4 ต.ค. 2550

Mercedes-Benz C-Class ใหม่ ๓.๙๙ ล้าน







3 ตุลาคม 2550

The new Mercedes-Benz C-Class : Agility at your command.
เหนือกว่าด้วยความปลอดภัย, ความนุ่มนวลสะดวกสบายและความคล่องตัวปราดเปรียว


ความปลอดภัย, ความนุ่มนวลสะดวกสบายและความปราดเปรียว สิ่งเหล่านี้เป็นคุณลักษณะที่โดดเด่นของ C-Class ใหม่ รถยนต์นั่งในแบบซาลูนที่เหนือกว่าด้วยแนวคิดที่ผ่านการเจียรนัยดุจอัญมณีล้ำค่าในทุก ๆ ด้านเพื่อให้สอดคล้องกับสิ่งที่เป็นความคาดหวังของกลุ่มลูกค้าที่มีความหลากหลายความต้องการ สำหรับ C-Class ใหม่ในรหัส W 204 นำเสนอด้วยการตกแต่งในแบบ AVANTGARDE รูปลักษณ์ของความนุ่มนวลสะดวกสบายและความคล่องตัวปราดเปรียวที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว พร้อมเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าล่าสุด ซึ่งรวมถึงระบบกันสะเทือนที่พัฒนาใหม่ล่าสุดระบบ AGILITY CONTROL ที่จะควบคุมการทำงานของโช้คอัพให้ตอบสนองต่อแต่ละสถานการณ์อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด, ระบบไฟส่องสว่างอัจฉริยะที่มีฟังค์ชั่นการทำงานแตกต่างกันถึง 5 ระดับและระบบให้การปกป้องคุ้มครองผู้ขับและผู้โดยสารก่อนเกิดเหตุ PRE-SAFE® เครื่องยนต์แบบ 4 สูบที่มีพละกำลังแรงม้าเพิ่มขึ้นมากกว่า 13% เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์รุ่นก่อนควบคู่ไปกับการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงที่ดีขึ้นกว่า 6%

ด้วยความยาวทั้งหมด 4,581 มม. ทำให้ C-Class ซาลูนใหม่มีความยาวมากกว่ารุ่นก่อน 55 มม. ความกว้างของตัวถังเพิ่มขึ้นอีก 42 มม. เป็น 1,770 มม. และความยาวของฐานล้อหน้า-หลังเพิ่มมากขึ้น 45 มม. เป็น 2,760 มม. มิติที่เพิ่มขึ้นของตัวรถเอื้ออำนวยต่อการออกแบบภายในห้องโดยสารให้มีความสะดวกสบายเพิ่มมากขึ้น ตัวอย่างเช่น บริเวณช่วงหัวไหล่ของห้องโดยสารตอนหน้าเพิ่มขึ้นถึง 40 มม. เป็นต้น

การออกแบบ C-Class ใหม่ถูกพัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของแนวคิดที่ทันสมัยของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการใช้เทคนิคขั้นสูงสุดของยนตรกรรมภายใต้สัญลักษณ์ดาวสามแฉกที่แสดงออกจากการออกแบบแนวเส้นที่เรียบร้อย, ความกว้างขวางและความลื่นไหลของพื้นผิว รูปทรงลิ่มทางด้านหน้ารถแสดงให้เห็นถึงความคล่องตัวปราดเปรียวและสมรรถนะได้เป็นอย่างดี และเป็นครั้งแรกของรถยนต์นั่งแบบซาลูนของเมอร์เซเดสที่กระจังหน้ารถถูกนำมาใช้ในการบ่งบอกถึงคุณลักษณะที่แตกต่างของแต่ละโมเดลอย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น กระจังหน้าแบบลาย 3 แถบแนวนอนพร้อมสัญลักษณ์โลโก้ดาว 3 แฉกขนาดใหญ่ตรงกึ่งกลางซึ่งใช้กับรถยนต์สไตล์สปอร์ตของ เมอร์เซเดสถูกนำมาใช้ใน C-Class ใหม่ที่ตกแต่งในแบบ AVANTGARDE ที่บ่งบอกถึงความเป็นสปอร์ตคาร์ อุปกรณ์คุณภาพสูง

ด้วยแนวคิดแบบ product-in-product ทำให้ผู้ใช้ Mercedes-Benz C-Class ใหม่สามารถที่จะให้ความสำคัญกับรสนิยมส่วนตัวและทำให้ C-Class ใหม่เหมาะสมสอดคล้องกับรสนิยมและไลฟ์สไตล์ของพวกเขาได้มากกว่าที่เคยมีมา ทุก ๆ โมเดลนำเสนอในสิ่งที่คล้ายคลึงกัน, ประสบการณ์ในการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมเหนือกว่าเนื่องจากการปรับปรุงทางด้านเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น ทั้งในด้านของความนุ่มนวลสะดวกสบายในการเดินทางเป็นระยะเวลายาวนานและการบังคับควบคุมที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งทั้งหมดทำให้ C-Class เป็นผู้กำหนดมาตรฐานใหม่ของรถยนต์นั่งในเซกเมนต์เดียวกันอย่างแท้จริง

โช้คอัพปรับการทำงานโดยอัตโนมัติตามสภาวะในการขับขี่

AGILITY CONTROL - เป็นพัฒนาการใหม่ที่เบอร์เซเกศ-เลนซ์นำมาใช้ในรถ C-Class ใหม่ซึ่งทำให้เกิดความนุ่มนวลสะดวกสบายและความคล่องแคล่วปราดเปรียวมากขึ้น ชุด AGILITY CONTROL จะประกอบไปด้วย AGILITY CONTROL ระบบกันสะเทือน ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของโชคอัพให้เป็นไปตามสถานการณ์ในการขับขี่ เช่นการขับขี่ในสภาพปกติทั่วไปแรงดันของโช้คอัพต่ำ แรงยุบตัวของโช้คอัพจะลดลงโดยอัตโนมัติเพื่อเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ที่ให้ความนุ่มนวลสะดวกสบายและยังคงไว้ซึ่งการบังคับควบคุมอย่างปลอดภัย ในสถานการณ์การขับขี่ที่ใช้ความเร็วมากขึ้น การยุบตัวของโช้คอัพจะถูกปรับให้อยู่ในระดับสูงสุดเพื่อให้เกิดเสถียรภาพในการทรงตัวสูงสุด AGILITY CONTROL ระบบบังคับเลี้ยว ของ C-Class มีอัตราทดพวงมาลัยให้ฉับไวขึ้นเป็น 14.5 ทำให้การบังคับเลี้ยวเป็นไปอย่างแม่นยำเที่ยงตรงมากกว่า C-Class รุ่นก่อน 6% นอกจากนี้ AGILITY CONTROL ระบบส่งกำลัง ที่ทำให้การปรับเปลี่ยนเกียร์สะท้อนให้เห็นถึงบุคลิกถึงความเป็นสปอร์ตคาร์ใน C-Class ใหม่มากยิ่งขึ้นด้วยการเข้าเกียร์ที่สั้นกระชับและแม่นยำมากขึ้น

ระบบ ADAPTIVE BRAKE เป็นอีกหนึ่งในพัฒนาการที่ก้าวหน้าของเทคโนโลยีระบบส่งกำลัง เช่นเดียวกับที่ใช้ใน S-Class และฟังค์ชั่นการทำงานที่สนับสนุนให้เกิดความปลอดภัยและความนุ่มนวลสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่นระบบช่วยในการสตาร์ทเครื่องยนต์บนทางลาดชัน (Start-off Assist), ระบบเบรกทำงานล่วงหน้าในสถานการณ์ที่อาจจะก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้และจานดิสค์เบรกที่มีระบบป้องกันความชื้นเป็นต้น

เครื่องยนต์ซูเปอร์ชาร์จ 4 สูบสมรรถนะเพิ่มขึ้น 13%

ด้วยแรงม้าที่เพิ่มมากขึ้นถึง 13% และการเพิ่มขึ้นของแรงบิดกว่า 18% ทำให้เครื่องยนต์ของ C-Class ใหม่มีบทบาทสำคัญส่วนหนึ่งในการทำให้ C-Class ใหม่มีความคล่องแคล่วปราดเปรียวอย่างเป็นธรรมชาติ เครื่องยนต์ 4 สูบไม่ได้เหนือกว่าในการตอบสนองความต้องการในด้านพละกำลังที่เชื่อถือได้เท่านั้นแต่ยังให้ความสะดวกสบายด้วยความนุ่มนวลในการทำงานที่เพิ่มมากขึ้นอีกด้วยพัฒนาให้เพิ่มขึ้นจากเดิม 163 แรงม้าเป็น 184 แรงม้าโดยมีแรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตรที่รอบเครื่องยนต์ 2,800 รอบต่อนาที การปรับปรุงเครื่องยนต์แบบ 4 สูบนี้นอกจากจะมีสมรรถนะที่เพิ่มมากขึ้นแล้วยังให้การประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย อัตราเร่งความเร็วที่ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงสำหรับ C 200 KOMPRESSOR ทำได้เร็วขึ้นกว่ารุ่นเดิม 0.5 วินาที ในส่วนของการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง C 200 KOMPRESSOR มีการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงดีขึ้น 0.5 ลิตรต่อระยะทาง 100 กิโลเมตรเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน

นวัตกรรมล่าสุดของ Mercedes ที่ให้ความมั่นใจในความปลอดภัยสูงสุด

ระหว่างขั้นตอนของกระบวนการพัฒนารถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ C-Class รุ่นใหม่นี้ ทีมงานวิศวกรของเมอร์เซเดสได้ทดสอบ C-Class ใหม่ด้วยการทดสอบการชนมากกว่า 100 ครั้งรวมถึงการทดสอบที่เป็นความต้องการพิเศษโดยเฉพาะ ซึ่งผลออกมาเป็นที่น่าพึงพอใจอย่างยิ่งบางอย่างเหนือกว่าข้อกำหนดตามกฎหมายด้วย ซึ่งความสำเร็จดังกล่าวนี้เป็นเหมือนกับรางวัลพิเศษที่จัดเตรียมไว้สำหรับยนตรกรรมที่ให้ความปลอดภัยสูงสุด การให้ความปกป้องคุ้มครองทุกชีวิตภายในห้องโดยสารตั้งอยู่บนพื้นฐานของการออกแบบโครงสร้างตัวถังที่ชาญฉลาด 70% ของส่วนประกอบโครงสร้างตัวถังทำจากเหล็กกล้าที่มีความแข็งแกร่งและเหล็กกล้าที่มีความแข็งแกร่งเป็นพิเศษ เปรียบเทียบกับ C-Class รุ่นเดิม วิศวกรของเมอร์เซเดสได้ขยายพื้นที่ในการรองรับแรงปะทะให้มากขึ้นและปรับปรุงการถ่ายเทแรงปะทะให้ลื่นไหลผ่านห้องโดยสารให้ดียิ่งขึ้น โครงสร้างด้านหน้าของ C-Class ใหม่มีส่วนที่ใช้ในการรองรับแรงปะทะที่เกิดขึ้นอย่างเป็นอิสระถึง 4 ระดับ ซึ่งจะกระจายแรงปะทะที่เกิดขึ้นในพื้นที่ที่กว้างมากขึ้นขณะที่แรงปะทะจะถูกส่งผ่านออกไปโดยทำให้เกิดอันตรายกับโครงสร้างห้องโดยสารนิรภัยน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นได้

ด้วยระบบเทคโนโลยีการปกป้องคุ้มครองอันทันสมัยล่าสุด ทำให้ความปลอดภัยภายในห้องโดยสารมีความสมบูรณ์ขึ้น โดยมีถุงลมนิรภัย 8 ลูก 10 ตำแหน่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานประกอบด้วย ถุงลมนิรภัยด้านหน้าแบบปรับได้ 2 ตำแหน่งสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้า, ถุงลมนิรภัยด้านข้างแบบติดตั้งอยู่ในพนักพิงเบาะนั่งคู่หน้า 2 ตำแหน่ง, ถุงลมนิรภัยด้านข้าง 2 ตำแหน่งสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง และม่านนิรภัยด้านข้างตอนหน้า 2 ตำแหน่ง และตอนหลังอีก 2 ตำแหน่งซึ่งจะทำงานครอบคลุมระหว่างเสา A-pillar จนถึงเสา C-pillar ระหว่างเกิดการปะทะทางด้านข้าง เข็มขัดนิรภัยแบบผ่อนแรงและรั้งกลับอัตโนมัติสำหรับผู้ขับขี่, ผู้โดยสารด้านหน้าและผู้โดยสารด้านหลังสองตำแหน่ง หมอนรองศีรษะแบบ NECK PRO Head restraints ที่จะทำงานเมื่อเกิดการปะทะจากทางด้านหลังโดยที่หมอนรองศีรษะจะเลื่อนรองรับให้แนบไปกับศีรษะของผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้าภายในเวลาเพียงเศษเสี้ยววินาทีซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดความบาดเจ็บบริเวณลำคอ

ระบบ PRE-SAFE® ซึ่งเป็นระบบที่ให้การปกป้องคุ้มครองผู้ขับขี่และผู้โดยสารภาย อันเป็นอีกหนึ่งความพิเศษที่ติดตั้งใน C-Class ใหม่ โดยระบบจะถูกเชื่อมต่อกับระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันก่อนเกิดอุบัติเหตุ (active) เช่นโปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (ESP®) และระบบช่วยเบรก (BAS) ซึงระบบจะสามารถคาดการณ์สถานการณ์ที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ล่วงหน้า ถ้ารถยนต์อยู่ในภาวะอันตรายที่จะเกิดการปะทะขึ้นซึ่งเป็นผลมาจากการโอเวอร์หรืออันเดอร์สเตียร์อย่างรุนแรงหรือถ้าผู้ขับขี่จำเป็นต้องเบรกอย่างกะทันหันในสถานการณ์ฉุกเฉิน ระบบ PRE-SAFE® จะกระตุ้นให้ระบบต่าง ๆ เตรียมความพร้อมให้กับรถยนต์และทุกชีวิตภายในห้องโดยสารสำหรับอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้น หลังจากนั้นระบบความปลอดภัยแบบ passive จะเริ่มทำงานเมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้ว โดยจะช่วยบรรเทาความรุนแรงที่เกิดขึ้น

ระบบไฟส่องสว่างอัจฉริยะที่พัฒนาขึ้นโดยเมอร์เซเดส-เบนซ์ถูกนำมาใช้กับรถยนต์ในระดับคลาสนี้เป็นครั้งแรกเช่นกัน ไฟหน้าไบ-ซีนอนประสิทธิภาพสูงแบ่งการทำงานของระดับไฟส่องสว่างเป็น 5 ฟังค์ชั่นการทำงานที่แตกต่างกันเพื่อให้เหมาะสมกับสภาวะการขับขี่และสภาพภูมิอากาศ โดยประกอบด้วยการทำงานแบบ country mode, motorway mode, ไฟตัดหมอก, ระบบปรับโคมไฟหน้ารถตามการเลี้ยวของพวงมาลัย(ALS) และระบบเพิ่มความส่องสว่างขณะเลี้ยวโค้ง ระบบต่าง ๆ เหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้การขับขี่รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ C-Class ใหม่มีความปลอดภัยสูงสุดแม้ในสภาพทัศนวิสัยที่ไม่อาจมองเห็นได้อย่างชัดเจนแม่นยำ

การออกแบบภายในห้องโดยสาร “cast from a single mould”

เมื่อมาถึงขั้นตอนการพัฒนาในส่วนของห้องผู้ขับขี่ ทีมออกแบบของเมอร์เซเดสให้ความสำคัญกับการออกแบบเพื่อบ่งบอกถึงความเป็นสปอร์ตและการวางรูปแบบของอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนเหมือนเช่นในรถยนต์ในสไตล์คูเป้หรือโรดสเตอร์ชั้นนำ การเลือกใช้สีบรอนซ์เงินในส่วนที่เป็นขอบร่อง, พื้นในอุปกรณ์มาตรวัดต่าง ๆ เป็นสีดำ, ตัวเลขและตัวอักษรต่าง ๆ ใช้สีขาวขณะที่เข็มวัดเรืองแสงสีส้มเป็นรูปแบบที่ผสมผสานอย่างสมบูรณ์แบบที่ให้ทั้งความสวยงามประทับใจและการอ่านค่าต่าง ๆ อย่างง่ายดายชัดเจน

เช่นเดียวกับการจัดวางแผงหน้ากระจังที่ดูชัดเจนและสวยงามมีรสนิยม แผงหน้าปัดแบบทู-โทนและคอนโซลกลางของ C-Class ใหม่ที่เข้ากันอย่างลงตัวภายใต้การออกแบบแนว ”design cast from a single mould” ซึ่งไปสอดคล้องกับการออกแบบจอแสดงภาพสีที่ติดตั้งอยู่กึ่งกลางด้านบนของชุดแผงหน้าปัด ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ผู้ขับจะมองเห็นได้ชัดเจนที่สุดโดยที่สามารถปิดหรือหันไปด้านใดด้านหนึ่งได้ตามต้องการอีกด้วย ทั้งนี้เมื่อต้องการที่จะพับเก็บจอแสดงภาพสีนี้ไม่จำเป็นต้องยกเลิกการทำงานของเครื่องเสียง, ระบบนำทางหรือระบบอื่น ๆ ที่เชื่อมต่อกับจอแสดงภาพนี้ ระบบต่าง ๆ จะยังคงทำงานต่อไปอย่างต่อเนื่อง

แนวคิดใหม่ในการควบคุมที่ให้ความชัดเจนและความสะดวกสบาย


จอภาพสีเป็นส่วนหนึ่งของแนวคิดในการควบคุมและการแสดงผลแบบใหม่ซึ่ง C-Class ใหม่ได้นำมาใช้จากรถยนต์ในระดับลักซ์ชัวรี่ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ทำให้เกิดความสะดวกสบายในการใช้ฟังค์ชั่นการทำงานของระบบต่าง ๆ ที่ใช้งานบ่อยครั้ง ทำให้ผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องเรียนรู้วิธีการทำงานใหม่ ระบบควบคุมและส่วนประกอบในการแสดงผลที่มีความจำเป็นและมีความสำคัญต่อการใช้งานระหว่างการเดินทางจะติดตั้งอยู่ภายในส่วนของห้องผู้ขับขี่เพื่อความสะดวกในการใช้งานของผู้ขับขี่

ด้วยวิธีการเดียวกัน การเชื่อมต่อพวงมาลัยมัลติฟังค์ชั่นกับชุดอุปกรณ์บนแผงหน้าปัดเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเข้าไปรับทราบข้อมูลและฟังค์ชั่นการทำงานต่าง ๆ ของผู้ขับขี่ซึ่งมีให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน สำหรับฟังค์ชั่นการทำงานอื่น ๆ จะแสดงที่จอดิสย์เพลย์ตรงกลางของชุดแผงหน้าปัด นอกจากนี้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้าสามารถที่ควบคุมการทำงานของเครื่องเสียงหรือโทรศัพท์โดยการใช้ปุ่ม controller ที่คอนโซลกลางหรือเข้าไปยังเมนูการทำงานหลักโดยการใช้ปุ่มเลือกการทำงานโดยตรง

หน้าจอ COMAND พร้อมระบบสั่งการด้วยเสียง, music server

ระบบหน้าจอ COMAND APS เป็นระบบที่ได้พัฒนาล่าสุด เป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับระบบ infotainment ใน C-Class ใหม่ ประกอบด้วย keypad สำหรับใส่หมายเลขโทรศัพท์และใส่คลื่นวิทยุที่ต้องการ เช่นเดียวกันกับการใช้ Bluetooth แบบไร้สายเชื่อมต่อกับโทรศัพท์เคลื่อนที่และระบบแฮนด์ฟรี นอกจากนี้ยังมีระบบควบคุมด้วยเสียงแบบ LINGUATRONIC ด้วย

ระบบมัลติมีเดียหน้าจอ COMAND APS มีรูปแบบฟังค์ชั่นการทำงานที่หลากหลายมากขึ้นใน C-Class ใหม่ อาทิฟังค์ชั่น music server ที่อยู่ในระบบมัลติมีเดียหน้าจอ COMAND APS พร้อมหน่วยความจำ 4 กิ๊กกะไบค์, เครื่องเล่น DVD และระบบควบคุมด้วยเสียง LINGUATRONIC ซึ่งเมอร์เซเดส-เบนซ์ได้ปรับปรุงให้ก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ระบบนี้ยังให้ความสะดวกสบายเมื่อต้องการที่จะเลือกสถานีวิทยุหรือค้นหาหมายเลขโทรศัพท์อีกด้วย


C-Class โมเดลเป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดของ Mercedes-Benz

Mercedes-Benz C-Class แบบซาลูน เจนเนอเรชั่นใหม่จะเข้ามาแทนที่โมเดลเดิมที่จำหน่ายได้มากกว่า 1.4 ล้านคันทั่วโลกนับตั้งแต่เริ่มต้นออกจำหน่ายเมื่อปี 2000 โดยเมอร์เซเดส-เบนซ์ได้ส่งมอบรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ C-Class รุ่นก่อนนี้ทั้งในแบบซาลูน, เอสเตทและสปอร์ตคูเป้ให้กับลูกค้าทั่วโลกไปแล้วมากกว่า 2 ล้านคัน ทำให้ C-Class เป็นรถยนต์นั่งที่ขายดีที่สุดของเมอร์เซเดส-เบนซ์ โดยมีเยอรมนีเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดมีส่วนแบ่งตลาดสูงกว่า 30 % ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ C-Class ที่จำหน่ายทั่วโลก