอบ การติดตั้งเพื่อผลิตไบโอดีเซลตามคุณสมบัติข้อกำหนดของกรมธุรกิจพลังงาน และมีระยะเวลาในการก่อสร้างทั้งหมด 14 เดือน โดยเริ่มต้นก่อสร้างแล้วตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2550 คิดเป็นความคืบหน้าโดยก่อสร้างไปแล้วร้อยละ 22 คาดว่าจะสามารถเริ่มทำการผลิต และจำหน่ายได้ประมาณเดือนสิงหาคม 2551 ด้วยกำลังการผลิตทั้งหมด 100,000 ตัน/ปี หรือประมาณ 300,000 ลิตรต่อวัน ในอนาคตบริษัทฯ มีแผนเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 6 แสนลิตรต่อวัน

นายสุวินัย กล่าวต่อไปว่า “การขยายกำลังการผลิตต้องรอดูปัจจัยในหลายๆ ด้านประกอบ อาทิ ปริมาณและราคาน้ำมันปาล์มดิบ ความต้องการของตลาด รวมถึงนโยบายของรัฐบาลในอนาคตด้วย บริษัทฯ แบ่งสัดส่วนการขายน้ำมัน B100 ในช่วงแรกของการผลิตทั้งหมดเพื่อภายในประเทศ โดยจำหน่ายให้กับระยองเพียวร้อยละ 30 จำหน่ายให้กับโรงกลั่นน้ำมันในประเทศ ร้อยละ 70 นอกจากจะจำหน่ายให้ทั้ง 2 แห่ง ที่กล่าวมาแล้ว บริษัทฯ ยังมีแผนธุรกิจที่จะส่งออก B100 สู่ตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะทางยุโรป ซึ่งเป็นตลาดที่น่าสนใจ เพราะให้ความสนใจเรื่องสิ่งแวดล้อม และบริษัทสามารถผลิตตามข้อกำหนดของตลาดยุโรปได้ ทั้งนี้จะมีการปรับกลยุทธ์การหาตลาดโดยขึ้นอยู่กับราคาซื้อขายในประเทศนั้นๆ ด้วย”

สำหรับการลงทุนในครั้งนี้ บริษัทฯ ได้รับการสนับสนุนสินเชื่อจากธนาคารกสิกรไทย เป็นเงินจำนวน 400 ล้านบาท โดยเงินส่วนนี้จะนำไปใช้ในส่วนของการสร้างโรงงาน และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการซื้อปาล์มน้ำมันดิบ (CPO) 200 ล้านบาท และให้กับบริษัท ระยองเพียวริฟายเออร์ จำกัด (มหาชน) 200 ล้านบาทเพื่อเป็นเงินลงทุนในบริษัท เพียวไบโอดีเซล มีระยะเวลาในการชำระหนี้ทั้งหมด 7 ปี บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้จากการดำเนินการผลิตเต็มไว้ที่ประมาณ 2,500 ล้านบาท/ปี คาดว่าจะมีกำไร 195 ล้านบาทต่อปี และสามารถคืนทุนได้ภายใน 5 ปี ทั้งนี้บริษัทฯ ได้รับการอนุมัติส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน โดยได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับกำไรสุทธิที่ได้จากการประกอบกิจการที่ได้รับการส่งเสริมมีกำหนดเวลา 8 ปีนับแต่วันที่เริ่มมีรายได้ และได้รับการยกเว้นอากรขาเข้าสำหรับเครื่องจักร

ด้านวัตถุดิบที่นำมาใช้ในโรงงานเพียวไบโอดีเซลนั้น เป็นปาล์มน้ำมันดิบ (CPO) ซึ่งจะหาแหล่งวัตถุดิบได้ในแถบทางภาคใต้ เช่น จังหวัดกระบี่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นอกจากนี้ในส่วนของทางภาคตะวันออกก็มี เช่น ระยองและจันทบุรี ปัจจุบันรัฐบาลมีนโยบายให้การสนับสนุนการเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกมากขึ้น โดยบริษัทจะให้ความสำคัญกับการหาซื้อน้ำมันปาล์มดิบภายในประเทศในการป้อนการผลิตของบริษัทเป็นอันดับแรก

“การลงทุนครั้งนี้เป็นการต่อยอดธุรกิจ จากพื้นฐานสนับสนุนให้ประเทศไทยมีพลังงานทางเลือกเพิ่มขึ้น และมีความคุ้มค่าต่อการลงทุนเพราะต้องป้อนเข้าโรงกลั่นระยองเพียว และโรงกลั่นน้ำมัน ซึ่งในขณะนี้โรงงานไบโอดีเซลในประเทศไทยมีไม่กี่แห่ง อีกทั้งนโยบายของรัฐบาลก็สนับสนุนอย่างเต็มที่ และปัจจุบันรัฐบาลกำหนดให้ผู้ผลิตน้ำมันดีเซลสามารถผสมไบโอดีเซล ร้อยละ 2 เป็น B2 ซึ่งสามารถใช้แทนน้ำมันดีเซลได้ทันที และได้กำหนดให้ B2 แทนดีเซลปกติ ตั้งแต่ 1 เมษายน 2551 เป็นต้นไป ส่วนการผสมไบโอดีเซลร้อยละ 5 หรือ B5 นั้น รัฐได้ส่งเสริมด้านราคาให้ B5 มีราคาต่ำกว่าดีเซล 70 สตางค์/ลิตร เท่ากับเป็นการกระตุ้นให้เกิดการใช้อยู่แล้ว ซึ่งทั้งไบโอดีเซล B2 และ B5 นั้นสามารถเติมกับรถยนต์เครื่องดีเซลได้ทันที” นายสุวินัย กล่าว

อย่างไรก็ตามในอนาคตบริษัท เพียวไบโอดีเซล จำกัด มีแผนในการจะนำธุรกิจเข้าไปอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แต่ทั้งนี้ต้องดูที่ปัจจัยในหลายๆ ด้าน ทั้งในเรื่องระยะเวลา ความเหมาะสม ผลประกอบการ เป็นต้น และเป็นธุรกิจต่อเนื่องของระยองเพียว ที่เป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมด ถ้าผลประกอบการของเพียวไบโอดีเซลมีทิศทางที่ดี ก็จะส่งผลทำให้ระยองเพียวมีรายได้เพิ่มมากขึ้น น่าจะสร้างความพอใจและความเชื่อถือให้กับผู้ถือหุ้นได้เป็นอย่างดี
*************************************

เกี่ยวกับเพียวไบโอดีเซล
*************************************

บริษัท เพียวไบโอดีเซล จำกัด หรือ PBC ก่อตั้งด้วยทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท ถือหุ้นเต็มจำนวนทั้งหมดโดย บริษัท ระยองเพียวริฟายเออร์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นคนไทย และบริหารงานทั้งหมดโดยคนไทยที่เป็นผู้ที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญในธุรกิจปิโตรเลียมและปิโตรเคมีมาเป็นระยะเวลานาน โรงงานเพียวไบโอดีเซล ตั้งอยู่บนพื้นที่ 10 ไร่ ติดกับบริษัท ระยองเพียวริฟายเออร์ จำกัด (มหาชน) บริเวณนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง มีวัตถุประสงค์เพื่อผลิตไบโอดีเซล (B100) จากน้ำมันปาล์มดิบเป็นวัตถุดิบ ตามนโยบายการลงทุนด้านพลังงานทดแทนของบริษัทฯ และตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมให้มีการใช้พลังงานทดแทน เพื่อนำไปผสมเป็นน้ำมันไบโอดีเซลตามที่กำหนด

IN’ SPY SINGAPORE TRIP WITH THAITANIUMตะลุยไนท์ไลฟ์กับสปาย ไทยเทเนี่ยม


ตะลุยไนท์ไลฟ์กับสปาย ไทยเทเนี่ยม
***************************************
(ภาพ: ผู้โชคดีจากกิจกรรม IN’ SPY SINGAPORE TRIP WITH THAITANIUM บินลัดฟ้า ตะลุยแสง สี และเสียงยามค่ำคืนกับกลุ่มนักร้องไทยเทเนี่ยมและเหล่าดีเจจากคลื่นฮอตเวฟ)
***************************************
สยาม ไวเนอรี่ ผู้ผลิตสปาย เครื่องดื่มที่ให้ความสดชื่น แฝงไว้ซึ่งความสนุกสนาน ควงแขนกับ “ไทยเทเนี่ยม”

กลุ่มนักร้องฮิพ ฮ็อพชื่อดังแห่งยุค สานต่อแนวคิด “Inspiring” (แรงบันดาลใจ...เกิดขึ้นได้ทุกที่)

ผลักดันจนเกิด “สปาย ไทยเทเนี่ยม” ลิมิเต็ด เอดิชั่น ที่ออกแบบเป็นพิเศษให้โดนใจคนมีสไตล์โดยเฉพาะ

จัดกิจกรรม IN’ SPY SINGAPORE TRIP WITH THAITANIUM

บินลัดฟ้าไปกับผู้โชคดี ตะลุยสิงคโปร์ไนท์ ไลฟ์ ไปกับกลุ่มศิลปินไทยเทเนี่ยม จำนวน 4 วัน 3 คืน

บรรยากาศเปี่ยมไปด้วยความสนุกสนานและมันกันทั่วหน้า

29 ส.ค. 2550

สารพัดปัญหา จาก นายจ๊อก


หมายเหตุ นายจ๊อก เป็นเพื่อนผมเอง เขาจัดรายการวิทยุ เอ็ฟเอ็ม 100.5 อสมท. สี่ทุ่มถึงห้าทุ่ม จันทร์-ศุกร์

(หากข้องใจว่าเขาคือใครลองย้อนไปดูที่) http://10000rpm-moving.blogspot.com/2007/06/4wd.html

**************************************************
ปัญหาจากผู้ฟังรายการเป็นร้อย ๆ พัน ๆ เก็บไว้ ลองเอามาโชว์ เผื่อท่านจะชอบ ถ้าชอบจะลงไปเรื่อย ๆ จนหมด
**************************************************




วอลโว่
รอบเดินเบาตกเครื่องยนต์ดับ
ถาม ใช้รถวอลโว่ 940 GL ปี ‘92 มีปัญหาคือเวลารอบเครื่องยนต์เดินเบาแล้ว เครื่องยนต์จะดับ เป็นเพราะสาเหตุอะไร
ตอบ ปัญหาน่าจะเกิดจากตัวควบคุมรอบเดินเบา (ไอเดิล สปีด คอนโทรล) หรือตัวแอร์โฟร์ อาจจะสกปรก ทำให้เครื่องยนต์ดับ เพราะรอบเครื่องยนต์ต่ำเกินไป ในขั้นแรกให้ใช้สเปย์ฉีดทำความสะอาดก่อน ท่ายังไม่หายอาจต้องเปลี่ยนตัวควบคุมรอบเดินเบาหรือตัวแอร์โฟร์ เนื่องจากเสื่อมสภาพตามอายุการใช้งานแล้ว

มิตซูบิชิ
เปลี่ยนยางใหญ่ซีรีส์สูงรถไม่วิ่ง
ถาม ใช้รถกระบะมิตซูบิชิ สตราด้า แกรนดิส 4 WD 4 ประตู รหัสเครื่องยนต์ 4M40 เวลาเร่งความเร็วเต็มที่จะได้ประมาณเท่าไร และในรถรุ่นนี้จะมีการล็อคความเร็วหรือไม่
ตอบ รถรุ่นนี้ทำความเร็วได้ไม่มากนัก จากการที่เคยทดสอบสามารถทำความเร็วสูงสุดได้เพียง 134 กม./ชม. ยิ่งถ้าไปเปลี่ยนเส้นรอบวงยางซีรีส์สูง ๆ ที่มีขนาดใหญ่กว่า 30 นิ้วขึ้นไป อัตราเร่งยิ่งไม่ดี ทำให้ไปฉุดกำลังของเครื่องยนต์มาก การแก้ไขเพิ่มเติม ที่จะทำให้รถวิ่งดีขึ้น คือต้องติดเทอร์โบ ซึ่งจะทำให้อัตราเร่งดีขึ้น เพราะเครื่องยนต์ของรถรุ่นนี้ไม่มีการล็อคความเร็ว

โตโยต้า
เข้าศูนย์เปลี่ยนได้แต่ไม่ซ่อม
ถาม ใช้รถโตโยต้า คัมรี่ ความจุ 2200 ซีซี ปี 94 วิ่งมา 60,000 กม. เป็นรถมือสอง ปัญหาคือบูทปีกนกมีอะไหล่เปลี่ยนหรือไม่หรือต้องยกทั้งคาน
ตอบ จริง ๆ แล้วตัวบูทปีกนกก็มีอะไหล่เปลี่ยนเหมือนกัน แต่มักจะมีปัญหาว่าบริษัทฯ บางบริษัทเขาจะไม่ยอมเปลี่ยนให้ ถ้าจะเปลี่ยนต้องเปลี่ยนทั้งตัวคานปีกนกเลย และส่วนใหญ่ศูนย์บริการเขาจะไม่ค่อยซ่อม ถ้าอะไรเปลี่ยนได้เขาจะเปลี่ยนให้ เพราะกลัวว่าถ้าซ่อมให้ไป อาจจะใช้ได้ชั่วคราว ยกเว้นจะเข้าอู่อิสระถึงจะซื้ออะไหล่มาเปลี่ยนให้ แต่ไม่รับประกันว่าจะใช้ได้ยาวนานแค่ไหน เพราะอาจเป็นอะไหล่เทียมหรือเป็นอะไหล่มือสอง


ถาม ใช้รถมิตซูบิชิ GLXi ความจุ 1600 ซีซี ปี 94 วิ่งมา 140,000 กม. เป็นรถมือสอง ปัญหาคือ รถรุ่นนี้ เป็นรถประกอบจากนอกใช่หรือไม่ และเวลาออกตัวตอนเข้า เบรกจะมีเสียงดัง อืด ๆ ที่ล้อเป็นอันตรายหรือเปล่า
ตอบ สำหรับรถปี 94 จะมี 2 รุ่น ประกอบนอกคือ รุ่น 1600 ซีซี GLXi และรุ่น 1800 ซีซี เครื่องทวินแคม แต่รุ่นที่คุณใช้อยู่ก็มีประกอบในเมืองไทยเหมือนกัน ส่วนปัญหาเวลาเบรกมีเสียงดัง เฉพาะตอนเช้าน่าจะเป็นเพราะผ้าเบรกมีความชื้นสะสมอยู่ ให้ลองตรวจเช็กดูว่าผ้าเบรกบางหรือสึกหรอแล้วหรือยัง ถ้าเริ่มสึกหรอก็ควรเปลี่ยนใหม่ แต่ถ้ายังอาจเกิดจากสนิมที่จานเบรก เมื่อวิ่งไปสักระยะหนึ่ง มีการเหยียบเบรกบ่อยขึ้น เสียงก็จะหายไปเอง ซึ่งจะไม่มีอันตรายใด ๆ


ถาม ใช้รถโตโยต้า โคโรลล่า เครื่อง 1300 ซีซี ปี ‘86 ปัญหาคือ หนูเข้าไปกัดสายไฟในห้องเครื่องยนต์ มีวิธีแก้ไขอย่างไร
ตอบ วิธีป้องกันที่ได้ผลในระดับหนึ่งคือ เวลาจอดให้เปิดฝากระโปรงทิ้งไว้ โดยให้มีแสงสว่างส่องอยู่ หนูก็จะไม่เข้าไปข้างใน แต่ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าจะมีวิธีไหนป้องกันได้ดีกว่านี้ (ใครมีวิธีที่ดีกว่านี้ช่วยแนะนำด้วยครับ)

ฟอร์ด
ถาม ใช้รถฟอร์ด แอสไปร์ รุ่น 3 ประตู ความจุ 1300 ซีซี ปี 96 วิ่งมา 50,000 กม. ปัญหาคือ ถ้าจะเปลี่ยนมาเติมน้ำมันเบนซินออกเทน 91 จะได้หรือไม่เพราะเดิมใช้ออกเทน 95
ตอบ ฟอร์ด แอมไปร์ ใช้น้ำมันเบนซินออกเทนได้ทั้ง 91 และ 95 แต่ใช้แค่ 91 ก็พอแล้ว จะได้ประหยัดค่าใช้จ่าย

บีเอ็มดับเบิลยู
ถาม ใช้รถ BMW 381 Ai ปี 92 วิ่งมา 65,000 กม. ปัญหาคือตอนเช้ารถจะเร่งไม่ขึ้นต้อบงปล่อยให้ไหลไปแล้วค่อย ๆ แตะคันเร่งจึงจะไปได้ ปรึกษาช่างที่ศูนย์แล้วมีรายการซ่อมแพงมาก และรถจะสั่นและเร่งไม่ขึ้นตลอดทางที่ขับ แต่ก่อนที่ขับจอดรถทิ้งไว้ประมาณ 5 วัน แล้วก็เป็น
ตอบ การที่รถจอดไว้หลายวันอาจจะมีปัญหาในเรื่องของแบตเตอรี่หมด หรือแบตเตอรี่เริ่มเสื่อม เนื่องจากรถจอดทิ้งไว้นาน ซึ่งจะทำให้ระบบไฟมีปัญหาเครื่องสั่นและเร่งไม่ขึ้นแก้โดย เติมน้ำกลั่นหรือถ้าแบตเตอรี่เสื่อมก็เปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่

ฮอนด้า
ถาม ใช้รถฮอนด้า ซีวิค เครื่อง 1600 ซีซี ปี 94 วิ่งมา 103,000 กม. เป็นรถมือสอง ปัญหาคือสตาร์ทรถตอนเช้าพอออกตัว ปล่อยคันเร่งรอบจะตกมาก บางครั้งก็ดับ ถ้าปิดแอร์ด้วยเครื่องก็สั่นเกิดจากอะไร
ตอบ ลักษณะนี้จะมีปัญหาเกี่ยวกับการตรวจเช็กการจับปริมาตรของอากาศ อย่างแรกคือควรตรวจดูไส้กรองอากาศอุดตันหรือเปล่า เพราะถ้าไส้กรองอากาศอุดตัน อากาศก็จะผ่านไปได้น้อยทำให้เครื่องยนต์ไม่มีกำลังสำหรับปัญหาอย่างอื่น ก็อาจเป็นตัวเซ็นเซอร์วัดปริมาณอากาศสกปรก หรือตัวควบคุมรอบเดินเบา ซึ่งจะเป็นกะเปาะสายแวคคั่มอาจจะแตกหรือหลุด
ถาม ใช้รถฮอนด้า ซีวิค ปี 96 เครื่อง 1600 ซีซี วิ่งมา 60,000 กม. ปัญหาคือ เวลาเบรกรถจะสั่นเป็นเพราะคันชัก-คันส่งกลางหรือเปล่า และลูกหมากสึกต้องเปลี่ยนหรือไม่
ตอบ ลูกหมาก คันชัก-คันส่ง สำหรับรถรุ่น ปี 96 นี้ จะเป็นแบบแร็ค แอนด์ พีเนียน แล้วเป็นคานลูกหมากตรงปลายคันชัก-คันส่ง โอกาสเสียค่อนข้างน้อย อันนี้น่าจะเป็นที่ตัวเบรกมากกว่า เพราะวิ่งมา 60,000 กม. แล้วใกล้เคียงว่าผ้าเบรกอาจจะหมด หรือเหลืออยู่บางมาก ในส่วนอื่น ๆ ก็อาจจะเป็นลูกปืนล้อหลวมหรือคลายตัวมากกว่า
ถาม ใช้รถฮอนด้า ซีวิค เครื่อง 1600 ซีซี ปี98 วิ่งมา 40,000 กม. ปัญหาคือ การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในคู่มือบอกว่าใช้ไม่ต่ำกว่า 95 แต่ที่มีคนบอกว่าใช้น้ำมันเบนซิน 91 ได้จริงหรือไม่
ตอบ ข้อมูลตรงนี้ที่ได้มาจากทางฮอนด้า สามารถใช้ค่าออกเทน 91 หรือสูงกว่าได้
ถาม ใช้รถสตราด้า โฟร์วิล ปี 98 วิ่งมาแล้ว 60,000 กม. ความจุ 2800 ซีซี. ปัญหาคือใส่ยางใหญ่ขนาด 31 นิ้ว เพิ่งเปลี่ยนมาใหม่รู้สึกวิ่งไม่ค่อยออก ถ้าจะติดเทอร์โบได้หรือไม่
ตอบ เครื่องยนต์ของสตราด้า จะเป็นบล็อคเดิม รหัส 4M 40 สำหรับตัว 2800 ถ้าใช้ยาง 31 นิ้ว ใช้ความเร็วสูงสุดจะได้ประมาณ 100 – 130 กม./ชม. เนื่องจากเส้นรอบวงยางเพิ่มขึ้นทำให้เข็มของมาตรวัดไมล์เพี้ยนไป ความเร็วจริงจึงสูงกว่าตัวเลขที่โชว์ไว้ แต่เรื่องความอืดจะมีแน่ การแก้ไขโดยการติดเทอร์โบ ถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ ไม่ขอแนะนำ ถ้าต้องการอัตราเร่ง ควรหาเฟืองท้ายที่มีอัตราทดสูงกว่านี้ มาเปลี่ยนซึ่งของโฟร์วิลจะมี แต่จะเปลี่ยนยากหน่อยเพราะเป็นรถโฟร์วิล จะต้องเปลี่ยนทั้งตัวหน้าและตัวหลัง สาเหตุที่ไม่แนะนำให้ติดเทอร์โบเนื่องจากว่าฝาสูบรุ่นนี้เป็นแบบสวอนแชอเบอร์ ถ้าเทอร์โบบูทหนัก หรือเหยียบแช่ด้วยความเร็วสูงคงที่แบบลากยาว จะมีปัญหาเรื่องฝาสูบร้าว คุณจะต้องเปลี่ยนฝาสูบบ่อย แต่ถ้าจะติดตั้งเทอร์โบ ระหว่างมีอินเตอร์คูลเลอร์กับไม่มีอินเตอร์คูลเลอร์มันต่างตรงที่ว่า ถ้ามีแล้วไอดีจะเย็นลงและมีความหนาแน่นเพิ่มมากขึ้น สามารถเพิ่มแรงม้าได้สูงกว่าเดิม โดยที่เครื่องไม่เป็นอันตราย
ถาม ใช้ฮอนด้า แอคคอร์ด ปี 92 รุ่น EXI พอสตาร์ทเครื่องยนต์และขับไปได้ระยะหนึ่งแล้วหยุดดับเครื่อง พอจะสตาร์ทเครื่องใหม่ต้องรอ 2-3 นาที กว่าจะติด อยากทราบว่าเป็นเพราะอะไร
ตอบ เนื่องจากรถรุ่นนี้เป็นระบบหัวฉีดสาเหตุมีอยู่ 2 อย่าง คือ ชุดควบคุมและชุดระบบไฟ แต่อาการอย่างนี้น่าจะเกิดจากระบบไฟมากกว่า เช่นคอยล์อาจเริ่มเสื่อม แบตเตอรี่อาจมีปัญหา ให้สังเกตว่ามีปัญหาอื่นตามมาหรือไม่ เช่นอาจมีอาการกระตุก เครื่องยนต์เดินไม่เรียบ หรือเร่งไม่ขึ้น ถ้าเกิดเพราะระบบไฟ จะมีอาการข้างเคียงตามมา แต่ถ้าไม่มีอาการข้างเคียงปัญหาก็อยู่ที่ชุดควบคุมอาจเป็นตัวที่ช่วยในการสตาร์ท ส่วนใหญ่จะเกิดปัญหากับรถเก่า หรือรถที่มีอายุใกล้ 10 ปี
ถาม รถรุ่นนี้ควรเติมน้ำมันค่าอ๊อกเทนเท่าไรจึงจะเหมาะสม
ตอบ รถฮอนด้า แอคคอร์ด ตั้งแต่ปี 87-97 ควรใช้น้ำมันอ๊อกเทน 91 ส่วนรถปี 98 ลงมา ให้ใช้อ๊อกเทน 95
ถาม ใช้รถมิตซูบิชิรุ่นแชมป์ ปี 94 เวลาขับมีเสียงดังแกร็ก ๆ บริเวณล้อหน้าสั่นสะเทือนตรงพวงมาลัย เอาเข้าไปศูนย์ล้ออาการก็หายไปประมาณ 1 สัปดาห์แล้ว ก็กลับมาอีกอยากทราบว่าเป็นเพราะเหตุใด
ตอบ ปัญหาที่เกิดขึ้นอาจไม่เกี่ยวกับศูนย์ล้อ เสียงที่เกิดขึ้นส่วนมากอาจเป็นที่ลูกปืนล้อ เพราะเสียงจะดังคล้ายคลื่นเหลม ๆ ต่อเนื่องกันเสียงแกร็ก ๆ เป็นจังหวะน่าจะเกิดจากชุดการทำงานช่วงล่าง ตั้งแต่ช็อกอัพน๊อตยึดช็อกอัพซึ่งเป็นตัวเดือยกลาง ซึ่งเป็นปัญหาเกี่ยวกับน็อตเกิดการคลายตัว โดยสังเกตว่าเสียงจะดังขึ้นมาเมื่อตกหลุม หรือเจอพื้นที่ไม่เรียบ ทำให้เกิดการสะเทือนและอาจดังที่ล้อเดียว ที่สำคัญคือเบ้าช๊อกอัพ อาจจะเสื่อมแล้วเป็นรอยฉีกขาด เวลาที่เรามองข้างบนอาจจะไม่เห็น ต้องเปิดฝากระโปรงรถแล้วขย่มเช็กดูจะได้ยินเสียงที่ว่าเกิดขึ้น

28 ส.ค. 2550

กู้ภัยของรัฐหายหัวไปไหน ?






ข่าวรถตกทางต่างระดับดินแดงเช้ามืดวันนี้ สังเกตุให้ดีนักกู้ภัยล้วนเป็นเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ซึ่งมักถึงที่เกิดเหตุรวดเร็วมาก

ตามต่างจังหวัดก็เช่นกันมูลนิธิต่าง ๆ ช่วยกู้ภัยทั่วไป และเร็วกว่าตำรวจเสียด้วยซ้ำ

มีคำถามว่าประเทศไทยไม่มีเจ้าหน้าที่ของรัฐทำงานแบบนี้หรือไร ?

ตำรวจอาจจะมาตรวจเมื่อเหตุการณ์คลี่คลายไปแล้ว

ทำไมมันจึงเป็นแบบนี้ ?

JAZZ เทิดพระเกียรติ 80 พรรษา โดย FORD



ฟอร์ดร่วมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเจริญพระชนมายุครบ 80 พรรษา สนับสนุนจัดคอนเสิร์ตแจ๊สระดับโลก

กรุงเทพฯ ประเทศไทย 27 สิงหาคม 2550 -- ฟอร์ด ประเทศไทย ร่วมฉลองวโรกาสที่พระบาทสมเด็จ- พระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเจริญพระชนมายุครบ 80 พรรษา โดยสนับสนุนการแสดงคอนเสิร์ตของวงแจ๊สชื่อดัง ระดับโลก “The Preservation Hall Jazz Band of New Orleans, Louisiana” รอบพิเศษ 3 รอบ ในเดือน พฤศจิกายนนี้

วง The Preservation Hall Jazz Band of New Orleans เป็นวงดนตรีแจ๊สที่มีชื่อเสียงมายาวนานและมีผลงานการแสดงที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงโปรดมากวงหนึ่ง โดยวงดนตรีนี้ได้เคยมาจัดการแสดงในประเทศไทยแล้วเมื่อ พ.ศ. 2509 รวมทั้งเมื่อครั้งฉลองครบ 50 ปีแห่งการครองราชย์สมบัติ

สำหรับในปีนี้ วง The Preservation Hall Jazz Band of New Orleans, Louisiana จะมาจัดแสดงคอนเสิร์ตเฉลิมพระเกียรติถึง 3 รอบ ซึ่งรอบพิเศษจะจัดขึ้นในค่ำวันที่ 10 พฤศจิกายนนี้ ณ หอประชุมกองทัพเรือ จากนั้นจะมีการจัดแสดงที่จังหวัดขอนแก่นในวันที่ 12 พฤศจิกายน และที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยในวันที่ 13 พฤศจิกายน โดยคณะผู้จัดจะนำรายได้จากการจัดงานขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัยต่อไป

มร. ทอม บริวเออร์ ประธานฟอร์ด ประเทศไทย กล่าวว่า “พนักงาน ผู้จัดจำหน่าย และฟอร์ด ประเทศไทย รู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และภูมิใจมากที่ได้มีโอกาสร่วมฉลองวโรกาสอันเป็นมงคลเช่นนี้ บริษัทฯ ได้ร่วมมือกับสถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย หอการค้าอเมริกัน และสถาบันเอยูเอ ตลอดจนบริษัทชั้นนำในการจัดคอนเสิร์ตของวง The Preservation Hall Jazz Band of New Orleans อีกครั้ง เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติและพระอัจฉริยภาพด้านดนตรีขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และเปิดโอกาสให้คนไทยได้สัมผัสกับวงดนตรีแจ๊สชั้นนำของโลก

“นอกจากนี้ ฟอร์ด ประเทศไทย ยังได้ร่วมสนับสนุนมูลนิธิชัยพัฒนา ซึ่งเป็นมูลนิธิที่ก่อตั้งจากแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เพื่อดำเนินการส่งเสริมโครงการพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ โดยมอบรถกระบะฟอร์ด เรนเจอร์ คันที่ 1 ล้านที่ผลิตจากโรงงานออโต้ อัลลายแอนซ์ ที่จังหวัดระยอง เพื่อเป็นประโยชน์ต่อกิจกรรมโครงการพัฒนาของมูลนิธิฯ ในโอกาสพิเศษนี้ด้วย
*******************************************

ฟอร์ด มอเตอร์ คอมปานี เป็นผู้ผลิตยานยนต์ระดับโลกซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองเดียร์บอร์น รัฐมิชิแกน โดยเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถยนต์ชั้นนำให้แก่ตลาดต่างๆ กว่า 200 แห่งทั่วทั้ง 6 ทวีป บริษัทฯ มีพนักงานทั้งสิ้นประมาณ 260,000 คน โดยเป็นผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำหลายแบรนด์ ได้แก่ ฟอร์ด, จากัวร์, แลนด์โรเวอร์, ลินคอล์น, มาสด้า, เมอร์คิวรี่ และ วอลโว่ อีกทั้งยังมีบริการที่เกี่ยวข้องมากมาย ได้แก่ ฟอร์ด เครดิต ควอลิตี้ แคร์และบริการเช่ารถ โดยเฮิร์ทซ์
*******************************************

ผู้ที่สนใจสามารถเรียกดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ได้ที่เว็บไซต์ www.fordvehicles.com

27 ส.ค. 2550

การทำงานของเครื่องยนต์โรตารี่






http://auto.howstuffworks.com/rotary-engine4.htm
*****************************************************

เว็ปนี้ท่านจะเห็นกลวัฏการทำงานของเครื่องยนต์โรตารี่ ที่มี 1 โรเตอร์ เพลากำลังหมุน 3 รอบ โรเตอร์หมุน ครบ 1 รอบ จะจุดระเบิดมีพลังงานกล 3 ครั้ง

ในเพลากำลังเดียวกันหากมี 2 โรเตอร์ ก็แปลว่า เพลากำลังหมุน 1 รอบมีการจุดระเบิด 6 ครั้ง

เมื่อเป็นดังนี้เครื่องยนต์โรตารี่จึงมีเสียงไม่เหมือนชาวบ้าน โดยเฉพาะหากไม่มีระบบเก็บเสียง อยู่ใกล้ ๆ หูจะแตกเอาให้ได้ ในสนามแข่งควอเตอร์ไม์ บางท่านอาจเคยเจอมาแล้ว

MAZDA RX-8 รุ่นพิเศษ ฉลอง 40 ปี ที่เครื่องโรตารี่ ฮิตไปทั่วโลก






มาสด้าออกรถมาสด้ารุ่น RX-8 รุ่นพิเศษ
สู่ตลาดญี่ปุ่น
*******************************************
เพื่อฉลองครบรอบ 40 ปี การขายรถเครื่องยนต์โรตารีของมาสด้าทั่วโลก
*******************************************
ฮิโรชิม่า, ประเทศญี่ปุ่น, 27 สิงหาคม 2550 – มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่นได้ออกรถมาสด้ารุ่น RX-8 รุ่นพิเศษ สู่ตลาดญี่ปุ่นเพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 40 ปี การขายรถเครื่องยนต์โรตารีของมาสด้าทั่วโลกโดยจะเปิดขายรถยนต์สปอร์ตมาสด้า RX-8 เครื่องยนต์โรตารีรุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 40 ปีนี้ ผ่านทุกตัวแทนจำหน่ายของมาสด้าและมาสด้าแอนฟินี

มาสด้าเปิดตัวรถคันแรกที่ใช้เครื่องยนต์โรตารีเมื่อปี พ.ศ.2510 ด้วยรุ่น คอสโม สปอร์ต (หรือที่รู้จักในนาม 110S ในต่างประเทศ) หลังจากนั้น มาสด้าได้ผลิตและขายรถเครื่องยนต์โรตารีออกมา ได้แก่ แฟมิเลีย โรตารีคูเป้ (ที่รู้จักในนาม R100 ในต่างประเทศ), ซาวานน่า (RX-3), RX-7, และรุ่นยูโนส คอสโม ปัจจุบันมาสด้ากำลังพัฒนาเครื่องยนต์โรตารีให้มีสมรรถนะในการประหยัดน้ำมันและปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม วิสัยทัศน์ระยะยาวของมาสด้าในการพัฒนาเทคโนโลยีแบบ ซูม-ซูม อันยั่งยืน ที่ได้ประกาศเมื่อเดือนมีนาคมปีนี้ ก็คือการมุ่งมั่นที่จะทำเครื่องยนต์ ไฮโดรเจนโรตารีให้ดีขึ้นเรื่อยๆ

รถยนต์สปอร์ตมาสด้ารุ่น RX-8 เครื่องยนต์โรตารีฉลองครบรอบ 40 ปี ได้รับการพัฒนามาจากรุ่น RX-8 Type S (เกียร์ธรรมดา 6 สปีด) และ Type E (เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด) ภายในของรถถูกออกแบบให้สะท้อนความเป็นคอสโม สปอร์ต พร้อมกับเบาะหนังแท้ที่สั่งทำพิเศษสีดำกับเทาอ่อนของ ALCANTARA ® ส่วนสีของตัวถังรถสีพิเศษ คือ สีขาวหินอ่อน พร้อมป้ายบอกรุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 40 ปี ติดบนด้านข้างของรถเพื่อเป็นการฉลองการขายรถมาสด้าเครื่องยนต์โรตารีอย่างสมบูรณ์แบบ อุปกรณ์พิเศษ เช่น โช๊คอัพของ Bilstein และระบบกันสะเทือนด้านหน้าที่จุโฟมยูริเทนเพื่อให้ความนุ่มนวลในการขับขี่และสมรรถนะที่ดีขึ้น

ทางบริษัทได้ตั้งราคาขายสำหรับทั้งรุ่นเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ ไว้ที่ 3.15 ล้านเยน (รวมภาษี) โดยจะผลิตเพียง 200 คันเท่านั้น

คุณลักษณะของรถสปอร์ตมาสด้า RX-8 รุ่นฉลองครบรอบ 40 ปี เครื่องยนต์โรตารี
รุ่นมาตรฐาน
มาสด้า RX-8 Type S (รุ่นเกียร์ธรรมดา 6-สปีด) หรือมาสด้า RX-8 Type E (รุ่นเกียร์อัตโนมัติ 6-สปีด)
อุปกรณ์พิเศษ
ภายนอก
• ตัวยึดชุดไฟสีเมทาลิคกึ่งแวววาว (สำหรับไฟหน้าและไฟท้าย)
• ป้ายบอกรุ่น 40TH ANNIVERSARY ROTARY ENGINE
• ล้ออัลลอยด์ ขอบ 18 นิ้ว สีเทาเข้ม
• ไฟหน้าตัดหมอก (พร้อมไฟสะท้อนสีฟ้า)
ภายใน
• เบาะหนังแท้สั่งทำพิเศษสีดำและสีเทาอ่อนของ ALCANTARA ® พร้อมขอบประตูหนังสังเคราะห์สีเทาอ่อนแสดงถึงความเป็น คอสโม สปอร์ต ที่ไม่เหมือนใคร
• เบาะคู่หน้าไฟฟ้าปรับระดับ 8 ทิศทาง พร้อมระบบปกป้องหลัง
• พวงมาลัยและเบรคมือที่หุ้มด้วยหนังดำพิเศษ (เย็บด้วยด้ายสีเทา)
• หัวเกียร์หุ้มด้วยหนังดำพิเศษ (เย็บด้วยด้ายสีเทา) ในรุ่นเกียร์ธรรมดา
• แป้นคันเร่งและที่พักเท้าอะลูมิเนียม (เป็นอุปกรณ์พิเศษสำหรับรุ่นเกียร์อัตโนมัติ 6-สปีด แต่เป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับรุ่นเกียร์ธรรมดา)
• กระจกเคลือบน้ำยาพิเศษไล่น้ำ (กระจกหน้า, กระจกประตูหน้า, กระจกข้าง)
• ระบบเปิด-ปิดประตูและสตาร์ทเครื่องยนต์โดยไม่ใช้กุญแจ
เครื่องยนต์/แชสซีส์
• เครื่องยนต์โรตารี
การใช้โรเตอร์ทำให้เกิดสมดุลของน้ำหนักและการหมุนของเครื่องยนต์ ได้มีการเสริมสมรรถนะของเครื่องยนต์โรตารีให้ขับขี่ได้นุ่มนวลขึ้น
• ฝากระโปรงพิเศษ
• โช๊คอัพ Bilstein
โช๊คอัพ Bilstein ถูกออกแบบเฉพาะสำหรับรุ่น RX-8 เพื่อสมรรถนะและความสะดวก สบายในการขับขี่ที่ดีขึ้น
• ระบบกันสะเทือนด้านหน้าของรถที่ใช้โฟมยูริเทน
โฟมยูริเทน ทำให้สามารถลดการสะเทือน เพื่อผลตอบรับและความรับรู้ความรู้สึกผ่านพวงมาลัยที่ดีขึ้น
• ผิวสัมผัสเบรคที่กว้างขึ้น (เป็นอุปกรณ์พิเศษสำหรับรุ่นเกียร์อัตโนมัติ 6-สปีด แต่เป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับรุ่นเกียร์ธรรมดา)
• ยางรุ่น 225/45R18 91W และล้ออัลลอยด์ ขอบ 18 นิ้ว (เป็นอุปกรณ์พิเศษสำหรับรุ่นเกียร์อัตโนมัติ 6-สปีด แต่เป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับรุ่นเกียร์ธรรมดา)
สีตัวถังรถ เป็นสีพิเศษ คือ สีขาวหินอ่อน

***********************************

เชิญสัมผัสและทดลองขับรถยนต์นั่งสปอร์ตซีดาน New Mazda3 และสปอร์ตปิคอัพ Mazda BT-50 สปอร์ตปิคอัพ พลังแรง และรถยนต์มาสด้าทุกรุ่นได้ที่โชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐานของมาสด้า 87 แห่งทั่วประเทศ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ มาสด้า สปีดไลน์ หมายเลขโทรศัพท์ 0-2661-9880 หรือต่างจังหวัดโทรฟรี ได้ที่หมายเลข 1-800-226-408

กาญจนบุรี เมืองใกล้ชายฝั่งทะเล



กาญจนบุรี เมืองใกล้ชายฝั่งทะเล
****************************

หลังกลับจากทดสอบรถแคปติวาที่ป่าแถวทองผาภูมิแล้ว ก็มาดู Google Earth พื้นที่ใกล้เคียงเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม ก็พบว่า หากดูจากแผ่นที่จะเห็นว่ากาญจนบุรีห่างจากชายฝั่งทะเลของพม่าไม่ถึง 100 กิโลเมตร หากวัดจากขอบชายแดนบางจุด แค่สี่สิบกว่ากิโลเมตรเท่านั้น

ทำให้หน้ามรสุมอย่างนี้ที่กาญจนบุรีมีอากาศชุ่มฉ่ำฝน และชื้น เย็นมาก จนผมเป็นหวัด

หากพม่าเปิดชายแดนฝั่งนี้และมีถนนดี ๆ คนไทยคงไปเที่ยวมาก เพราะไม่ไกล และได้สัมผัสกับป่าเขาก่อนถึงชายทะเลยาวเหยียด

2 ภาพนี้ เป้นสถานที่น่าจะสวยงามของฝั่งทะเลพม่า มีทะเลเซาะเข้าไปในแผ่นดิน มีเกาะขนาดใหญ่ด้วย ห่างจากทองผาภูมิสามสิบกว่ากิโลเมตรเท่านั้น

ชาวออฟโรดน่าลุยไปเยี่ยมบ้าง

Meinmadaung แหล่งท่องเที่ยวของพม่า



ลองค้นชื่อเมืองต่าง ๆ รอบ ๆ ภูมิประเทศชายฝั่งที่ว่าน่าจะสวยงามของพม่า ท่ีห่างจากทองผาภูมิสามสิบกว่ากิโลเมตร ปรากฎว่า Meinmadaung และเมืองอื่น ๆ มีโรงแรมที่พักพร้อม เป็นแหล่งท่องเที่ยวของเขาเหมือนกัน

น่าไปดูจริง ๆ

เบนซิน vs.ดีเซล







เบนซิน vs.ดีเซล

*************************
ภาพรถแข่งที่ใช้เครื่องเทอร์โบดีเซล ดูรายละเอียดได้ที่ http://en.wikipedia.org/wiki/Audi_R10

*************************

ตามหลักการทำงานเครื่องยนต์ทั้งสองแบบมี 4 กลวัฏ หรือ 4 จังหวะเหมือนกัน คือ ดูด-อัด-ระเบิด-คาย

แต่เครื่องยนต์เบนซินจะจุดระเบิดด้วยหัวเทียน เมื่อลูกสูบเลื่อนขึ้นในจังหวะอัด เกือบถึงศูนย์ตายบน หรือเกือบจะสูงสุดนิดหน่อย หัวเทียนก็จะจุดส่วนผสมอากาศกับน้ำมัน ให้ระเบิดผลักลูกสูบลงไป

ส่วนเครื่องยนต์ดีเซลนั้น ลูกสูบจะอัดอากาศเปล่า ๆ ขึ้นไปด้วยอัตราส่วนการอัดในกระบอกสูบที่สูง เช่น 17.5:1 แทนที่จะเป็น 9.5:1 หรือใกล้เคียงนี้ในเครื่องยนต์เบนซิน

เนื่องด้วยเครื่องยนต์ดีเซลซึ่งมีอัตราส่วนการอัดอากาศสูงขนาดนี้ทำให้เกิดความร้อนสูงมาก จนสามารถจุดระเบิดน้ำมันดีเซลจากหัวฉีด หรือละอองจากห้องไอดีเซลแรงดันสูงที่เรียกว่าคอมมอนเรลได้โดยตรง ไม่ต้องมีหัวทียน

ทำให้เครื่องยนต์ดีเซลเป็นเครื่องยนต์ที่คล้าย ๆ เป็นระบบปิด ไม่ต้องกลัวว่าระบบไฟจะช๊อตที่สายคอยล์ สายหัวเทียนแล้วเครื่องดับ คือสามารถลุยน้ำได้ดีกว่า หากซีลท่อหายใจให้ดี ๆ หัวรถจมน้ำก็ยังไปได้ เพราะมีสนอเกิ้ลหรือท่อหายใจอยู่สูงขึ้นไป อย่างที่ชมรมออฟโรดชื่นชอบนั่งเอง (ระบบช่วยจุดระเบิดดีเซลจะใช้หัวเผาในช่วงที่เครื่องเย็นเท่านั้น อาจมีปัญหาในเมืองหนาวเมื่อเครื่องเย็นติดเครื่องยาก)

เหตุผลที่ยังนิยมใช้เครื่องเบนซินทั้ง ๆ ที่มีความยุ่งยากในระบบจุดระบิดก็เพราะเรื่องเบนซินมีอัตราส่วนการอัดน้อย เครื่องจึงเดิน
นุ่มนวล รอบจัด อัตราเร่งดีกว่า ไม่มีเสียงดังกราว ๆ ๆ ๆ โดยเฉพาะเครื่องรุ่นเก่า ๆ ดังมาก บางยี่ห้อคุยโม้ว่าประหยัดน้ำมัน แต่วิ่งเข้าปากซอย ที่บ้านเมียก็รู้แล้วว่าผัวกำลังจะมาถึง

มันดังกราว ๆ ๆ ขนาดนั้น

เครื่องยนต์เบนซินมีอัตราเร่งดีกว่า แต่มีแรงบิดน้อยกว่า การฉุดลากจึงด้อยกว่า(ทำให้รถบรรทุกทั้งหลายใช้เครื่องดีเซลกันทั้งนั้น ไม่เว้นแม้แต่เครื่องหัวจักรลากตู้รถไฟ ก็เป็นเครื่องดีเซล เครื่องเรือเดินทะเลก็เป็นเครื่องดีเซลเป็นส่วนมาก)

ในยุคหลัง ๆ เครื่องยนต์ดีเซลได้ปรับปรุงใหม่ มีระบบอัดอากาศเพิ่มประสิทธิภาพเชิงปริมาตรได้ดีขึ้นมาก จะเห็นว่าเครื่องยนต์ในแคปติวา 2000 ซีซี ดีเซล เทอร์โบแปรผัน มีแรงม้าสูงกว่าเครื่องเบนซิน 2.4 ลิตร หรือ 2400 ซีซี (150/136) มีการออกแบบให้เกิดแรงสั่นสะเทือนน้อยลง

เครื่องยนต์ดีเซลมีมาตรฐานระดับแก๊สพิษลดน้อยลง และเขม่าไอเสียน้อยลง จนกระทั่งสามารถคบหากันได้

หากส่วนต่างราคาน้ำมันยังมีมากอยู่เคร่ืองยนต์ดีเซลจะเป็นที่นิยมมากยิ่งขึ้น

วันนี้รถแข่งระดับโลกบางทีมก็ใช้เครื่องยนต์ดีเซลกันแล้ว

....อยู่ที่ผู้ใช้จะตัดสินใจเอาเอง ว่าชอบแบบไหน !?

26 ส.ค. 2550

CAPTIVA ดีเซล แพงกว่าหนึ่งแสน คุ้มหรือไม่?






จากการลุยในเส้นทางหลายรูปแบบท่ามกลางสายฝนในป่ากาญจนบุรี เมื่อเทียมสมรรถนะกับรุ่นเบนซิน 2.4 LT ขับ 4 ล้ออัตโนมัติ ซึ่งมีเครื่องยนต์พลัง 136 แรงม้า ที่ 5000 รอบ/นาที แล้ว รุ่นดีเซล VCDi 2.0 LT พลัง 150 แรงม้าที่ 4000 รบ/นาที ดูจะมีภาษีกว่า แม้ว่าทั้งสองรุ่นจะใช้อัตราทดเกียร์เดียวกัน แต่เฟืองท้ายของดีเซลทดน้อยกว่า คือ 2.397 แทนที่จะเป็น 2.606 แบบ รุ่นเบนซิน

อัตราทดที่น้อยกว่าหมายถึงเครื่องยนต์ทำงานที่รอบต่ำกว่า เมื่อต้องการความเร็วเท่ากัน

แม้น้ำหนักตัวเปล่ารุ่นดีเซลขับ 4 ล้อ อัตโนมัติจะหนักกว่าประมาณ 50 กิโลกรัม ก็ยังได้เปรียบในแง่ประสิทธิภาพทางความร้อนของเครื่องยนต์เอง เนื่องจากเครื่องยนต์ดีเซลในตัวของมันเองสามารถใช้ค่าความร้อนจากเชื้อเพลิงเปลี่ยนเป็นพลังงานกลได้ประสิทธิภาพสูงกว่าอยู่แล้ว

สังเกตุง่าย ๆ จากอัตราส่วนการอัดในกระบอกสูบสูงถึง 17.5/1 เมื่อเทียบกับเบนซิน 9.6/1 จะเ็นว่าเกิดการอัดในกระบอกสูบสูงมาก จึงเกิดแรงบิดมากตามออกมาด้วย คือได้ที่ 320 นิวตัน-เมตร ที่ 2000 รอบ/นาที กับเครื่องเบนซิน 2.4 อยู่ท่ี 220 นิวตัน-เมตร ท่ี 2200 รอบ/นาที

ได้ระบบอัดอากาศเทอร์โบแปรผันเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพทางปริมาตรของอากาศท่ีชาร์ตเข้าสู่ห้องเผาไหม้ ทำให้ดีเซล เครื่องนี้ของแคปติวา โดยรวมแล้วน่าใช้มาก

เสียงเงียบ อัตราเร่งดี เวลาขับแทบไม่รู้ว่าคือเครื่องยนต์ดีเซล

ขณะทดสอบกว่า 277 กิโลเมตร อัตราความสิ้นเปลืองน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 10.8 กิโลเมตร/ลิตร ครับ

เมื่อเทียบกับอัตราความสิ้นเปลืองเฉลี่ยประมาณ 11.9 กิโลเมตร/ลิตร ของเครื่องเบนซิน 2.4 LT แล้วผู้
ใช้ต้องต้องสินใจเอาเองว่าจะเลือกแบบไหนดี

แต่อัตราความสิ้นเปลืองของดีเซลมีเงื่อนไขการทำงานหนักกว่าเนื่องจากต้องลุยทางวิบากที่ระบบขับเคลื่อนต้องเป็น 4 ล้อ มากกว่า โดยเฉพาะในการทดสอบช่วงที่ 2 ถึง 82.8 กิโลเมตร เป็นทางออฟโรดที่ผิวทางไม่ราบเรียบเป็นส่วนมาก

แต่เมื่อคำนึงถึงระบบช่วยต่าง ๆ ในการทรงตัว ในการต่อสู้กับแรงโน้มถ่วงขณะขับลงเขาได้ปลอดภัยกว่าแล้ว ดีเซลน่าใช้กว่ามาก

หากรัฐบาลยังควบคุมราคาดีเซลให้ถูกกว่าเบนซินตลอดไปยิ่งน่าเลือกใช้ทั้ง ๆ ที่แพงกว่า 1 แสนบาท

**********************************************

25 ส.ค. 2550

ขับ CAPTIVA ดีเซล 150 แรงม้า จากทองผาภูมิถึงเนินสวรรค์






ช่วงที่ 2 ทองผาภูมิ-เนินสวรรค์ 82.8 กิโลเมตร
*****************************************


82.8 กิโลเมตร ขับแบบต้องตื่นตัวตลอดเวลา ทางข้างหน้าเหมือนเกมส์แรลลี่ ผมไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร มีหลุมบ่อตรงไหน หรือทางจะลงขนาดไหนเมื่อพ้นทางโค้งออกไป อาจมีทางลงชัน ๆ พร้อมหินลอยท้าทายอยู่ก็ได้


เพื่อนร่วมทดสอบ 4 คน ขับไปแล้วหนึ่ง ผมเป็นคนขับช่วงที่ 2 (โดยได้รับการยินยอมและเชื้อเชิญจากคุณจาลึก เอี่ยมเจริญ เพื่อนคนนี้ท่านคงจำได้ เขาเคยทดสอบรถไทรตัน ผ่านทะเลทรายโกบีไปจีน มองโกเลีย ถึงรัซเซียมาแล้ว เป็นหมื่น ๆ กิโลเมตร บอกว่าจะขับช่วงที่ 3 จากเนินสวรรค์ถึงจุดพินิชที่ริมแม่น้ำแควน้อย)


เมื่อปรับระยะต่าง ๆ ของเบาะนั่ง เลื่อนด้วยไฟฟ้า ขึ้น-ลง หน้า-หลัง และปรับพนักพิง ให้เหมาะกับช่วงแขน ปรับพวงมาลัยให้กระชักมือแล้ว ก็เริ่มกันเลย


ขับไปสักครู่ยังไม่ถึงทางโหดฝนก็เริ่มโปรยปรายลงมา ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติทำงานทันที และเร่งสปีดได้เองเมื่อเม็ดฝนหนาแน่นขึ้น แต่ปัดน้ำฝนกระจกหลังต้องคอนโทรลเอง มันไม่เปิดเมื่อฝนตก


เส้นทางโดยรวมเป็นอย่างนี้ครับ


ออกจากปั๊มเชลล์ เลี้ยวซ้ายตรงไปประมาณ 2.2 กิโลเมตร ถึงสามแยกไฟแดง แล้วเลี้ยวขวาไปทางอำเภอสังขละบุรี-เกริงกาเวีย (ทางหลวงหมายเลข 323) ตรงไปข้ามสะพานห้วยอู่ล่อง เส้นทางช่วงนี้เป็นทางเรียบ 2 ช่องทาง สลับทางวิ่งขึ้น-ลงทางลาดชัน เป็นบางช่วง ก่อนเลี้ยวขวาตรงหน้าพุทโธ (พระพุทธรูปองค์ใหญ่ปรางพระธานพร) ไปอุทยานแห่งชาติเกริงกาเวีย (เกริงกาเวีย เป็นภาษากะเหรี่ยง แปลว่า บึงใหญ่) เมื่อผ่านด่านตรวจของอุทยาน แล้วเป็นทางลูกรังขรุขระ ทางหินลอย และทางวิบากเล็ก ๆ ไม่โหด


ช่วงแรกนี้เป็นทางขึ้น-ลงเขา ผมเลือกใช้เกียร์แบบเปลี่ยนเองไปก่อน เพื่อความมั่นใจว่าจะสามารถควบคุมแรงบิดตามที่เราต้องการได้ เมื่อมองเห็นเนินทางข้างหน้า แต่ในใบนำทางได้แนะนำว่า ใ้ห้เลือกใช้เกียร์ต่ำ เพื่อทดสอบอัตราเร่ง และแรงบิด ที่สามาถลุยผ่านทางลาดชันได้อย่างสบาย ๆ


ผมลองเปลี่ยนมาเป็นตำแหน่ง D บ้าง ให้เกียร์เลือกตำแหน่งเอง ก็ไปได้ราบรื่นดี แต่เมื่อเราผลักเกียร์ไปทางซ้าย เพื่อเข้าสู่โหมดเปลี่ยนสปีดเอง มันก็อยู่ในตำแหน่งเกียร์ต่ำ 2 หรือ 3 เหมือนที่เราคอนโรลเอง


ผมจึงกลับมาใช้เกียร์แบบเปลี่ยนเองเป็นส่วนมาก ยกเว้นทางผู้ควบคุมที่อยู่หน้าสุด (เบอร์ 00) แจ้งผ่านทางวิทยุสื่อสารในรถว่าให้ลองใช้เกียร์ D ดูตรงจุดนั้นจุดนี้ ก็ลองตามบ้าง


ในช่วงทางเริ่มมีหลุมบ่อมากขึ้น ผมปรับเลื่อนเบาะมาข้างหน้าอีกเล็กน้อย ให้มือ และแขนสองข้างสามารถควบคุมพวงมาลับได้คล่องขึ้น โดยช่วงศอกหย่อนนิดหน่อย


ทางแบบนี้เหมาะกับการคอนโทรลด้วยตัวเองจริง ๆ ครับ เพื่อความสนุกสนาน เพลิดเพลินในการขับ ก็ต้องปรับตามสไตล์ของตัวเอง


ช่วงนี้สามารถทดสอบระบบช่วงล่างอิสระ 4 ล้อ ได้ดี ระบบช่วงล่างหน้าแม็คเฟอร์สันสตรัท มีเหล็กกันโคลง และช่วงล่างหลังแบบมัลติลิ้ง 4 จุด มีเหล็กกันโคลง แถมระบบยกปรับระยะความสูงด้านท้ายอัตโนมัติ( เมื่อบรรทุกสัมภาระมาก ๆ ท้ายจะไม่ย่อนลงมาก)


จริง ๆ แล้วระบบปรับยกท้ายนั้นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยการนอกจากปรับความสูงแล้ว ยังคอนโทรลโช้คอัพหลังทั้งซ้าย-ขวา เพื่อช่วยรักษาสมดุลให้มันอยู่ในระดับเดียวกัน ป้องกันอาการหน้าเชิด และทำให้การทรงตังดี เมื่อร่วมถึงการทำงานของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบอัตโนมัติ (AWD:ACTIVE ON DEMAND) ซึ่งจะเปลี่ยนจากขับ 2 ล้อหน้าเป็น 4 ล้อ โดยอัตโนมัติ ซึ่งแน่นอนทางลื่น ลาดชัน ทางหินลอย เหล่านี้ต้องเป็นขับ 4 ล้อ แน่นอนอยู่แล้ว


ในเส้นทางหลายหายแบบออฟโรดช่วงที่ 2 นี้ ระบบเสริมแรงบิด (ACTIVE TORQUE ON DEMAND) ทำงาานกระจายแรงบิดที่เหมาะสมสู่ล้อทั้ง 4 ได้เหมาะกับพื้นผิวทางที่ล้อแต่ละล้ออาจจะอยู่ในภาวะที่ลื่น ขรุขระ หรือมีความฝืดต่างกัน เมื่อรวมระบบต่าง ๆ เหล่านี้ทำงานประสานกัน ทำให้ แคปติวา ดีเซล 2.0 ลิตร 150 แรงม้า ที่มี แรงบิด 320 นิวตันเมตร ที่ 2000 รอบ/นาที ตั้งแต่รอบต่ำ ๆ ไปได้ เหมือนขับบนถนนแห้ง


จากนั้นขับผ่านบ้านพุเยฯ ทุ่งนางครวญ และอุทยานแห่งชาติลำคลองงู ไปเลี้ยวขวาที่ระยะทริปมิเตอร์รวมตั้งแต่ช่วงที่ 1 ที่ 162.8 กม. ไปทางโรงเรียนบ้านเหมืองสองท่อ ซึ่งเด็ก ๆ กำลังเลิกเรียนเดินบนถนนเป็นแถวน่ารักมาก เมื่อเราเปิดกระจกทักทายเด็ก ๆ ก็ยกมือไหว้กันเป็นแถว เด็กชนบทน่ารักอย่างนี้นี่เอง ส่วนหนึ่งคงเป็นกะเหรี่ยง


จากนั้นขับบนทางลูกรังไปจนสุดถนน เจอสามแยก เลี้ยวซ้าย แล้วก็ลี้ยวขวา ตรงไปอีก 1.9 กม. เลี้ยวซ้ายไปทางโรงเรียนวัดป่าถ้ำภูเตย ตรงไปอีก กม. ถึงทางแยกรูปตัววาย ก็ไปทางขวาโรงเรียนนี้เปิดสอบในป่าเขามาตั้งแต่ ปี 2524 เป็นโรงเรียนในหุบเขา มีป่าไม้หนาแน่น ในบริเวณเหมืองสองท่อ


จากนั้นวิ่งเลาะในทางเหมืองแร่เก่า ออกไปเชื่อมต่อโรงแต่งแร่เดิม ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนเป็น "เนินสวรรค์" เป็นสถานที่อดีตอันรุ่งโรจน์ของเหมืองสองท่อนี้ อยู่ในพื้นที่ตำบลชะแล อำเภอทองผาภูมิ ห่างจากถนนใหญ่ลึกเข้าไปในผืนป่าสงวน 40 กิโลเมตร


เขาเคยขุดแร่ตะกั่วกันระหว่าง 2535-2545 ก็ยังมีร่องรอยการขุดทำเหมือง หากดูจาก Google Earth จะเห็นว่าบริเวณนี้มีหลุมบ่อเหมืองแร่ท่ามกลางป่าเขาอย่างชัดเจน


ทำลายป่าไปพอสมควร แต่มันเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีการให้สัมปทาน และก็หมดไปแล้วเมื่อ 5 ปี ก่อน อาจจะทิ้งความเสียหายให้ฝืนป่า และมีเส้นทางหลายสิบกิโลเมตรวนไปมา ตามภาพดาวเทียมก็เห็นว่ามันป่าทึบชัด ๆ แต่มีทางลูกรังทางดิน เข้าไปเหมือนใยแมงมุม


ที่เนินสวรรค์นี่เองที่ผมเดินไปเดินมา ตามซุ้มอาหารต่าง ๆ ท่ามกลางละอองฝนในป่า เกือบครึ่งชั่งโมง เสื้อผ้าชื้นไปหมด เมื่อกลับถึงที่พักช่วงดึก ๆ จึงมีอาการหวัดเกิดขึ้น เมื่อทานยาแก้หวัดก็ง่วงนอน ทำให้การรายงานล่าช้าอย่างที่ว่า


ชมเนินสวรรค์ที่เปียกชื้น พร้อมกับอาหารจานปิ้งย่างแบบหรูสไตล์เชพวี ทั้ง ๆ ทั่อยู่ในป่า ให้ความรู้สึกตื่นเต้นพอสมควร นี่หากเป็นหน้าหนาวคงโรแมนติกน่าดู


จุดที่เรียกว่าเนินสวรรค์นี้ อยู่ในพื้นที่ของหน่วยพิทักษ์ป่าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ใน Google Earth สามารถค้นหาเจอครับ


***************************************


ในช่วง 2 82.8 กิโลเมตร ในความควบคุมของผม ได้ทดสอบทุกระบบ ไม่ว่าจะเป็นระบบป้องกันการลื่นไถล TCS (TRACTION CONTROL SYSTEM) ซึ่งจะทำงานประสานกัน 2 อย่าง คือไปลดแรงขับที่ล้อที่ทำท่าว่าจะหมุนฟรีให้มีแรงบิดพอเหมาะ ไม่มากจนล้อใดล้อหนึ่งปั่นฟรีทำใฟห้เสียการทรงตัว เมือ่ทำงานกับระบบ AWD (ACTIVE ON DEMAND) หรือระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ อัตโนมัติ ที่จะกระจายแรงขับสู้ล้อต่าง ๆ ตามความเหมาะสมกับสภาพพื้นผิวทางขณะนั้น ๆ


เมื่อมีระบบ ARP (ACTIVE ROLLOVER PROTECTION )ประสานเข้ามาเพื่อป้องนการพลิกคว่ำ จากการหักพวงมาลัยหลบสิ่งกีดขวาง หรือการตั้งใจหักพวงมาลัยทดสอบบาางแบบต่าง ๆ ซึ่งทางลื่น ๆ ผมได้ก็ปุ่มให้ระบบเหล่านี้ทำงาน มันจะไปควบคุมการกระจายแรงเบรกให้เหมาะสมทั้ง 4 ล้อ เพื่อป้องกันอาการปักเป่อย่างได้ผมชะงัด หากไม่เร็วมากระบบนี้ควมคุมได้แน่นอน แต่เร็วมาก ๆ มีแรงหเหวี่ยงหนีศูนย์กลางมหาศาลก็คงเอาไม่อยู่เหมือนกัน


ระบบ HDC (HILL DECENT CONTROL) ระบบนี้เป็นระบบที่ผู้ใช่อยากรู้ว่าเป็นอย่างไร ผมก็ได้ทดสอบ สองสามครั้งในทางลงชัน ๆ เมื่อเรากดปุ่มนี้ก็จะมีไฟแสดงสถานะที่หน้าปัด เราก็ปล่อยรถไหลลงไป จะมีเสียงดังอื๊ดดดด เป็นช่วง ๆ จากากรทำงานการสั่งการให้เครื่องยนต์และเบรกทำงานประสานกันโดยอัตโนมัติ โดยเราไม่ต้องแตะเบรกตลอดเวลา


ระบบนี้เหมาะสมกับการขับลงเขานาน ๆ เช่น ดอยอินทนนท์ ที่ขาลง จะลงตลอด ที่ดอยแม่สลอง อำเภอแม่จัน เชียงรายก็เหมาะสมมากกับระบบนี้ เนื่องจากเป็นการควบคุมแรงเบรกด้วยเครื่องยนต์ และระบบเบรกที่เหมาะสม ไม่ทำให้เบรกเสียกาย หรือร้อนจัด


*************************************
สรุปแล้วบททางออฟโรดแบบไม่โหดหนักแบบนี้ หากไปเดี่ยว ๆ คันเดียว หรือขับระยะห่างกันมาก ๆ ก็สามารถไปได้รวดเร็วเป็นสองหรือสามเท่า ได้อย่างปลอดภัย หากขับรถชำนาญทางออฟโรดถือว่าง่ายมาก และคงไม่ต้องใช้เวลา ถึง 120 นาที หรือ สองชั่วโมงอย่างทริปนี้


************************************


จากนั้นก็เป็นช่วงทุดท้าย 77.9 กิโลเมตร จากเนินสวรรค์-ท่าเทียบเรือ ริโซเทล ริมแม่น้พแควน้อย 70 นาที โดยคุณจาลึก เอี่ยมเจริญ แห่ง นิตยสาร ออฟโรดขับต่อไป


ช่วงนี้ผมกลับมานั่งหลังซ้าย ให้นักข่าวสังเกตการ์จากกรังด์ปรี์ ไปนั่งหน้าซ้าย


เริมด้วยทางลงเขา ที่ทดสอบระบบ HDC ได้ดี ก็มีเสียอื๊ดดดด ไปเป็นระยะ ๆ หน่วงลดความเร็วโดยไม่ต้องเหยียบเบรก เครื่องยนต์จะลดรอบลลงเอง


เดินทางลงเนินสวรรค์มุ่งสู่หมุ่บ้านสะพานลาว ผ่านนิคมสหกรณ์ฯ กม.109 แล้วเลี้ยวซ้ายที่ระยะ 220.1 กม. สู่ทางหลวงแผ่นดิน 323 เหมือนเดิม มุ่มหน้าสู่เมืองกาญจนบุรี ที่หลัก กม. 54.5 เข้าสู่ท่าเทียบเรือรีโซเทลฯ ลงเรือหางยาวในแม่น้ำแควน้อยที่กำลังไหลแรงด้วยน้ำฝน ขุ่นสีกาแฟใส่นม ไปจบที่รีโซเทล รีสอร์ท อันสวยงาม ท่ามกลางป่า และสายน้ำ ท่ีมีหน้าผาอยู่ฝั่งตรงข้าม


เย็นมากแล้วก็เข้าสู่สรุปผลการทดสอบ สู่งานเลี้ยงที่ดูเท่ห์ ด้วยบอดี้เวิร์กของเหล่านักยิมนาสติกลีลา ระดับทีมชาติอันงดงาม เคล้าด้วยแจ๊สสไตล์ทรรีโอที่คึกคัก


เล่นเอาเลือดฉีดแรงด้วยเบียร์อเมริกันแท้ บั๊ดไวเซอร์ขวดเล็ก ไม่ต้องมีแก้ว


งานนี้ได้สัมผัสผู้บริหารคนใหม่อยู่ใกล้ชิด ผมได้สัมผัสมือกับ Mr.Steve Carlisle ประธานกรรมการ จีเอ็ม ประจำภูมิภาคเอเชียตะวัยออกเฉียงใต้ และประธาทบริษัท เจนเนอร์รัล มอเตอร์ ( ประเทศไทย) จำกัด สองสามรอบตั้งแต่บนรถไฟ และหลังจากงานเลี้ยงเลิกลาแล้ว


บ๊อสใหม่ของ จีเอ็ม คนนี้ ชอบลุย และพบปะสื่ออย่างกันเองมาก พยายามศึกษามาดไทย ๆ ทักทายสวัสดีชัดเจน อีกสักระยะ คงเป็นที่คุ้นเคยกับผู้สื่อข่าวทุก ๆ คน


*****************************************

ขับ CAPTIVA ดีเซล ออลวีลไดร๊ฟ์เข้าป่าที่ทองผาภูมิ






การทดสอบแบ่งออกเป็น 3 ช่วง ช่วงแรกเป็นทางเรียบ จากสถานีท่ากิเลน ที่ดัดแปลงเป็นสถานีแคปติวาชั่วคราว ไปตามทางสาย 323 ระยะทาง 116.4 กิโลเมตร ถึงปั๊มเชลล์ กม.ที่ 124

ช่วงแรกนิตยสาร DRIVE TIME ขับไปก่อน เป็นทางเรียบทั้งหมด ผมนั่งหลัง เนื่อง
จากทางเรียบขับรุ่นเบนซินมามากแล้วกว่าพันกิโลเมตรช่วงที่ยืมมาทดสอบเดี่ยว

จากนั้นก็เป็นช่วงที่ 2เปลี่ยนคนขับที่จุดนี้ ก็เป็นคิวบู๋ที่ผมต้องขับบ้าง

ระยะทาช่วงลุย 82.8 กิโลเมตร จากปั๊มเชลล์ กม.124 อำเภอทองผาภูมิ เข้าป่า ทางลูกรัง ทางหินลอยนิดหน่อยในช่วงขึ้นเนินชัน ๆ ตามช่องทางแคบ ๆ ที่ขุดเซาะไหลเขาก็เป็นทางดินลื่น มีร่องน้ำเป็นช่วง ๆ มีสะพานไม้เรียบตามยาวคบ ๆ สามสี่แห่ง

ก็เป็นทางเข้าป่าท่ามกลางสายฝนโปรดปรายเป็นระยะ มีทางคดโค้งขึ้นลงเขาให้ได้ทดสอบระบบไฮเทคต่าง ๆ ครบ ไม่ว่าจะเป็นระบบหน่วงความเร็วโดยไม่ต้องเบรกขณะลงทางชัน ระบบเกียร์ทริปทรอนิกที่เปลี่ยนได้ง่ายหากต้องการเปลี่ยนเอง ซึ่งก็เหมาะกับเส้นทางลำบากขึ้น ๆ ลง ๆ ลื่น ๆ ไหล ๆ เป็นอย่างมาก

ระบบป้องกันการลื่นไถลทำงานได้เฉียบขาดมาก เมื่อกดปุ่มนี้แล้วการเป๋ไปเป๋มา เนื่องจากแรงบิดในเกียร์ต่าง ๆ กับพื้นที่ลื่นจะหายไปหมด เหมือนขับรถบนทางธรรมดา ๆ อย่างน่าแปลกใจ แม้จะใช้เกียร์ 1 หรือ 2 แล้วกดคันเร่งลงไปเมื่อเจอทางลื่นมาก ๆ อาการต่าง ๆ จะไม่เกิดขึ้น เน่ืองจากถูกควบคุมไว้หมดด้วยระบบช่วยต่าง ๆ

ขาลุยที่ชอบออกอาการด้วยเทคนิกการขับแบบลุยสุด ๆ ต้องจ๋อยไปตามระเบียบ เนื่องจากแคปติวาเป็นรถสำหรับใครก็ได้ ถึงขับไม่เก่งสามารถไปได้อย่างปลอดภัยในทุกเส้นทาง

ไม่ต้องลุ้นว่าจะแถออกจากไลน์ที่ปลอดภัย ระบบเบรกเอบีเอส ที่มีวงจรช่วยอีกหลายอย่างเมื่อความฝืดแต่ละล้อต่างกันได้รวมหัวทำงานได้ดีเยี่ยม สามารถขับเป็นขบวนในความเร็วต่าง ๆ กันในป่าได้อย่างสบายอารมณ์ ไม่มีการชนท้ายกันเหมือนการทดสอบโคโลราโด ครั้งแรกแถว ๆ ระยอง

จึงไม่ต้องเกรงว่าจะไปชนท้ายรถคันหน้าเนื่องจากกะระยะผิด ระบบช่วยทำให้สั่งได้เหมือนใจนึก

ในแคปติวา รุ่นนี้ขับบนทางแบบไหนก็คล้ายกับว่าขับบนทางแห้ง

เรียกว่ามีความสมดุลในการขับตามปรัชญาการออกแบบรถรุ่นนี้ได้ชัดเจน

เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ทดสอบรถมา ในทางลื่นส่วนมากต้องระมัดระวัง
แต่งวดนี้ราบรื่นมาก

ดูภาพประกอบเดี๋ยวจะเล่ารายละเอียดเพิ่มเติม