26 ก.ย. 2551

VINTAGEBIKE THAILAND PARTY 2008



VINTAGEBIKE THAILAND PARTY 2008
   
ชมรมอนุรักษ์และพัฒนาจักรยานยนต์โบราณไทย ภายใต้มูลนิธิอนุรักษ์และพัฒนาอากาศยานไทย ในพระบรมราชูปถัมป์ จัดงาน “VINTAGEBIKE THAILAND PARTY 2008” ในวันที่ 6 – 7 ธันวาคม 2551 ณ เรือนพักริมน้ำ ตำบลสาริกา อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก  
นายไกรสร เสวตสมบูรณ์ ประธานชมรมอนุรักษ์และพัฒนาจักรยานยนต์โบราณไทย ภายใต้มูลนิธิอนุรักษ์และพัฒนาอากาศยานไทย ในพระบรมราชูปถัมป์ เปิดเผยว่า ด้วยชมรม ฯ ประกอบด้วยสมาชิกจำนวนกว่า 300 รายที่มีความสนใจเหมือนกันในการร่วมใจอนุรักษ์จักรยานยนต์โบราณ โดยสร้างให้มีกิจกรรมร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งในแต่ละปีทางชมรมฯ จะจัดงานใหญ่ 1 ครั้ง เพื่อรวมตัวชาวชมรมผู้มีใจรักษ์ในจักรยานยนต์ รวมทั้งแลกเปลี่ยนความรู้เรื่องราวต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับจักรยานยนต์ และทัศนคติด้านการขับขี่ด้วยความปลอดภัย แลกเปลี่ยนข้อมูลต่าง ๆ ของชมรมจักรยานยนต์โบราณ สร้างความสามัคคีของกลุ่มชมรมรถโบราณทั่วประเทศ และที่สำคัญการเดินทางมาในครั้งเพื่อหารายได้ร่วมบริจาคศูนยืปฏิบัติการบินอาสา อนุรักษ์และกู้ภัยสิริภาจุฑากรณ์ ผ่านมูลนิธิอนุรักษ์ และพัฒนาอากาศยานไทย ในพระบรมราชชูปถัมป์ รวมทั้ง สำหรับในปีนี้ชมรมฯ ได้จัดกิจกรรม VINTAGEBIKE THAILAND PARTY 2008 ในวันที่ 6 – 7 ธันวาคม 2551 โดยเริ่มนำรถเข้าที่จัดงานตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป มีค่าใช้จ่ายค่าบัตรเพียง 400 บาท (ค่าอาหารเย็น + ของชำร่วย + อาหารเช้า) ไม่รวมที่พัก หากผู้เข้าร่วมงานจะพักสามารถนำเต็นท์มากางบริเวณรีสอร์ท หรือจะพักค้างในรีสอร์ทใกล้เคียงก็มีให้เลือกหลากหลายบรรยากาศ ผู้ที่สนใจสามารถสมัครร่วมเดินทางกับชมรมฯ ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 08-3838-1838 และ 08-1657-5421 ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2551
นางอธิชา โรจนสุวรรณ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานนครนายก กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวมาในพื้นที่จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เดินทางท่องเที่ยวเองโดยใช้รถยนต์และจักรยานยนต์เป็นพาหนะเดินทาง เนื่องจากสะดวกสบาย สามารถเดินทางถึงแหล่งท่องเที่ยวได้รวดเร็ว สามารถแวะเที่ยวแวะชมในสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ได้ตามความต้องการ นักท่องเที่ยวสามารถจัดวางโปรแกรมการเดินทางชมแหล่งท่องเที่ยวที่สนใจได้หลายจุดก่อนจะเดินทางเข้าที่พัก  
ททท.สำนักงานนครนายก จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวที่มีใจรักในการขับขี่ปลอดภัย เดินทางท่องเที่ยวเส้นทางนครนายก – ปราจีนบุรี – สระแก้ว เลือกชมหมู่บ้านไม้ดอกไม้ประดับ, ศึกษาประวัติศาสตร์เกี่ยวกับทหารหาญ “อาคาร 100 ปี รร.จปร.”, ชมเขื่อนขุนด่านปราการชล หนึ่งในโครงการในพระราชดำริ, พักผ่อนในรีสอร์ทภายในจังหวัดนครนายก เช้าวันใหม่เดินทางท่องเที่ยวถนนยุทธศาสตร์ “ถนนสุวรรณศร” เข้าตัวเมืองปราจีนบุรี ชมตึกสวยสมัยรัชกาลที่ 5 ที่สร้างด้วยความรักและความจงรักภักดี “ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร”, ศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ “พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติปราจีนบุรี” ชมความงามของผืนป่าดงพญาเย็น มีให้เลือกถึง 4 อุทยาน ฯ ได้แก่ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ – ปราจีนบุรี, อุทยานแห่งชาติทับลาน – ปราจีนบุรี, อุทยานแห่งชาติปางสีดา – สระแก้ว, อุทยานแห่งชาติตาพระยา–สระแก้วก่อนจะเดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ
ดังนั้น เพื่อการเดินทางด้วยความปลอดภัยและสุขใจด้วยพาหนะเดินทางท่องเที่ยวคู่ใจ “รถยนต์ส่วนตัว” หรือ “รถจักรยานยนต์” ก่อนการเดินทางตรวจสอบสภาพพาหนะเดินทางให้พร้อมใช้งานและมีประสิทธิภาพด้านความปลอดภัย  
สอบถามเส้นทางท่องเที่ยวเพิ่มเติมได้ที่ ททท.สำนักงานนครนายก โทร.0-3731-2282, 0-3731-2284, www.tat8.com เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30 – 16.30 น.

24 ก.ย. 2551

GM ต้อนรับ นักศึกษานานาชาติ มหาวิทยาลัยเว็บสเตอร์



นักศึกษานานาชาติ มหาวิทยาลัยเว็บสเตอร์ 
เยี่ยมชมศูนย์การผลิตรถยนต์ระดับมาตรฐานโลกของจีเอ็ม

สัมผัสกระบวนการผลิตรถยนต์ระบบจีเอ็มเอส (GMS) อย่างใกล้ชิด

ระยอง – ศูนย์การผลิตรถยนต์ระดับมาตรฐานโลก เจนเนอรัล มอเตอร์ส ประเทศไทย ต้อนรับนักศึกษานานาชาติจากมหาวิทยาลัยเว็บสเตอร์ (Webster University) เข้าชมกระบวนการผลิตรถยนต์ รถกระบะ ตลอดจนรถยนต์เอนกประสงค์ เอสยูวี หลากหลายรุ่น เน้นศึกษากระบวนการผลิตยุคใหม่ของจีเอ็ม ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม ด้วยการเป็นผู้นำในการผลิตรถยนต์ รถกระบะที่สนับสนุนการใช้น้ำมันไบโอดีเซล B2 และ B5 และการเป็นผู้ผลิตรถยนต์เชฟโรเลต รถยนต์แบรนด์แรกและแบรนด์เดียวที่ได้รับการรับรองมาตรฐานฉลากเขียว ถึงสองครั้งติดต่อกัน จากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (สมอ.) และสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (สสท.) อันได้แก่ รถยนต์ เชฟโรเลต ออพตร้า เอสเตท รุ่นปี 2007 และ เชฟโรเลต อาวีโอ รุ่นปี 2008 รวมถึงการนำนวัตกรรมการผลิตรถยนต์ด้วยระบบการผลิตของจีเอ็มทั่วโลก (GM’s Global Manufacturing System: GMS) มาใช้อีกด้วย

ศูนย์การผลิตฯ จีเอ็ม จังหวัดระยองนับเป็นหนึ่งในเจ็ดศูนย์การผลิตฯ ยุคใหม่ของจีเอ็ม ซึ่งกระจายอยู่ในทุกทวีปทั่วโลก ที่ได้รับการออกแบบโดยให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม ตามแนวคิด The Green Plant ของจีเอ็ม และนับเป็นศูนย์การผลิตและประกอบรถยนต์ที่โดดเด่นที่สุดทั้งในด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัย โดยเริ่มดำเนินการผลิตแคปติวา เพื่อส่งออกไปยังออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และภูมิภาคอาเซียน นอกเหนือจากรถยนต์เอนกประสงค์เอสยูวี 7 ที่นั่ง อย่างแคปติวาแล้ว ศูนย์การผลิตฯ จังหวัดระยอง ยังดำเนินการผลิตตามระบบการผลิตของจีเอ็มทั่วโลก (GMS) โดยผลิตรถยนต์คุณภาพรุ่นต่างๆ เพื่อจำหน่ายในประเทศและส่งออกไปยังหลายประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น อาวีโอ รถยนต์นั่งขนาดเล็ก ออพตร้าซีดาน รถยนต์นั่งขนาดกลาง ออพตร้า เอสเตท รถยนต์เอนกประสงค์สำหรับครอบครัว และโคโลราโด กระบะขนาด 1 ตัน ซึ่งถือได้ว่าศูนย์การผลิตฯ จังหวัดระยอง นั้นเป็นปัจจัยสำคัญหลักสำหรับการขยายตลาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของจีเอ็ม

ระบบการผลิตของจีเอ็มทั่วโลก (GMS) เป็นระบบที่พัฒนาขึ้นโดยยึดตัวบุคลากรเป็นหลัก เพื่อผลิตรถยนต์และรถกระบะที่มีคุณภาพสูง โดยให้ความสำคัญกับการทำงานเป็นทีม ภายใต้ปรัชญาที่ว่า พนักงานทุกคน ทุกๆตำแหน่ง ล้วนสร้างมูลค่าเพิ่ม มาใช้เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในกระบวนการผลิต ซึ่งผสมผสานกันจนลงตัว ด้วยปัจจัยหลัก 5 ประการ ได้แก่ บุคลากร การรักษามาตรฐาน การสร้างคุณภาพ การดำเนินงานที่รวดเร็ว และการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง นั่นหมายถึงยานยนต์คุณภาพดี สมรรถนะเยี่ยม ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของผู้ขับขี่ ทั้งยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

มหาวิทยาลัยเว็บสเตอร์ วิทยาเขตหัวหิน เริ่มดำเนินการในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2542 เปิดสอนในระดับปริญญาตรีและปริญญาโทในหลายสาขาวิชา ด้วยระบบการเรียนการสอนมาตรฐานระดับสากล 
 
จากภาพ 1:
นักศึกษานานาชาติ จากมหาวิทยาลัยเว็บสเตอร์ วิทยาเขตหัวหิน เข้าเยี่ยมชม ศูนย์การผลิตรถยนต์ระดับมาตรฐานโลกของจีเอ็ม จังหวัดระยอง หนึ่งในเจ็ดศูนย์การผลิตฯ ยุคใหม่ของจีเอ็มซึ่งกระจายอยู่ในทุกทวีปทั่วโลก ที่ได้รับการออกแบบโดยให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม ตามแนวคิด The Green Plant ของจีเอ็ม
จากภาพ 2:
นักศึกษานานาชาติ จากมหาวิทยาลัยเว็บสเตอร์ วิทยาเขตหัวหิน ถ่ายภาพร่วมกับรถยนต์ เชฟโรเลต บนสายการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศและส่งออกไปยังต่างประเทศ ณ ศูนย์การผลิตรถยนต์ระดับมาตรฐานโลกของจีเอ็ม จังหวัดระยอง หนึ่งในเจ็ดศูนย์การผลิตฯ ยุคใหม่ของจีเอ็มซึ่งกระจายอยู่ในทุกทวีปทั่วโลก ที่ได้รับการออกแบบโดยให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม ตามแนวคิด The Green Plant ของจีเอ็ม

อาวีโอคลับไปทำบุญ ที่วัดพระบาทน้ำพุุ


ขับด้วยใจ อาวีโอคลับไปทำบุญ 

ลพบุรี – “อาวีโอ คลับ” กลุ่มคนรักเชฟโรเลต อาวีโอ รถคอมแพกต์สำหรับคนรุ่นใหม่ รวมตัวชวนเพื่อนพ้องน้องพี่ หอบน้ำใจใส่เต็มคันรถ มุ่งหน้าสู่ วัดพระบาทน้ำพุ จังหวัดลพบุรี เพื่อบริจาค ข้าวของ เงินทอง ยารักษาโรค และสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นให้แก่ผู้ป่วยโรคเอดส์ ที่วัดดังกล่าว ก่อนร่วมเล่นแรลลี่ชิงของรางวัลมากมายจาก เจนเนอรัล มอเตอร์ส และ เชฟโรเลต งานนี้เรียกได้ว่า อิ่มทั้งบุญอิ่มทั้งใจ ขับรถกลับปลอดภัยสไตล์อาวีโวโดยในทริปดังกล่าว กลุ่มเจ้าของรถอาวีโอพร้อมครอบครัว ร่วมเดินทางขนส่งน้ำใจกันกว่า 60 คัน รวมแล้วกว่า 200 คน ซึ่งนอกจากจะร่วมแรงร่วมใจบริจาคสิ่งของต่างๆ ที่จำเป็นต่อผู้ติดเชื้อแล้ว ทางชมรมยังได้มีการช่วยกันบริจาคเงินทำบุญกับทางวัดตามกำลังศรัทธา

22 ก.ย. 2551

ต่ิอไปรถจะมีฉลากประหยัดเชื้อเพลิง



ฉลากประหยัดเชื้อเพลิง

เนื่องจากเชื้อเพลิงสำหรับรถยนต์มีหลายชนิด เช่นเบนซิน ดีเซล NGV CNG เชื้อเพลิงผสม เช่น E20 E 85 ฯลฯ กระทรวงพลังงาน หรือกระทรวงอุตสาหกรรม หรือหน่วยงานใหม่ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อกำหนดมาตรฐาน แล้วทำเป็นฉลากติดที่ตัวรถ อาจจะติดที่ประตู หรือใต้ฝากระโปรงหน้า เพื่อให้ผู้ใช้รถรู้ว่ารถคันนั้น ๆ กินนำมัน ขณะวิ่งในเมืองเป็นเท่าใด ขณะเดินทางไกลเป็นเท่าใด ตามเงื่อนไขสากล เช่นการขับในเมืองต้องเจอรถติด เจอไฟแดงกี่ตรั้ง ต้องเบรกกี่ครั้ง เป็นมาตรฐานเดียวกัน

ภาพที่เห็นเป็นตัวอย่างฉลากที่ติดรถทุกคันที่ขายในอเมริกา

21 ก.ย. 2551

รถคุณกินน้ำมันเท่าไหร่ ?่























รถคุณกินน้ำมันเท่าไหร่ ?






องค์การพิทักษ์สิ่งแวดล้อมแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา หรืออีพีเอ (U.S. Environmental Protection Agency; EPA) ได้แจ้งอัตราความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของรถยนต์ที่จะจำหน่ายในปี 2009 เพื่อไม่ให้เกิดการโฆษณาเกินจริง อย่างไม่มีหลักเกณฑ์ที่มาตรฐาน
1 ไมล์ ต่อ ยูเอสแกลลอน เท่ากับ 0.425144 กม./ลิตร
หรือไปที่ Unit Converter  
จากภาพ เป็นตัวอย่างการแปลง ค่า  MPG เป็น กม./ลิตร โดยใช้ตัวคูณที่ให้มานี้ หลังจากดาวน์โหลดตารางมาแล้ว ท่านสามารถตรวจสอบรถที่ท่านใช้ หรือที่ใกล้เคียงได้ทันทีhttp://www.fueleconomy.gov/feg/FEG2010.pdf

20 ก.ย. 2551

Chevrolet Volt











Chevrolet Volt รถไฟฟ้าพร้อมผลิตแล้ว
ชาร์จง่ายเพียงเสียบปลั๊ก ชาร์จไฟหนึ่งครั้งถูกกว่ากาแฟหนึ่งแก้ว  

ดีทรอยท์ – เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น (จีเอ็ม) ก้าวสู่ศตวรรษใหม่ ด้วยการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2551 ตามเวลาท้องถิ่น เป็นการฉลองวันครบรอบ 100 ปี จีเอ็ม ด้วย เชฟโรเลต โวลต์ รถยนต์พลังงานไฟฟ้า แบบ ปลั๊ก-อิน (Plug-in) ที่คนทั่วโลกเฝ้าติดตามการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ โวลต์สามารถขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ได้ในระยะทางมากกว่า 65 กิโลเมตร ซึ่งเป็นระยะทางเฉลี่ยที่ผู้ขับขี่รถส่วนใหญ่ใช้ในชีวิตประจำวัน โดยไม่ต้องใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ปราศจากมลพิษอย่างสิ้นเชิง พร้อมทั้งยังสามารถใช้งานระยะทางยาวไกลขึ้นอีกหลายร้อยกิโลเมตร เมื่อใช้ควบคู่กับเครื่องกำเนิดไฟฟ้า มากกว่าการคาดการณ์ไว้เมื่อครั้งที่โวลต์ยังเป็นรถต้นแบบ  

 “การเปิดตัว เชฟวี่ โวลต์ รุ่นที่จะผลิตเพื่อการจำหน่ายในครั้งนี้ เป็นแนวทางสำคัญในการก้าวสู่ศตวรรษที่ 2 ของจีเอ็ม” มร.ริค แวกอเนอร์ ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น กล่าวถึงการเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นที่จะผลิตออกจำหน่ายเป็นครั้งแรกของโลก “โวลต์เป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกอย่างชัดเจนถึงแนวทางของจีเอ็มในอนาคต...และเป็นนวัตกรรมทางเทคโนโลยียานยนต์ของเราที่ต้องการเข้ามาแก้ปัญหาด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมที่เผชิญอยู่ทั้งในปัจจุบันและอนาคต” มร. แวกอเนอร์ กล่าวอย่างมั่นใจ

การออกแบบ เชฟโรเลต โวลต์ ถูกถอดแบบมาจาก เชฟโรเลต โวลต์ ที่เป็นรถยนต์ต้นแบบและเคยเผยโฉมในงาน ดีทรอยท์ มอเตอร์โชว์ (NAIAS: North American International Auto Show) เมื่อปี 2550 ที่ผ่านมา

จากการออกแบบเพื่อลดแรงเสียดทานของอากาศ เป็นจุดสำคัญที่ทำให้โวลต์สามารถใช้งานได้ในระยะทางที่ไกลมากขึ้น ทีมวิศวกรผู้ออกแบบของจีเอ็มได้สร้างสรรค์ระบบอากาศพลศาสตร์ที่ส่งผลอันยอดเยี่ยมสำหรับโวลต์รุ่นที่ผลิตออกจำหน่ายนี้ การออกแบบในหลายๆ จุดได้รับการคัดสรรมาจากโวลต์คันที่เป็นรถยนต์ต้นแบบ ไม่ว่าจะเป็นส่วนของ กระจังหน้า รูปทรงที่ดูปราดเปรียวทะมัดทะแมง กราฟฟิคดีไซน์ที่ท้ายรถ กระจกมองหลัง และส่วนอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ แผงมาตรวัดของโวลต์ถูกออกแบบให้ดูโค้งมนกลมกลืนเป็นส่วนหนึ่งของ

คอนโซลหน้า ตามมุมรถและกระจังหน้ารถถูกออกแบบให้ดูเรียวบาง ซึ่งเป็นประโยชน์ในการลดแรงปะทะกับอากาศ ช่วยให้อากาศสามารถไหลผ่านรอบตัวรถไปได้อย่างรวดเร็ว ส่วนด้านท้ายรถถูกออกแบบให้มีสันขอบที่ชัดเจนดูดุดัน พร้อมทั้งออกแบบสปอยเลอร์อย่างประณีตเพื่อลดแรงเสียดทานอากาศเช่นกัน กระจกบังลมหน้าก็ถูกออกแบบให้ลาดเอียงไปด้านหลังค่อนข้างมากเพื่อช่วยลดการเคลื่อนที่อันไร้ทิศทางของกระแสลมที่ผ่านกระทบตัวรถและลดการทอนกำลังจากแรงลมที่เข้ามาปะทะ  

ด้วยการทำงานอย่างพิถีพิถันของทีมออกแบบระบบอากาศพลศาสตร์ของจีเอ็ม ในการกำหนดรูปทรงของโวลต์ จากทั้งทีมออกแบบและวิศวกร ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็คือรถยนต์ที่มีระบบอากาศพลศาสตร์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในประวัติศาสตร์ของจีเอ็ม ทีมออกแบบและวิศวกรของจีเอ็มทุ่มเทอย่างหนักหลายร้อยชั่วโมงกับการทดสอบ เชฟโรเลต โวลต์ ภายในอุโมงค์ลมของจีเอ็ม ผ่านการทดสอบครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งตัวรถทั้งคันหรือชิ้นส่วนต่างๆ ทั้งการปะทะลมที่ด้านหน้าตัวรถ ด้านท้ายรถ สปอยเลอร์หลัง ส่วนโค้งของหลังคา และกระจกมองข้าง และด้วยการออกแบบทางอากาศพลศาสตร์ที่ยอดเยี่ยมนี้ ช่วยให้โวลต์สามารถวิ่งได้ในระยะทางที่มากถึงประมาณ 65 กิโลเมตรโดยไม่ต้องใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในการสันดาปและปลอดมลพิษอย่างสิ้นเชิง ตามมาตรฐานของ “อีพีเอ” (EPA: Environmental Protection Agency) หน่วยงานพิทักษ์สิ่งแวดล้อมของสหรัฐอเมริกา ที่จะตรวจสอบอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงและวัดค่ามลพิษที่ออกจากรถยนต์ 

ภายในของ เชฟโรเลต โวลต์ ยังมีความกว้างขวาง ให้ความสบายในการโดยสาร พรั่งพร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก และระบบความปลอดภัยที่สมบูรณ์แบบ ตามที่ลูกค้าคาดหวังว่าจะได้พบในรถยนต์ซีดานแบบ 4 ที่นั่ง และโวลต์ยังมีสีสันการออกแบบภายในให้ลูกค้าเลือกใช้อย่างหลากหลาย รวมทั้งเลือกการตกแต่งระบบไฟภายในตัวรถและสีสันในสไตล์ต่างๆ ที่มักจะไม่ค่อยได้พบเห็นทางเลือกมากมายเช่นนี้ในรถยนต์ซีดานของเชฟโรเลต ปุ่มควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ภายในรถยังถูกออกแบบอย่างล้ำสมัย วัสดุต่างๆ ได้รับการออกแบบให้ดูน่าสนใจน่าจับต้อง พร้อมด้วยหน้าจอมอนิเตอร์ 2 ตัว ที่แสดงข้อมูลการขับขี่ อยู่หลังพวงมาลัย และแสดงข้อมูลของรถ ติดตั้งไว้ที่คอนโซลกลาง ซึ่งมอนิเตอร์ที่คอนโซลกลางนี้จะเป็นส่วนแสดงข้อมูลของรถ รวมทั้งควบคุมและแสดงผลการเล่นเครื่องเสียง อุปกรณ์อำนวยความสะดวกความบันเทิงต่างๆ สั่งงานด้วยระบบสัมผัส (touch-sensitive infotainment) ด้วยการผสมผสานเทคโนโลยีและการออกแบบที่ทันสมัยได้อย่างลงตัวนี้ ช่วยยกระดับให้การออกแบบภายในของโวลต์แตกต่างเหนือจากรถยนต์รุ่นอื่นๆ ในตลาด

เทคโนโลยีภายในห้องโดยสารที่โดดเด่นของโวลต์ 
• ส่วนแสดงข้อมูลการขับขี่ผ่านหน้าจอแอลซีดี แทนที่จะเป็นกรอบมาตรวัดต่างๆ เหมือนรถยนต์ทั่วไป  
• ที่คอนโซลกลางยังติดตั้งมอนิเตอร์ระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในการแสดงข้อมูลต่างๆ ของโวลต์ 
• ปรับอุณหภูมิในห้องโดยสารและควบคุมอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ความบันเทิง ด้วยระบบสัมผัส
• สามารถเพิ่มเติมการติดตั้งระบบนำทางผ่านสัญญาณดาวเทียมบนฮาร์ดไดร์ฟ (hard drive) ที่ติดตั้งซ่อนไว้ในคอนโซลกลาง โดยสามารถใส่ข้อมูลแผนที่ หรือเป็นไดร์ฟสำหรับเก็บไฟล์เพลงต่างๆ 
• ติดตั้งบลูทูธ (Bluetooth hand free) สำหรับพูดคุยโทรศัพท์เคลื่อนที่ เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน และยังรองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์พกพาอย่าง ยูเอสบี (USB removable drive) และอุปกรณ์บลูทูธ สำหรับการโหลดเพลง เล่นเพลง ที่อยู่ในไดร์ฟพกพาเหล่านี้อีกด้วย  
 
เชฟโรเลต โวลต์ กลายเป็นรถยนต์ที่มาพลิกโฉมหน้าประวัติศาสตร์ของพลังงานไฟฟ้าที่นำมาใช้กับรถยนต์ ด้วยการยกระดับตัวเองให้เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่สามารถใช้งานได้เป็นระยะทางไกลมากขึ้น (E-REV: Extended-Range Electric Vehicle) 


โวลต์สามารถใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อนล้ออยู่ตลอดเวลาและทุกย่านความเร็ว โดยสามารถใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี ลิเธียม-ไอออน (lithium-ion) วิ่งได้เป็นระยะทางประมาณ 65 กิโลเมตร และเมื่อไรก็ตามที่พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรีหมดลง เครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิง E85 จะส่งกระแสไฟไปยังระบบขับเคลื่อนของโวลต์อย่างราบรื่น ในระหว่างนั้นก็จะชาร์จไฟเข้าไปเก็บในแบตเตอรีไปพร้อมๆ กันอีกด้วย ด้วยระบบนี้จะทำให้โวลต์สามารถใช้งานได้เป็นระยะทางมากขึ้นอีกหลายร้อยกิโลเมตร จนกว่าจะหาช่องเสียบปลั๊กไฟเพื่อชาร์จไฟเข้าไปเก็บในแบตเตอรี ลิเธียม-ไอออน อีกครั้ง เพื่อให้รถยนต์สามารถกลับมาใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรีได้อีก แบตเตอรี่ในโวลต์แตกต่างจากแบตเตอรี่ของรถพลังงานไฟฟ้ารุ่นอื่น ทำให้ผู้ขับขี่มั่นใจได้ว่า จะไม่พบกับปัญหาแบตเตอรี่หมดอย่างแน่นอน 

เชฟโรเลต โวลต์ สามารถชาร์จพลังงานไฟฟ้าได้ด้วยการเสียบปลั๊กไฟเหมือนอุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้านที่ใช้ไฟ 120 โวลต์ทั่วไป หรือชาร์จไฟที่ 240 โวลต์ก็ได้ ด้วยเทคโนโลยีอันชาญฉลาดในการชาร์จไฟทำให้โวลต์สามารถชาร์จไฟฟ้าได้เต็มภายในเวลาน้อยกว่า 3 ชั่วโมง สำหรับกระแสไฟ 240 โวลต์ หากใช้กระแสไฟ 120 โวลต์จะใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง ซึ่งเวลาที่ใช้ในการชาร์จไฟนั้นยังอาจจะน้อยกว่านั้นถ้าใน แบตเตอรี ลิเธียม-ไอออน ยังมีปริมาณไฟฟ้าสะสมอยู่บ้าง สำหรับค่าใช้จ่ายในการใช้งานโวลต์จะอยู่ที่ประมาณ 27.20 บาท ต่อวัน (เมื่อคิดจากค่าไฟในสหรัฐอเมริกาที่ประมาณ 3.40 บาท ต่อ กิโลวัตต์ชั่วโมง) ในการชาร์จแบตเตอรีให้เต็มจะสามารถใช้งานได้ประมาณ 65 กิโลเมตร ซึ่งเป็นระยะทางเฉลี่ยที่ผู้ขับขี่รถส่วนใหญ่ใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งจีเอ็มคาดว่าการชาร์จพลังงานไฟฟ้าให้แก่โวลต์จะมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่าการซื้อกาแฟดื่มต่อถ้วยด้วยซ้ำ และการชาร์จไฟฟ้าให้กับ เชฟโรเลต โวลต์ 1 ครั้งต่อวันในทุกวันตลอดปีนั้น จะใช้ปริมาณไฟฟ้าที่น้อยกว่าการใช้ไฟของตู้เย็นหรือตู้แช่หนึ่งตู้เสียอีก

สมรรถนะการขับขี่ของเชฟโรเลต โวลต์ แรงเหนือชั้นด้วยแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน จำนวน 220 เซลส์ ให้พละกำลังขับเคลื่อน 150 แรงม้า แรงบิด 370 นิวตัน-เมตร ความเร็วสูงสุดทะยานไปได้ถึง 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นอกจากจะให้ความเร้าใจในการขับขี่แล้ว ความเงียบของเครื่องยนต์ในการขับขี่เป็นจุดเด่นที่สุดของโวลต์ ทำให้ห้องโดยสารมีเสียงรบกวนเล็ดลอดเข้ามาน้อยที่สุด
 
จากการประเมินของจีเอ็ม ค่าใช้จ่ายในการขับขี่โวลต์อยู่ที่เีพียง 0.43 บาทต่อกิโลเมตร ถูกกว่าการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงซึ่งอยู่ที่ 2.55 บาทต่อกิโลเมตร (คิดตามราคาน้ำมันในสหรัฐที่ แกลลอนละ 3.60 ดอลลาร์) หากคำนวนจากการใช้รถยนต์เฉลี่ย 65 กิโลเมตรต่อวัน หรือ 24,750 กิโลเมตรต่อปี ผู้ขับขี่สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้ถึง 51,000 บาท ต่อปี และถ้าหากใช้รถยนต์ในโหมดที่เป็นไฟฟ้าให้ได้มากที่สุดนั้น เชฟวี่ โวลต์ จะใช้ค่าใช้จ่ายเพียง 1 ใน 6 เท่าเมื่อเทียบกับรถที่ใช้น้ำมันทั่วไป นอกจากนี้ ถ้าเลือกชาร์จไฟให้กับโวลต์ในช่วงเวลาที่มีคนใ้ช้ไฟน้อยค่าใช้จ่ายในเรื่องของค่าไฟก็จะถูกลงด้วยเพราะค่าไฟฟ้าในช่วงดังกล่าวจะถูกกว่าในเวลาปกติ

เชฟโรเลต โวลต์ จะขึ้นสายการผลิตที่โรงงานดีทรอยท์-แฮมแทรค (Detroit-Hamtramck) และจะออกสู่ตลาดรถยนต์ในสหรัฐอเมริกาในช่วงปลายปี 2553 โดยยังไม่มีการกำหนดราคาค่าตัวออกมา ทั้งนี้ การผลิต เชฟโรเลต โวลต์ ต้องขึ้นอยู่กับนโยบายและแนวทางของรัฐบาลด้วย ข้อมูลเพิ่มเติมคลิกเข้าไปได้ที่ media.gm.com/volt 

ฉลองวันเกิด 100 ปี GM




ฉลองวันเกิด 100 ปี GM

บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส และเชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย ผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ เชฟโรเลต ซึ่งมียอดจำหน่ายกว่า 9 ล้านคันต่อปี จัดงานฉลองวันครบ 100 ปีของ จีเอ็ม คอร์ปอเรชั่น ซึ่งตรงกับวันอังคารที่ 16 กันยายนนี้ อย่างยิ่งใหญ่พร้อมกันทั่วโลก โดยมี มร. ริค แวกอเนอร์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น สหรัฐอเมริกา และ มร. สตีฟ คาร์ไลส์ ประธานกรรมการ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส เซาท์อีสต์ เอเชีย โอเปอเรชั่นส์ และเชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) เป็นประธานการฉลองในประเทศไทย โดยมีผู้ร่วมงานการก้าวเข้าสู่ศตวรรษที่สองของจีเอ็มอีกกว่า 5,000 คน 


โดยในงานดังกล่าว จีเอ็ม ยังนำรถยนต์แห่งอนาคต ทั้งสี่คันอันได้แก่ เชฟโรเลต อิควิน็อกซ์ ไฮโดรเจน ฟิว เซล เชฟโรเลต ทาโฮ ทูโหมด ไฮบริด แซเทิร์น วิว กรีนไลน์ ไฮบริด และ เชฟโรเลต อิมพาลา E 85 ที่เพิ่งนำไปจัดแสดงในงาน จีเอ็ม ออโต้ เทค มาให้ผู้ร่วมงานได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิด เพื่อรำลึกถึงความสำเร็จของ จีเอ็ม ที่ได้สร้าง นวัตกรรมให้กับโลกตลอด 100 ปีที่ผ่านมา รวมถึง “จีเอ็มเน็กซ์” ที่พร้อมเดินหน้าสู่ศตวรรษที่สองในฐานะผู้นำทางด้านการคิดค้นเทคโนโลยี เพื่อแก้ปัญหาพลังงานและสิ่งแวดล้อมโลกอย่างยั่งยืน ณ สนามกีฬาในร่ม พัทยา

เป่าเค้ก: มร. ริค แวกอเนอร์ ประธานใหญ่ พร้อมผู้บริหาร จีเอ็ม และพนักงาน จีเอ็ม ที่เกิดในวันที่ 16 กันยายน วันครบรอบ 100 ปีของจีเอ็ม ร่วมกันเป่าเค้กวันเกิดบนเวที

ฮือฮา: ยานยนต์แห่งอนาคต ของ จีเอ็ม นำโดย เชฟโรเลต อิควิน็อกซ์ ไฮโดรเจน ฟิว เซล เชฟโรเลต ทาโฮ ทูโหมด ไฮบริด แซเทิร์น วิว กรีนไลน์ ไฮบริด และ เชฟโรเลต อิมพาลา E 85 เรียกเสียงฮือฮา จากผู้ที่เข้าร่วมงานกว่า 5,000 คนได้ไม่น้อย 

18 ก.ย. 2551

น้ำมันดีเซลยี่ห้ออะไรดี





น้ำมันดีเซลยี่ห้ออะไรดี

พื้นฐานเดิมรถยนต์ใช้น้ำมันที่ได้จากการกลั่นน้ำมันดิบที่ดูดจากใต้ผิวโลก นานเข้า ๆ กลุ่มผู้ผลิตก็ชักเหิม ขึ้นราคาเป็นว่าเล่น จนพลักดันให้เกิดการใช้แก๊สแบบต่าง ๆ รวมถึงเชื้อเพลิงจากการแปรรูปพืชในรูปของแอลกอฮอล์ และน้ำมันพืชต่าง ๆ 

 แรก ๆ ก็ค่อย ๆ ผสม แอลกอฮอล์ กับเบนซิน จาก 5-10-20 และ 85 เปอร์เซนต์ เป็น E85 ที่กำลังเป็นนโยบายพลังงานแห่งชาติในปัจจุบัน คือใช้เอทธานอล 85 ส่วน เบนซิน 15 ส่วน 
 ข้อเสียของมันคือค่าความร้อนน้อยว่า ทำให้ต่อลิตร วิ่งได้ระยะทางสั้นลง และทำให้เกิดการกัดกร่อน สึกหรอมากขึ้นกว่า เบนซิน 100 เปอร์เซนต์

 ในโลกของอุตสาหกรรมรถยนต์ก็หาทางออกทำรถที่ใช้พลังงานไฮโดรเจนออกมาหลายยี่ห้อใช้ได้จริง 

 ตอนนี้มีปัญหาเรื่องปั๊มเติมไม่มีอยู่ทั่ว ๆ ไป จึงเป็นลักษณะต้นแบบเป็นส่วนมาก

 วันดีคืนดีก็มีข่าวว่ามีรถพลังน้ำ มันก็คือไฮโดรเจน ที่เอาน้ำมาแยกธาตุนั่นเอง ไม่ใช่เอาน้ำกรอกเข้าถังแล้วติดเครื่องยนต์เหมือนเติมน้ำมันในปั๊ม

 ปัจจุบันเชื้อเพลิงที่เหมาะสมกับประเทศไทยคือ NGV ที่มีสำรองในธรรมชาติใช้ได้อีกนาน ยังไม่ต้องคิดถึงไฮโดรเจนให้ปวดกระบาน แค่ตอนนี้หาปั๊ม NGV เติมให้พอก่อน เนื่องจากมันเก็บได้น้อย และถังมันหนาและหนัก เหมือนบรรทุกระเบิดใว้ท้ายรถ ยิ่งรถบรรทุกหัวลากที่ใช้ NGV ถังเรียงเป็นตับเหมือนรังไข่แมลงสาบ ยิ่งดูตลก

  เป็นเรื่องตลกที่จำเป็นต้องดู ในเมื่อปลูกพืชน้ำมันใช้พื้นที่มาก และใช้เวลาแปรรูป แถมคุณสมบัติของมันไม่ได้เหมือนน้ำมันจากการกลั่นน้ำมันดิบ มันก่อให้เกิดเขม่า มีการสึกหรอมากกว่า
อายุการใช้งานเครื่องยนต์จะสั้นลง

  น้ำมันดีเซลที่ดีที่สุดคือน้ำมันที่ผลิตจากแก๊สธรรมชาติ แต่แพงกว่าเล็กน้อยปัจจุบันมีผลิต 2 ยี่ห้อ คือ PURE และเชลล์ วี-เพาเวอร์ ดีเซล (ของดีต้องเลือกดูเอาเอง)

PURE รวมใจปลูกป่าชายเลนลดโลกร้อน




ระยองเพียวรวมใจปลูกป่าชายเลนลดโลกร้อน
นายศุภพงศ์ กฤษณกาญจน์ ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ระยองเพียวริฟายเออร์ จำกัด (มหาชน) พร้อมคณะผู้บริหาร และพนักงานของบริษัท และบริษัทในเครือกว่า 100 คน ร่วมกิจกรรมปลูกป่าชายเลน ลดโลกร้อน เพื่อฟื้นฟูสภาพความสมบูรณ์ของป่าชายเลนคืนสู่ธรรมชาติ จำนวน 500 ต้น ณ ต.คลองโคน อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม เมื่อเร็วๆ นี้