Test Drive New Suzuki Swift ณ สนามทดสอบบริดจสโตน อ.วังน้อย จ.อยุธยา

New Suzuki Swift … พลิกดีไซน์เพื่อความต่าง

รูปลักษณ์ภายนอก

New Suzuki Swift ล้ำสไตล์ด้วยรูปลักษณ์อันเป็นเอกลักษณ์ใหม่ แบบ ‘Cubical Design’ ที่ได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างมาจากยุโรป

• กระจกกว้างรอบคัน เพิ่มวิสัยทัศน์การขับขี่ ดูโฉบเฉี่ยวปราดเปรียวคล่องตัว
• ซุ้มล้อดีไซน์เท่ การออกแบบพิเศษด้านข้างตัวรถ เพิ่มความรู้สึกมั่นใจในการขับขี่
• ไฟท้ายโค้งมนรับกับด้านข้างของตัวรถและซุ้มล้อ ดูสปอร์ต โดดเด่น มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร

รูปลักษณ์โดยรวมดูเสมือนรถยนต์ที่เปี่ยมไปด้วยพลัง และพร้อมที่จะปลดปล่อยพลังนั้นออกมาทุกเมื่อ ไม่ว่าผู้ขับขี่โลดแล่นออกไปใช้ชีวิตแบบใด

เครื่องยนต์ และสมรรถนะอันเป็นเอกลักษณ์

New Suzuki Swift มาพร้อมกับรูปลักษณ์ใหม่ล้ำ และเครื่องยนต์ทรงสมรรถนะ ซึ่งได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อการทำงานเต็มประสิทธิภาพในทุกระดับความเร็ว

• เครื่องยนต์ M15A 1.5 ลิตร แบบ 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว พร้อมเทคโนโลยี Variable Valve Timing (VVT) เอกสิทธิ์เฉพาะ New Suzuki Swift ให้กำลังสูงสุด 74 กิโลวัตต์ ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 133 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ให้กำลังและแรงบิดสูงทุกอัตราเร่ง ตอบสนองทุกการขับขี่ได้อย่างฉับไว
• เกียร์อัตโนมัติสี่สปีด ตอบสนองฉับไวแม้ในขณะที่ใช้ความเร็วต่ำ
• ความปราดเปรียวคล่องตัวจากเครื่องยนต์ทรงสมรรถนะ มีความสมดุลกับในการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอย่างเต็มประสิทธิภาพ
• ประสิทธิภาพเต็มเปี่ยม ให้แรงบิดสูง แรงทุกอัตราเร่ง สมรรถนะจากเครื่องยนต์เอกสิทธิ์เฉพาะซูซูกิเท่านั้น

ผู้ขับขี่จึงสามารถเร่งแซงได้รวดเร็วทันใจ ให้อิสระภาพการขับขี่และความตื่นเต้นสนุกสนานมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการขับรถในเมือง

และเมื่อผสานกับ Torsion-Beam Rear Suspension ของ New Suzuki Swift ผู้ขับขี่จะสามารถสัมผัสได้ถึงความสมดุลอย่างลงตัวระหว่างประสิทธิภาพและความรู้สึกสบายขณะขับขี่ นอกจากนี้ พวงมาลัยพาวเวอร์ ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า และด้วยรัศมีวงเลี้ยวแคบเพียง 4.7 เมตร ทำให้ New Suzuki Swift มีความปราดเปรียวและมีความคล่องตัวสูง ในทุกๆ เส้นทางการขับขี่ ไม่ว่าถนนจะกว้างหรือแคบ จะเป็นตรอกซอกซอย หรือในอาคารที่มีพื้นที่จำกัด ผู้ขับขี่ก็สามารถขับสนุกสุดเหวี่ยงได้ในสไตล์สวิฟท์วงเลี้ยว

รูปลักษณ์ภายใน

ภายใน New Suzuki Swift ทุกรายละเอียดได้รับการออกแบบเพื่อสุนทรียภาพแห่งการขับขี่อย่างแท้จริง เริ่มจากพวงมาลัยสปอร์ตสามก้าน เกียร์แบบขั้นบันได ไปจนถึงไฟเรืองแสงรอบมาตรวัดความเร็ว ตำแหน่งของแผงควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ได้รับการออกแบบพิเศษให้โล่งกว้าง เพื่อทัศนวิสัยการขับขี่ที่ดี ชุดอุปกรณ์เครื่องเสียงและระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบดิจิตอลที่มีประสิทธิภาพ ได้รับออกแบบให้มีขนาดใหญ่และสะดวกต่อการใช้งาน และยังมีสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงที่ติดตั้งบริเวณพวงมาลัยสะดวกต่อการใช้งาน ช่วยให้ผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องปล่อยมือจากพวงมาลัยหรือละสายตาจากถนนเบื้องหน้า นอกจากนี้ ยังเพิ่มช่องเก็บของตามจุดต่างๆ รวมทั้งคอนโซลกลางพร้อมเครื่องเล่นซีดีถูกออกแบบให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม เพิ่มความสะดวกสบายในการควบคุมและใช้งาน

• สวิทช์ควบคุมเครื่องเสียงที่ติดตั้งบริเวณพวงมาลัย ออกแบบให้สะดวกต่อการใช้งาน ผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องปล่อยมือจากพวงมาลัย หรือละสายตาจากทัศนวิสัยเบื้องหน้าในขณะขับขี่
• คอนโซลกลางสำหรับเก็บของ ที่วางแก้ว ช่องใส่ของด้านหน้าและข้างประตู ที่วางแก้วน้ำ และพื้นที่ใช้สอยอีกมากมาย ออกแบบเพื่อความสะดวกสบายทุกครั้งที่ขับขี่
• ชุดเครื่องเสียงที่ออกแบบเป็นชิ้นเดียว ออกแบบได้อย่างสวยงามลงตัว ดูกลมกลืนกับคอนโซลหน้า

ความสะดวกสบาย และอุปกรณ์อำนวยความสะดวก

ซูซูกิใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งล้วนแต่มีความสำคัญ เริ่มตั้งแต่ ช่องเก็บของบริเวณคอนโซลด้านหน้า ช่องเก็บของเล็กๆ ตามจุดต่างๆ ที่ใส่ขวดน้ำและแก้วน้ำด้นหน้าและด้านท้าย ช่องใส่ของหลังของเบาะหน้า และถาดใส่ของใต้ที่นั่งผู้โดยสารตอนหน้า และอื่นๆ อีกมากมาย ได้แก่

• ระบบ Keyless start ช่วยให้สามารถเปิด-ปิดประตูรถได้โดยไม่ต้องใช้กุญแจ และสามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ได้เพียงแค่บิดสวิตช์สตาร์ท ให้ความสะดวกคล่องแคล่วกว่า
• พวงมาลัยปรับระดับได้ โดยสามารถปรับตำแหน่งพวงมาลัยให้เหมาะกับสรีระของผู้ขับขี่
• ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ควบคุมด้วยระบบดิจิตอล พร้อมสวิตช์ควบคุมขนาดใหญ่ มองเห็นได้ชัดเจน ใช้งานได้สะดวก เสริมด้วยระบบฟอกอากาศ เพิ่มความสดชื่นขณะขับขี่
• ชุดอุปกรณ์เครื่องเสียงกลมกลืนไปกับตัวรถ ประกอบด้วย วิทยุ เครื่องเล่นซีดี และ MP3 พร้อมด้วย ปุ่มควบคุมระดับเสียงแบบ speed sensing, ลำโพง 4 ตัว, และเสาอากาศ (ติดตั้งบริเวณหลังคาด้านท้ายรถ)
• เบาะนั่งในส่วนห้องโดยสารด้านหลังปรับพับได้ ในอัตราส่วน 60:40 เพิ่มพื้นที่ใช้สอยและพื้นที่เก็บสัมภาระ
• ที่เปิดประตูท้ายแบบ Electromagnetic เปิดง่าย สะดวกทุกครั้งที่ต้องการหยิบหรือเก็บสัมภาระบริเวณท้ายรถ
• ภายในห้องโดยสารของ New Suzuki Swift ได้รับการออกแบบอย่างดี เต็มไปด้วยพื้นที่ใช้สอย สิ่งอำนวยความสะดวกอันทันสมัยมากมาย รายล้อมอยู่รอบตัวผู้ขับขี่และผู้โดยสารทุกท่าน
• โครงสร้างของรถ
• ทีมวิศวกรของซูซูกิได้พัฒนารูปแบบโครงสร้างและสมรรถนะของ New Suzuki Swift ให้เหมาะกับทุกสภาพถนน โดยทำการทดสอบอย่างเข้มข้นทั้งภายในและภายนอกห้องทดสอบ มีการทดสอบบนถนนจริงครั้งแล้วครั้งเล่าในภูมิประเทศที่หลากหลายเพื่อให้ได้ผลลัพท์ที่น่าพอใจ และเพื่อให้ผู้ขับขี่ได้สนุกกับการขับขี่ที่แตกต่าง
• ความปลอดภัย

• ระบบป้องกันล้อล็อคขณะเบรก (ABS) และระบบกระจายแรงเบรคแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EBD) พร้อมระบบช่วยเบรค ให้ความมั่นใจทุกครั้งที่หยุดรถ
• ถุงลมนิรภัยคู่หน้า (SRS)
• เข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับอัตโนมัติ พร้อมที่ปรับระดับสูงต่ำตามสรีระของผู้ขับขี่
• โครงสร้างด้านหน้าและกันชนช่วยดูดซับแรงกระแทกจากการปะทะชนด้านหน้า
• คานกันเสริมรับแรงกระแทกด้านข้าง (ประตูหน้าและหลัง)
• ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer ช่วยป้องกันรถยนต์จากการโจรกรรม
• สีของตัวรถ
• มีสีที่โดดเด่น มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และมีให้เลือกถึง 7 สี คือ สีดำ Cool Black Metallic, สีเทา Silky Silver Metallic, สีเทา Purplish Silver Pearl M, สีฟ้า Ocean Light Blue Metallic, สีแดง Radiant Red, สีน้ำตาล Burgundy Red Pearl, และสีขาว Pearl White

หมายเหตุ ข้อมูลผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่เป็นข้อมูลสำหรับรถยนต์ New Suzuki Swift รุ่น GL

ท่านสามารถตรวจสอบรายละเอียดของรถทั้งรุ่น GA และ GL เพิ่มเติมได้จากแคตตาล็อกของ New Suzuki Swift และ www.suzuki.co.th

Test Drive New Suzuki Swift

ณ สนามทดสอบบริดจสโตน อ.วังน้อย จ.อยุธยา

************************************‘New Suzuki Swift พลิกดีไซน์เพื่อความต่าง’

• ฉีกรูปลักษณ์ใหม่ล้ำแบบ Cubical Design พร้อมด้วยสมรรถนะปราดเปรียว คล่องตัว ตอบสนองทุกการขับขี่ได้อย่างฉับไว ขับสนุกในแบบสวิฟท์
• ครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอันทันสมัย พร้อมด้วยมาตรฐานความปลอดภัยและคุณภาพจากซูซูกิที่ทุกคนมั่นใจ

เมื่อวันพุธที่ 20 มกราคม 2553/มร.ทาคายูกิ ซูกิยามา ประธาน บริษัท ซูซูกิ ออโตโมบิล แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด นำทีมผู้บริหาร อาทิ มร.ทาอิชิ โอคาโมโต้ ผู้จัดการทั่วไป แผนกการขาย, คุณวัลลภ ตรีฤกษ์งาม ผู้จัดการแผนก การขาย, คุณสมเดช สุธาพจน์ ผู้จัดการแผนกบริการหลังการขาย, คุณจิระ สังข์แก้ว ตัวแทนจากบริดจสโตน และคุณจามิกร ติงศภัทร์ Instructor ร่วมงานทดสอบสมรรถนะรถยนต์ New Suzuki Swift ณ สนาม Bridgestone Proving Group

มร.ทาคายูกิ ซูกิยามา ประธาน บริษัท ซูซูกิ ออโตโมบิล แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวต้อนรับสื่อมวลชน และเปิดงานในครั้งนี้ว่า “สวัสดีครับ สื่อมวลชนทุกท่าน ผมและบริษัท ซูซูกิ ออโตโมบิล แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ทุกท่านได้ให้เกียรติมาร่วมทดสอบสมรรถนะของ New Suzuki Swift ในวันนี้ กว่า 100 ปีที่ซูซูกิทุ่มเท สร้างสรรค์ค์นวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ มีความน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มคอมแพ็คคาร์ สู่ผู้บริโภคทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย

และเมื่อไม่นานมานี้ ซูซูกิได้เปิดตัว สินค้าคุณภาพตัวใหม่ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการนั่นคือ รถยนต์ New Suzuki Swift “พลิกดีไซน์เพื่อความแตกต่าง” สู่ตลาดรถยนต์ไทย ภายใต้ปรัชญา “Suzuki…Way of Life!” เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่มีความต้องการความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวสูง วันนี้ทางซูซูกิหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้รับการตอบรับที่ดี จากสื่อมวลชนทุกท่านที่เดินทางมาร่วมทดสอบสมรรถนะของ New Suzuki Swift ผมขอฝากประชาสัมพันธ์ไปยังผู้บริโภคด้วยนะครับ ขอบพระคุณครับ"

ซูซูกิได้เปิดโลกทัศน์ใหม่แห่งการขับขี่ให้กับตลาดรถยนต์นั่งของประเทศไทย ด้วย New Suzuki Swift รถยนต์ที่ผู้คนในหลากหลายประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุโรป ต่างกล่าวขวัญถึงมานาน ด้วยรูปลักษณ์แบบ Cubical Design โดดเด่นเฉพาะตัวไม่ซ้ำแบบใคร สร้างความน่าหลงใหล สะกดสายตาผู้คนมาแล้วทั่วโลก พร้อมด้วยสมรรถนะอันน่าทึ่งที่ให้ทั้งความปราดเปรียว คล่องตัว ตอบสนองทุกการขับขี่ได้อย่างฉับไว ขับสนุกในแบบสวิฟท์ ครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอันทันสมัย ซึ่งมาพร้อมกับมาตรฐานความปลอดภัย และคุณภาพเหนือความคาดหมายจากซูซูกิที่ทุกคนไว้วางใจมานาน เพื่อความตื่นเต้นสนุกสนานในทุกจังหวะของชีวิตในแบบของตัวเอง ในวิถีทางที่เลือกเอง สอดคล้องกับ Suzuki…Way of Life!

กว่า 100 ปี แห่งการสร้างสรรค์นวัตกรรมของซูซูกิ (Suzuki 100 Years of Innovations) ซูซูกิมุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ มีความน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนวัตกรรมยานยนต์ในกลุ่มคอมแพ็คคาร์ กับสินค้าคุณภาพใหม่ จากซูซูกิ รถยนต์นั่ง New Suzuki Swift ที่ผลิตขึ้นภายใต้ปรัชญาSuzuki Way of Life! เพื่อตอบสนองความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันที่มีความต้องการความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวสูง

New Suzuki Swift เป็นรถยนต์นั่งที่ได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างมาจากยุโรป โดยสร้างขึ้นตามมาตรฐานและคุณภาพของซูซูกิที่ทุกคนเชื่อถือและไว้วางใจ โดยมีการผสานเอา DNA อันเป็นเอกลักษณ์ของบริษัทที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาคอมแพ็คคาร์เข้ามารวมไว้ด้วยกัน นับตั้งแต่จุดเริ่มต้นของการทำงาน ทีมนักออกแบบและวิศวกรของซูซูกิ ได้ผสานความร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญทางด้านยนตรกรรมยุโรป รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญทางด้านยนตรกรรมอีกหลายท่าน เพื่อให้ได้มาซึ่ง New Suzuki Swift ยนตกรรมสำหรับคนยุคใหม่

ทีมวิศวกรของซูซูกิได้พัฒนารูปแบบโครงสร้างและสมรรถนะของ New Suzuki Swift ให้เหมาะกับทุกสภาพถนน โดยทำการทดสอบอย่างเข้มข้นทั้งภายในและภายนอกห้องทดสอบ มีการทดสอบบนถนนจริงครั้งแล้วครั้งเล่าในภูมิประเทศที่หลากหลายเพื่อให้ได้ผลลัพท์ที่น่าพอใจ และเพื่อให้ผู้ขับขี่ได้สนุกกับการขับขี่ที่แตกต่าง

รถยนต์ New Suzuki Swift ได้รับการยอมรับและเป็นที่กล่าวขวัญถึงมาแล้วทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุโรป หลายๆ คนที่ได้สัมผัสประสบการขับขี่ในแบบสวิฟท์ หรือแม้แต่เพียงได้พบเห็น ต่างชื่นชอบทั้งด้านดีไซน์และสมรรถนะ และในหลายๆ ปีที่ผ่านมา ซูซูกิ สวิฟท์ ได้แสดงให้เห็นถึงขีดความสามารถอันน่าทึ่ง กับภาพของรถยนต์ญี่ปุ่นเพียงแบรนด์เดียวที่โลดแล่นท้าทายรถยนต์แบรนด์ยุโรปในสนามการแข่งขัน JWRC หรือ Junior World Rally Championship และประสบความสำเร็จเกินความคาดหมาย โดยได้รับชัยชนะในหลายๆ ทัวร์นาเมนท์ และสามารถทำเวลาขึ้นไปอยู่ในอันดับต้นๆ ของการแข่งขันเคียงข้างรถยนต์ยุโรป

ด้านสมรรถนะ ซูซูกิได้ออกแบบเครื่องยนต์ M15A แบบ 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว เอกสิทธิ์เฉพาะ New Suzuki Swift ซึ่งมีขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 74 กิโลวัตต์ ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 133 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที พร้อมเทคโนโลยี Variable Valve Timing (VVT) ให้กำลังและแรงบิดสูงทุกอัตราเร่ง ตอบสนองทุกการขับขี่ได้อย่างฉับไว นอกจากนี้ ด้วยรัศมีวงเลี้ยวแคบเพียง 4.7 เมตร ทำให้ New Suzuki Swift มีความปราดเปรียวและมีความคล่องตัวสูง ในทุกๆ เส้นทางการขับขี่ ไม่ว่าถนนจะกว้างหรือแคบ จะเป็นตรอกซอกซอย หรือในอาคารที่มีพื้นที่จำกัด ผู้ขับขี่ก็สามารถขับสนุกสุดเหวี่ยงได้ในสไตล์สวิฟท์ และเมื่อผสานกับ Torsion-Beam Rear Suspension ของ New Suzuki Swift ผู้ขับขี่จะสามารถสัมผัสได้ถึงความสมดุลอย่างลงตัวระหว่างประสิทธิภาพและความรู้สึกสบายขณะขับขี่

นอกจากสมรรถนะในสไตล์สวิฟท์ที่ตอบความเป็นตัวตนของผู้ขับขี่แล้ว ด้านความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารและเทคโนโลยีความปลอดภัย เป็นสิ่งที่ซูซูกิให้ความใส่ใจในทุกๆ รายละเอียด ชิ้นส่วนต่างๆ ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง ทนทาน อุปกรณ์ต่างๆ ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน ปราณีต ตามมาตรฐานและคุณภาพของซูซูกิที่ทุกคุณไว้ใจและเชื่อถือมาตลอดทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก

ซูซูกิได้ออกแบบภายในห้องโดยสารให้มีสไตล์ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ซ้ำแบบใคร พวงมาลัย 3 ก้านแบบสปอร์ต ให้ความรู้สึกเร้าใจทุกครั้งที่ได้สัมผัส พร้อมสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงบริเวณพวงมาลัย ทำให้ผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องปล่อยมือจากพวงมาลัย หรือละสายตาจากทัศนวิสัยเบื้องหน้า ระบบปรับอากาศอัตโนมัติที่ทันสมัย สะดวกสบาย เหนือความคาดหมายของใครๆ ชุดอุปกรณ์เครื่องเสียง ประกอบด้วยวิทยุและเครื่องเล่นซีดี ออกแบบได้อย่างลงตัว ไร้รอยต่อ กลมกลืนกับดีไซน์ของตัวรถ พร้อมระบบ Keyless Start และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอื่นๆ อีกมากมาย

ซูซูกิยังมอบการขับขี่ที่สนุก ควบคู่ไปกับความมั่นใจในการขับขี่ โดยเสริมความปลอดภัยด้วยคานกันกระแทกด้านข้าง ระบบป้องกันล้อล็อคขณะเบรก (ABS) ทั้ง 4 ล้อ และระบบกระจายแรงเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EBD) พร้อมระบบช่วยเบรก ช่วยให้ผู้ขับขี่มั่นใจทุกครั้งเมื่อต้องการหยุดรถอย่างปลอดภัย นอกจากนี้ ยังเพิ่มมาตรการความปลอดภัยด้วยถุงลมนิรภัยคู่หน้า (SRS) และระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer ช่วยป้องกันการโจรกรรม

และที่สำคัญ ซูซูกิยังมอบความอุ่นใจในทุกการเดินทางไปกับ New Suzuki Swift ด้วยบริการให้ความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง (24 Hours Road Side Assistance) และบริการสายด่วนตลอด 24 ชั่วโมง อีกด้วย (จากหมายเลขโทรศัพท์พื้นฐาน โทร. 1800-600-900, จากหมายเลขโทรศัพท์มือถือ โทร. 1401-600-900)

รถยนต์นั่ง New Suzuki Swift มีให้เลือก 2 รุ่น คือ

• รุ่น GA เกียร์อัตโนมัติ ราคา 599,000 บาท
• รุ่น GL เกียร์อัตโนมัติ ราคา 649,000 บาท
• หมายเหตุ
• ข้อมูลผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่เป็นข้อมูลสำหรับรถยนต์ New Suzuki Swift รุ่น GL ซึ่งท่านสามารถตรวจสอบรายละเอียดของรถทั้งรุ่น GA และ GL เพิ่มเติมได้จากแคตตาล็อกของ New Suzuki Swift และwww.suzuki.co.th

สนใจสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับโชว์รูมผู้แทนจำหน่าย สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ Call Center ตลอด 24 ชั่วโมง (จากหมายเลขโทรศัพท์พื้นฐาน โทร. 1800-600-900, จากหมายเลขโทรศัพท์มือถือ โทร. 1401-600-900)

จีเอ็ม ประเทศไทย เดินหน้าเต็มสูบ พร้อมขยายการดำเนินงาน

จีเอ็ม ประเทศไทย ลงนามสัญญาสนับสนุนด้านเงินทุนกับสาม

สถาบันการเงินชั้นนำของประเทศ

· เตรียมสานต่อสามโครงการสำคัญ

· ยืนยันความมุ่งมั่นเพื่อการขยายธุรกิจในประเทศไทย และภูมิภาค อาเซียน

กรุงเทพฯ: บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ฉลองการลงนามในสัญญาข้อตกลงการสนับสนุนด้านเงินทุนจากสามสถาบันการเงินชั้นนำของประเทศ พร้อมประกาศเดินหน้าสานต่อสามโครงการสำคัญ มุ่งเสริมสร้างการเติบโตของจีเอ็ม และเชฟโรเลต ในประเทศไทย และภูมิภาคอาเซียน

เงินทุนดังกล่าวจะพัฒนาโครงการหลักสามโครงการที่มีความสำคัญยิ่งของ จีเอ็ม ประเทศไทย คือโครงการพัฒนารถปิกอัพสายพันธุ์ใหม่ โครงการผลิตรถเอนกประสงค์รุ่นใหม่ และโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตเครื่องยนต์ดีเซลแห่งแรกของภูมิภาคอาเซียน ซึ่งจะเริ่มดำเนินการผลิตได้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 - 2555 บนพื้นที่กว่า 440 ไร่ ของจีเอ็มที่จังหวัดระยอง

สถาบันการเงินที่ให้การสนับสนุนเงินทุนจำนวนรวม 13,500 ล้านบาท (หรือราว 409 ล้านดอลลาร์) ได้แก่ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารทิสโก้ โดยมี บมจ.หลักทรัพย์บัวหลวง เป็นที่ปรึกษาและดำเนินการเพื่อขอการสนับสนุนเงินทุนในครั้งนี้ ขณะเดียวกัน เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอมพานี ได้ให้การสนับสนุนเป็นจำนวนเงินอีก 3,890 ล้านบาท (118 ล้านดอลลาร์) อีกด้วย

มร. สตีฟ คาร์ไลส์ ประธานกรรมการ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “การลงนามสัญญาสนับสนุนเงินทุนในครั้งนี้ ถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ของจีเอ็ม ประเทศไทย ที่เราสามารถหาแหล่งเงินทุนภายในประเทศด้วยตนเอง พร้อมประสานความสัมพันธ์อันดีกับสามสถาบันการเงินที่แข็งแกร่ง และมีความสำคัญมากที่สุดของประเทศไทย เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรทางธุรกิจของเรา”

มร.สตีฟ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ลูกค้าของเราในประเทศไทย และอาเซียน เป็นศูนย์กลางของทุกสิ่งที่เราดำเนินการ

ความมุ่งมั่นของเราคือการให้ลูกค้าของเราได้ขับรถยนต์และรถปิกอัพที่มีคุณภาพดีที่สุด โครงการทั้ง 3 โครงการจะผลักดันให้เราประสบความสำเร็จในระยะยาว”

การประกาศสัญญาสนับสนุนด้านการเงินในวันนี้ เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่อุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น หลังจากผ่านพ้นช่วงชะลอตัวมาแล้ว ขณะที่จีเอ็ม ประเทศไทย ก็ได้รับสัญญาณที่ดีในตลาดส่งออกตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายของปี 2552 ที่ผ่านมา พร้อมกับมีแนวโน้มว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นด้วยในปี 2553 นี้ และในอนาคตถัดไป

นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า ธนาคารของเรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมให้การสนับสนุนทางการเงิน แก่บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด “การลงทุนใหม่ในครั้งนี้ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของบริษัทในศักยภาพของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย และโอกาสใหม่ๆ ที่ประเทศไทยจะได้รับประโยชน์จากการหลอมรวมกันของเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขตการค้าเสรีอาเซียนต่างๆ และประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนซึ่งเริ่มมีผลอย่างเป็นทางการแล้ว

“ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) เป็นองค์กรที่มีบทบาทสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเพิ่มมูลค่าการส่งออกของอุตสาหกรรมยานยนต์ และธนาคารหวังว่าจะได้สนับสนุนบริษัทในการขยายตลาดจนเป็นหนึ่งในผู้นำในตลาดรถยนต์ในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชีย สมศักดิ์ศรีของผู้ผลิตรถยนต์ที่มีคุณภาพระดับโลก”

นางกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การสนับสนุนทางการเงินในครั้งนี้ นับเป็นบทพิสูจน์ความแข็งแกร่งด้านนวัตกรรมการให้บริการทางการเงินที่ครบวงจรในระดับสากล ธนาคารได้คำนึงถึงการจัดโครงสร้างทางการเงินให้เหมาะสมกับลักษณะธุรกิจ และกระแสเงินสดต่างๆ เพื่อรองรับการขยายฐานธุรกิจของจีเอ็ม เพื่อให้ธุรกิจสามารถเดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง ความสำเร็จดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า ธนาคารมีความพร้อมในการเป็น The Premier Universal Bank ที่สามารถให้บริการทางการเงินที่หลากหลายแก่ลูกค้าทุกกลุ่ม ภายใต้รูปแบบการบริการทางการเงินที่เหมาะสม (Right Solution) ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการทางธุรกิจของลูกค้า”

สนับสนุนสินเชื่อแก่ลูกค้า และตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เชฟโรเลตทั่วประเทศอยู่ในปัจจุบันเท่านั้น วันนี้ เรายังมีโอกาสให้การสนับสนุนทางการเงินร่วมแก่จีเอ็มอีกด้วย เราภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการให้การสนับสนุนจีเอ็มในก้าวย่างที่สำคัญของการขยายการลงทุนในประเทศไทย ซึ่งจะช่วยย้ำการเป็นฐานการผลิตรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ชั้นนำของประเทศไทยในภูมิภาคนี้ "

เกี่ยวกับ เจนเนอรัล มอเตอร์ส

เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอมพานี หนึ่งในบริษัทผู้ผลิตรถที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2451 ปัจจุบันมีการผลิตรถยนต์และรถปิกอัพใน 34 ประเทศ สำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองดีทรอยท์ โดยมีพนักงาน 204,000 คนในทุกภูมิภาคสำคัญทั่วโลก มีการจำหน่าย และการบริการใน 140 ประเทศ ภายใต้แบรนด์ชื่อดัง ทั้ง บูอิค คาดิลแลค เชฟโรเลต จีเอ็มซี จีเอ็มแดวู โฮลเดน โอเปิล วอกซ์ฮอลล์ และวูลิง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเข้าเยี่ยมชมที่ www.gm.com

มาสด้าเชื่อมั่นมาสด้า2 ติดลมบนตั้งเป้าโต 160%

เดินหน้าเปิดตัวรถสายพันธุ์สปอร์ตรุ่นใหม่ตลอดปี

กรุงเทพฯ – ประเทศไทย, 18 มกราคม 2552 – บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศเตรียมยกทัพรถยนต์รุ่นใหม่ลงสู้ศึกตลาดรถยนต์เมืองไทยอย่างต่อเนื่อง หลังจากประสบความสำเร็จอย่างสูงสุดในการเปิดตัวรถยนต์มาสด้า2 รถสปอร์ตน้องใหม่ไปเมื่อช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน 2552 และต่อเนื่องด้วยยอดจองที่เข้ามาอย่างคึกคักในงานมหกรรมยานยนต์ ส่งผลให้รถยนต์นั่งซิตี้คาร์ มาสด้า2 ใหม่ กลายเป็นรถยนต์ปลุกกระแสความร้อนแรง และได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ทำให้ยอดขายรถยนต์มาสด้าพุ่งสูงขึ้นทำสถิติใหม่ในรอบ 10 ปี นับตั้งแต่บริษัทแม่เข้ามาลงทุนในประเทศไทย จากกระแสดังกล่าวทำให้มาสด้า ประเทศไทย ออกมาประกาศอย่างชัดเจนว่าในปีเสือนี้มาสด้ากำลังเติบโตแบบก้าวกระโดอีกครั้งด้วยการตั้งเป้ายอดขายในปีนี้สูงถึง 34,628 คัน หรือเติบโตเพิ่มขึ้นมากกว่าปีที่ผ่านมากว่า 160% พร้อมกันนี้ยังเตรียมขยายเครือข่ายศูนย์บริการเพิ่มขึ้นอีกเป็น 130 แห่ง ทั้งกรุงเทพและต่างจังหวัด

จอห์น เรย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า จากความสำเร็จอย่างงดงามสำหรับการเปิดตัวรถยนต์นั่งมาสด้า2 ทำให้มาสด้ายอดการจำหน่ายรถยนต์มาสด้าประจำปี 2552 ที่ผ่านมา ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับมาสด้าอย่างน่าภาคภูมิใจหลายอย่าง มาสด้าประสบความสำเร็จอย่างงดงามเกินความคาดหมาย ด้วยยอดการจำหน่ายรวมทั้งสิ้น 13,241 คัน มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 18 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2551 ที่ผ่านมาซึ่งยอดการจำหน่ายจำนวน 11,178 คัน โดยมีอัตราการเติบโตสูงที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นที่จำหน่ายในประเทศไทย โดยยอดขายแบ่งออกเป็นรถสปอร์ตปิคอัพมาสด้า บีที-50 ใหม่ ทำยอดขายสูงสุดจำนวน 5,574 คัน รถยนต์นั่งสปอร์ต New Mazda3 และ Mazda3 Sports ที่ยังคงความร้อนแรงอย่างต่อเนื่องได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่อีกครั้ง จำนวน 4,800 คัน มีอัตราการเติบโต 16 เปอร์เซ็นต์ รถสปอร์ตโรดสเตอร์ที่มียอดขายสูงที่สุดในโลก New Mazda MX-5 จำนวน 47 คัน รถสปอร์ตครอสโอเวอร์หรู 7 ที่นั่ง New Mazda CX-9 จำนวนทั้งสิ้น 26 คัน และที่กำลังร้อนแรงสุดสุดอยู่ในขณะนี้ที่เพิ่งเปิดตัวเพียงแค่เดือนครึ่ง New Mazda2 สามารถส่งมอบให้ลูกค้าไปแล้วถึง 2,794 คัน พร้อมกับยอดจองที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้มาสด้ากำลังเร่งส่งมอบให้กับลูกค้าอีกกว่า 2,500 คัน

สำหรับตลาดรถยนต์มาสด้าในปี 2553 นี้ มาสด้าเตรียมนำรถยนต์รุ่นใหม่ พร้อมทั้งรุ่นพิเศษ เปิดตัวสู่ตลาดเมืองไทยอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี ตั้งเป้ายอดขายปีนี้สูงถึง 34,628 คัน หรือเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 160 เปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะรถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า2 ใหม่ จะยังคงเป็นโปรดักซ์ลีดเดอร์สำหรับการทำตลาดในปีนี้ โดยจะนำเอาตัวซีดาน 4 ประตู มาเพิ่มความร้อนแรงในช่วงงานมอเตอร์โชว์ พร้อมตั้งเป้าหมายยอดขายไว้อยู่ที่ประมาณ 23,780 คัน และที่สำคัญรถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า3 จะยังคงรักษาความร้อนแรงต่อไป ประมาณ 4,470 คัน ส่วนรถสปอร์ตปิคอัพมาสด้า บีที-50 ใหม่ คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 6,300 คัน และรถพรีเมี่ยมคาร์คือ New Mazda CX-9 และ New Mazda MX-5 อีกประมาณ 78 คัน ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาจากสภาพของตลาดโดยรวมในปีนี้ยอดจำหน่ายของทั้งอุตสาหกรรมรถยนต์น่าจะอยู่ที่ประมาณ 600,000 คัน ในขณะที่มาสด้าเองจะยังคงให้ความสำคัญในการเพิ่มคุณภาพการบริการหลังการขาย เพื่อความเชื่อมั่นของลูกค้าในระยะยาวต่อไป

นอกจากการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ที่นำมาเสริมทัพเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์แล้ว มาสด้ายังเตรียมขยายเครือข่ายศูนย์บริการเพิ่มขึ้นเป็น 130 แห่ง จากที่มีอยู่เดิม 106 แห่ง เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้ามาสด้า พร้อมกับการให้บริการด้วยมาตรฐานระดับโลกอย่างเต็มประสิทธิภาพ และครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มความอุ่นใจของลูกค้าตลอดการเดินทาง

สุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า จากการโหมจัดกิจกรรมด้านการตลาดอย่างฉีกแนว และต่อเนื่องตลอดทั้งปีที่ผ่านมา ทำให้มาสด้าประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง ทั้งด้านยอดขาย และการยอมรับในคุณภาพและสมรรถนะของรถยนต์มาสด้า สำหรับในปี 2553 นี้ มาสด้ายังคงเดินหน้าอย่างเต็มที่ พร้อมกับเตรียมจัดกิจกรรมการตลาดต่างๆ ไว้มากมายตลอดทั้งปี โดยเฉพาะที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับปีนี้ มาสด้าเตรียมเปิดตัวรถยนต์นั่งสปอร์ตซีดาน 4 ประตู New Mazda2 พร้อมด้วยรถยนต์รุ่นพิเศษอีกหลายรุ่นเข้ามาเสริมทัพมาสด้าในปีนี้ โดยเฉพาะการใช้สื่อรูปแบบใหม่ๆ ที่กำลังได้รับความนิยม สะดวก รวดเร็ว และง่ายต่อการเข้าถึง การร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ รวมทั้งจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย การทำโปรโมชันที่สร้างสรรค์ โดยมีขั้นตอนที่ง่ายไม่ซับซ้อน จะทำให้กลุ่มเป้าหมายอยากเข้าร่วมกิจกรรม เพื่อสร้างความสัมพันธ์และประสบการณ์ที่ดีกับแบรนด์ และนี่คืออีกบทพิสูจน์หนึ่งถึงทิศทางการทำตลาดของมาสด้าในประเทศไทย ที่เดินมาถูกทางด้วยการชูกลยุทธ์ด้านการตลาดที่แตกต่างจากเจ้าอื่น และเจาะลึกถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย รวมถึงกำหนดยุทธศาสตร์ในระยะยาว เพื่อสร้างการรับรู้ในแบรนด์ เรื่องของคุณภาพและสมรรถนะของรถมาสด้า ผ่านทางสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ และกิจกรรมการตลาดมาตลอดเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา และมาสด้าพร้อมแล้วที่จะเติบโตเคียงคู่กับสังคมไทยตลอดไป

ดังนั้น ลูกค้ามาสด้าทุกท่านไม่ควรพลาดโอกาสการในการเป็นเจ้าของยานยนต์สายพันธุ์สปอร์ตจากมาสด้า ที่ให้ความสนุกสนานในการขับขี่ที่เร้าใจ แบบ ซูม-ซูม ด้วยสมรรถนะเป็นเยี่ยม ให้ความมั่นใจในความปลอดภัย อบอุ่นใจตลอดการเดินทาง พร้อมทดลองขับก่อนตัดสินใจเป็นเจ้าของ และรับข้อเสนอสุดพิเศษจากมาสด้าได้แล้ววันนี้ที่โชว์รูมมาตรฐานมาสด้าทั้ง 106 แห่งทั่วประเทศ

รถยนต์ของมาสด้าเป็นที่คุ้นเคยในเมืองไทยมานานกว่า 59 ปี และยังคงดำเนินบทบาทสำคัญต่อการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจไทย มาสด้ามุ่งมั่นในการนำอารมณ์สนุกสนานวัยเด็กกลับมาสู่ทุกท่านอีกครั้ง ด้วยการผลิตรถยนต์ภายใต้แนวคิด "ซูม-ซูม"  อันเปี่ยมไปด้วยคุณลักษณะแห่งความ  "ท้าทาย"  "สร้างสรรค์" และ "ร่าเริง"  เพื่อให้ทุกการขับขี่ของคุณไม่ใช่เพียงการเคลื่อนที่จากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง นอกเหนือจากยนตรกรรมอันทรงเอกลักษณ์แล้ว เรายังทุ่มเทอย่างหนักในการพัฒนาการบริการหลังการขายเพื่อให้ลูกค้าของมาสด้าทุกท่านได้รับความพึงพอใจ เพราะเรายึดมั่นว่า รอยยิ้มของท่านคือความภาคภูมิใจของเรา

เชิญสัมผัสและทดลองขับรถสปอร์ตมาสด้า2 รถสปอร์ตน้องใหม่ รถยนต์นั่งสปอร์ตซีดานมาสด้า3 รถสปอร์ตปิคอัพมาสด้า บีที-50 ใหม่ สปอร์ตปิคอัพ พลังแรง และรถสปอร์ตโรดสเตอร์มาสด้า เอ็มเอ็กซ์-5 ใหม่ และรถสปอร์ตครอสโอเวอร์หรู 7 ที่นั่ง New Mazda CX-9 ได้ที่โชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐานของมาสด้า 106 แห่งทั่วประเทศ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ มาสด้า สปีดไลน์ หมายเลขโทรศัพท์ 0-2661-9880 หรือต่างจังหวัดโทรฟรี ได้ที่หมายเลข 1-800-226-408 http://www.mazda.co.th