30 พ.ย. 2550
Concept cX ร่วมโชว์ในงานมอเตอร์ส เอ็กซ์โป
มิตซูบิชิ ปรับโฉม สเปซ แวกอน เจาะกลุ่มผู้บริหารรุ่นใหม่
ปทุมธานี - 28 พฤศจิกายน 2550; มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เขย่าตลาดรถอเนกประสงค์อีกระลอก ประกาศเปิดตัว สเปซ แวกอน ไมเนอร์เชนจ์ เจาะกลุ่มลูกค้าระดับผู้บริหารรุ่นใหม่ เพิ่มความสปอร์ต หรูหรา ในราคาสุดคุ้ม แถมออพชั่นเพียบ สนองนโยบายภาครัฐรองรับแก๊สโซฮอล์ อี 20 พร้อมยกขบวนสุดยอดยนตรกรรมสายพันธุ์แกร่ง ทั้ง ไทรทัน แลนเซอร์ และรถต้นแบบ Concept cX ร่วมโชว์ในงานมอเตอร์ส เอ็กซ์โป 30 พฤศจิกายน ถึง 10 ธันวาคม นี้ ที่เมืองทองธานี
มร.มิจิโร่ อิมาอิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศเปิดตัว มิตซูบิชิ สเปซ แวกอน โฉมใหม่ ยนตรกรรมอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ที่มาพร้อมความสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นภายหลังได้รับการตอบรับดีเยี่ยมเพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริหารที่ชื่นชอบความหรูหราและความสะดวกสบายของยานยนต์อเนกประสงค์ รวมไปถึงครอบครัวที่ต้องการรถขนาดใหญ่สำหรับสมาชิกในครอบครัว โดยมีให้เลือก 3 รุ่น 3 สไตล์ ตอบทุกโจทก์ของความต้องการ - -มิตซูบิชิ สเปซ แวกอน GT สำหรับผู้ที่ชื่นขอบความหรูคู่สปอร์ต - - มิตซูบิชิ สเปซ แกอน GLS Limited เพิ่มความหรูหราสะดวกสบายยิ่งขึ้น และ - - มิตซูบิชิ สเปซ แวกอน GLS สวยงามเรียบง่าย แฝงไว้ด้วยความสะดวกสบายครบครัน พร้อมรองรับการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี 20 พลังงานทางเลือกใหม่ตามนโยบายของรัฐบาล
“ มิตซูบิชิ สเปซ แวกอน ถือเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์เด่นของมิตซูบิชิ ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า โดยภายหลังจากการแนะนำมิตซูบิชิ มิตซูบิชิ สเปซ แวกอน ใหม่ สู่ตลาดเมืองไทยเมื่อปี 2547 ที่ผ่านมา พร้อมกับการส่งรุ่นตกแต่งพิเศษออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง มิตซูบิบิชิ สเปซ แวกอน ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าเป็นรถที่มีความสมบูรณ์แบบและเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าโดยสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดที่สูงเป็นอันดับหนึ่งในกลุ่มยนตรกรรมอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ (Full Size MPV) 7 ที่นั่งมาโดยตลอด และด้วยการพัฒนาใหม่ให้มีความลงตัวมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของรูปลักษณ์ เทคโนโลยี รวมไปถึงฟังก์ชั่นใช้งานต่างๆ ทำให้ผมมั่นใจว่า มิตซูบิชิ สเปซ แวกอน โฉมใหม่ นี้จะได้รับความนิยมเหมือนที่เคยเป็นมาอย่างแน่นอน” มร. อิมาอิ กล่าว
ทั้งนี้บริษัทฯ ได้เตรียมจัดกิจกรรมทางการตลาดรูปแบบต่างๆ เพื่อโปรโมท มิตซูบิชิ สเปซ แวกอน อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเชิญลูกค้าซึ่งเป็นผู้บริหารรุ่นใหม่ รวมถึงบุคคลมีชื่อเสียงมาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์การใช้งานมิตซูบิชิ สเปซ แวกอน ภายในงานมอเตอร์ส เอ็กซ์โป รวมไปถึงการจัดโรดโชว์ตามห้างต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัส และพิสูจน์ ถึงความสมบูณ์แบบของมิตซูบิชิ สเปซ แวกอน โฉมใหม่ อย่างใกล้ชิดอีกครั้ง
นอกเหนือจากการเปิดตัวมิตซูบิชิ สเปซ แวกอนแล้ว บริษัทฯ ยังได้แนะนำ มิตซูบิชิ ไทรทัน พลัส รุ่นพิเศษ Pearl White Edition เพิ่มเติมอีกหนึ่งรุ่น เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกใหม่ให้กับกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบความสะดวกสบายสไตล์รถขับเคลื่อน 2 ล้อยกสูงที่มาพร้อมรูปลักษณ์ที่โดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยสีพิเศษขาวประกายมุกสะท้อนความความหรูหราอีกขั้น และยังเป็นได้มากกว่ารถกระบะเพื่อการบรรทุกทั่วไป หากแต่ยังสามารถใช้งานในเมืองได้อย่างลงตัวไม่ต่างจากรถซีดาน
พร้อมกันนี้บริษัทยังได้นำมิตซูบิชิคอนเซ็ปต์ cX รถต้นแบบเอสยูวี หนึ่งในเทคโนโลยียานยนต์อเนกประสงค์สไตล์ Compact SUV อย่าง นวัตกรรมใหม่ล่าสุดจากมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ที่มีความโดดเด่นทั้งในด้านของสมรรถนะและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเป็นเยี่ยม มาร่วมโชว์เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของงาน
แคมเปญ
เงื่อนไขพิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์มิตซูบิชิในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป และที่โชว์รูมรถยนต์มิตซูบิชิ ทั่วประเทศ
• มิตซูบิชิ ไทรทัน
- รุ่น เมกะแค็บ 2.5 GLX M/T จ่ายเพียง 39,000 บาท * ออกรถได้เลย พร้อมรับฟรีประกันภัยชั้น 1
- รุ่น ดับเบิ้ลแค็บ 2.5 GLS ไทรทัน พลัส รุ่น Pearl White Edition ดอกเบี้ย 1.35% ดาวน์ 25% ผ่อนนาน 48 เดือน
• มิตซูบิชิ สเปซ แวกอน ฟรี ประกันภัย “Diamond Insurance”
• มิตซูบิชิ แลนเซอร์ รับฟรีดอกเบี้ย 0 % นาน 48 เดือน *
* ดาวน์ 15 %
สำหรับลูกค้าที่สนใจสามารถเข้าชมสุดยอดยนตรกรรมของมิตซูบิชิได้ในงาน มอเตอร์ เอ็กซ์โป ที่บูธหมายเลข A05 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ 2 เมืองทองธานี ในระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน -10 ธันวาคม นี้
29 พ.ย. 2550
เชฟโรเลต เปิดตัวยิ่งใหญ่ โคโลราโด โฉมใหม่
เชฟโรเลต เปิดตัวยิ่งใหญ่ โคโลราโด โฉมใหม่
เติมเต็มความหลากหลายของชีวิตแห่งการขับขี่
ในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 24
กรุงเทพฯ – เชฟโรเลต เปิดตัว รถกระบะ เชฟวี่ โคโลราโด โฉมใหม่ รุ่นปี 2008 อย่างเป็นทางการ
ภายในงาน มอเตอร์ เอ๊กซ์โป ครั้งที่ 24 ณ ศูนย์ฯ อิมแพ็ค เมืองทองธานี พร้อมส่งโคโลราโด โฉมใหม่
ลงสู่โชว์รูม เชฟโรเลต ทั้ง 103 แห่งทั่วประเทศ
มร. สตีฟ คาร์ไลส์ ประธานกรรมการประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นประธานในการแนะนำรถกระบะ เชฟโรเลต โคโรลาโด รุ่นปี 2008 อย่างเป็นทางการ ณ เชฟโรเลต พาวิลเลียน ภายในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 24
เชฟโรเลตได้เข้าสู่ตลาดรถกระบะที่มีการแข่งขันสูงในประเทศไทยเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา ตลอดระยะเวลานั้น ได้พัฒนารถกระบะโคโลราโด มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการเสริมเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่นการติดตั้ง G80 Diff-Lock โดยที่เราเป็นผู้บุกเบิก ระบบล็อกเฟืองท้ายกลไกอัตโนมัติ เป็นบริษัทแรก และบริษัทเดียวในประเทศไทย ตลอดจนเสริมความแรงให้กับโคโลราโด ด้วยรุ่น CTi Max ทำให้ โคโลราโด เป็นรถกระบะยอดนิยม มียอดขายเป็นอันดับ 4 ในตลาดรถกระบะของประเทศ
เชฟโรเลต ปรับโฉม โคโลราโด รุ่นปี 2008 ให้มีภาพลักษณ์ที่โดดเด่นสง่างามมากขึ้น และยังคงไว้ซึ่งความทนทาน สมบุกสมบันคุ้มค่า และสำหรับลูกค้าที่สั่งจอง เชฟโรเลต โคโลราโด รุ่น G80 Diff-Lock เชฟโรเลตเพิ่มความพิเศษด้วยชุดแต่ง G80 Limited Edition เป็นทางเลือกใหม่สำหรับลูกค้าที่ต้องการความโดดเด่นมากยิ่งขึ้นเพียง 80 ชุด เท่านั้น
พบกับรถกระบะโคโลราโด โฉมใหม่ และความหลากหลายของเทคโนโลยี แห่งยานยนต์ของเชฟโรเลต และแคมเปญโปรโมชั่นพิเศษมากมาย ที่งานมหกรรมยานยนต์ หรือมอเตอร์ เอ็กซ์โปครั้งที่ 24
ณ ศูนย์ฯ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ได้แล้ววันนี้ จนถึงวันที่ 10 ธันวาคม 2550
เชฟโรเลต โชว์เทคโนโลยี CNG ในงาน มอเตอร์ เอ๊กซ์โป ครั้งที่ 24
เชฟโรเลต โชว์เทคโนโลยี CNG ในงาน มอเตอร์ เอ๊กซ์โป ครั้งที่ 24
กรุงเทพฯ - นายปิยะบุตร ชลวิจารณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมคณะฯ เยี่ยมชมเทคโนโลยียานยนต์ของเชฟโรเลต ในโอกาสเป็นประธานเปิดงาน งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 24 ณ ศูนย์ฯ อิมแพ็ค เมืองทองธานี พร้อมทั้งชมการสาธิตเทคโนโลยีของพลังงานก๊าซธรรมชาติ CNG ของเชฟโรเลต เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา
จากการที่ เชฟโรเลต เป็นผู้ริเริ่มการติดตั้งระบบพลังงานเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ CNG ในประเทศไทย ขณะเดียวกัน เชฟโรเลต ยังเป็นรถยนต์แบรนด์แรกและแบรนด์เดียวในประเทศที่เสนอการรับประกันคุณภาพระบบ CNG ตลอดระยะเวลา 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร เพื่อความมั่นใจของลูกค้าชาวไทยในการหันมาใช้เชื้อเพลิงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและประหยัดกว่าการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงถึง 3 เท่า ในงานแสดงรถยนต์ครั้งนี้ เชฟโรเลต ได้จัดจุดแสดงการทำงานของระบบก๊าซธรรมชาติ CNG ที่ติดตั้งในรถยนต์เชฟโรเลต ผ่านทางจอ Plasma พร้อมทั้งยังแสดงผลเปรียบเทียบของอัตราความสิ้นเปลืองระหว่าง การใช้น้ำมันเชื้อเพลิง กับ ก๊าซธรรมชาติ CNG เพื่อเป็นข้อมูลให้กับผู้บริโภคในการตัดสินใจเลือกใช้พลังงานก๊าซธรรมชาติทดแทนการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง
ทั้งนี้โดยสอดคล้องกับนโยบาย “Gas Friendly to Gas Free” ของจีเอ็ม และเชฟโรเลตทั่วโลก ในการรักษาสภาวะแวดล้อมและลดการพึ่งพาพลังงานจากน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งเชฟโรเลตได้มุ่งมั่นพัฒนารถยนต์ที่ใช้พลังงานทางเลือกมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์ระบบ Flex-Fuel ที่ใช้พลังงานทดแทนจาก เอธานอล ได้ถึง 100 เปอร์เซ็นต์ รถยนต์พลังงานระบบไฮบริดจ์ที่ จีเอ็ม กำลังแนะนำสู่ตลาดโลกอีกถึง 16 รุ่น หรือ รถยนต์ที่ใช้พลังงานจากก๊าซไฮโดรเจนในระบบ Fuel Cell
28 พ.ย. 2550
Technology for Saving Energy ของยนตรกิจ กรุ๊ป ในงาน Motor Expo 2007
ยนตรกิจ กรุ๊ป ชูกระแสประหยัดพลังงานตามแนวคิด Technology for Saving Energy “เทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อพลังงานประหยัด” ด้วยขบวนรถยนต์จาก 5 แบรนด์ดัง ออดี้ เกีย เปอโยต์ สโกด้า และโฟล์คสวาเกน ภายในงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 24”
วันที่ 28 พฤศจิกายน 2550 - ยนตรกิจ กรุ๊ป ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์ ออดี้ เกีย เปอโยต์ สโกด้า ซีตรอง และโฟล์คสวาเกน อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย นำขบวนรถยนต์รุ่นใหม่และรถยอดนิยมจาก แบรนด์ชั้นนำที่อยู่ภายใต้การดูแล ร่วมงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 24 ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน ถึง 10 ธันวาคม 2550 ณ อาคารแสดงสินค้า Challenger เมืองทองธานี โดยในปีนี้ยนตรกิจ ชูคอนเซ็ป Technology for Saving Energy ซึ่งมุ้งเน้นการนำเสนอรถยนต์ที่เหมาะสมกับการใช้งานที่ประหยัดพลังงาน และคุ้มค่าในการเดินทางทุกเส้นทาง ในยุคที่ราคาน้ำมันผันผวน
คุณสรวิศย์ ลีนุตพงษ์ ประธานกรรมการบริหาร ยนตรกิจ กรุ๊ป กล่าวถึงคอนเซ็ปในการเข้าร่วมงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 24 ของยนตรกิจ กรุ๊ป ว่า ในยุคปัจจุบันที่รถยนต์ชั้นนำค่ายต่างๆ ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาเทคโนโลยีเครื่องยนต์ที่ทันสมัยเพื่อตอบสนองและรองรับความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลก โดยคำนึงถึงสมรรถนะการขับขี่ที่มีประสิทธิภาพและความประหยัดเป็นสำคัญ โดยในปัจจุบันซึ่งสถานการณ์ราคาน้ำมันยังอยู่ในกระแสของการปรับตัวขึ้นสูงอยู่ ดังนั้นยนตรกิจ จึงต้องการนำเสนอรถยนต์ที่สามารถตอบโจทย์นี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยรถยนต์ที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ให้ความคุ้มค่าสูงสุดในการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ทั้งรถยนต์ที่มีขนาดเล็กเหมาะสำหรับการใช้งานในเมือง รถระดับผู้บริหาร รถยนต์ประเภท MPV, SUV ที่กว้างขวางและเหมาะที่จะรองรับผู้โดยสารได้หลายคน ซึ่งรถยนต์ในปีนี้เป็นรถยนต์ชั้นนำจากค่าย ออดี้ เกีย เปอโยต์ สโกด้า และโฟล์คสวาเกน
“รถยนต์เด่นๆจากค่ายต่างๆ อาทิ เช่น ออดี้ เกีย เปอโยต์ สโกด้า และโฟล์คสวาเกน ได้ถูกคัดสรรเข้าร่วมงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 24 ในปีนี้ภายใต้เงื่อนไขความโดดเด่นของสมรรถนะและความประหยัดในรูปแบบของเทคโนโลยีที่แตกต่างหลากหลาย ตามความถนัดของแต่ละค่าย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์เบนซินหัวฉีดตรง TFSI ของออดี้ เครื่องยนต์เบนซินขนาดเล็ก และเทอร์โบดีเซล CRDi ที่ให้ความประหยัดพลังงานและช่วยในเรื่องการลดภาวะโลกร้อนจากเกีย เครื่องยนต์เบนซินขนาดเล็กรุ่นใหม่ที่พัฒนาร่วมกันระหว่าง PSA Group และ BMW Group ที่แรงและประหยัด จากเปอโยต์ และเครื่องยนต์ระบบเทอร์โบดีเซล TDI ของกลุ่มโฟล์คสวาเกน ซึ่งเทคโนโลยีเครื่องยนต์เหล่านี้ผสมผสานความลงตัวของพละกำลัง สมรรถนะ ความทนทาน และความประหยัดเอาไว้อย่างดีเยี่ยม และเพียบพร้อมที่จะตอบสนองผู้ใช้รถยนต์ในปัจจุบันที่มองหาความประหยัด บนสมรรถนะที่เชื่อถือได้ เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายในยุคที่เศรษฐกิจตึงตัวและราคาน้ำมันที่ผันผวนตลอดเวลา” คุณสรวิศย์กล่าว
นอกจากนี้รถยนต์ค่ายต่างๆในความดูแลของยนตรกิจ กรุ๊ป ยังมีข้อเสนอที่น่าสนใจมากมายแก่ลูกค้าภายในงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 24 ในปีนี้
- ออดี้ - Audi A6 Avant 2.0 TFSI เป็นไฮไลท์ที่เพิ่งเปิดตัวต่อสื่อมวลชนไปเมื่อไม่นานมานี้
- เกีย – Kia Picanto รถซิตี้คาร์ยอดประหยัดที่คล่องตัวสูงสำหรับในเมือง ด้วยเครื่อง 1.1 ลิตร 65 แรงม้า ในราคาเริ่มต้น 499,000 บาท พร้อมแคมเปญ “ตอบรับทุกเงื่อนไข..ใส่ใจด้านคุณภาพ” หรือ แคมเปญ “คุ้มค่าทุกมุมมอง” ที่สามารถเลือกได้ตรงความต้องการ อาทิ ผ่อนนาน ดอกเบี้ยต่ำ หรือฟรีบำรุงรักษา 3 ปี และประกันภัยชั้น 1 สำหรับรุ่น Carnival และ รุ่น Carens
- เปอโยต์ – Peugeot 207 CC, 207 สปอร์ต 3 ประตู และ 207 สปอร์ต 5 ประตู เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร 120 แรงม้า มาพร้อมข้อเสนอพิเศษ
- สโกด้า – Skoda Superb TDI เครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล 1.9 ลิตร 130 แรงม้า และ Skoda Octavia TDI แบบ 5 ประตู และสเตชั่นแวกอน เครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล 1.9 ลิตร 105 แรงม้า เกียร์ DSG 6 สปีด ราคาพิเศษ
- โฟล์คสวาเกน – เปิดตัว The New Caravelle Businessline ตกแต่งภายในใหม่ล่าสุดสำหรับนักธุรกิจรุ่นใหม่ ทั้งแบบ 2.5TDI เทอร์โบดีเซล และ 3.2 V6 เบนซิน พร้อมฟรีค่าน้ำมันมูลค่า 100,000 บาท ฟรีประกันภัยชั้น 1 มูลค่ากว่า 40,000 บาท และ ฟรีบำรุงรักษา 4 ปี มูลค่ากว่า 60,000 บาท รวมเป็นมูลค่ากว่า 200,000 บาท แก่ผู้ซื้อทุกรุ่น
รถยนต์ที่เข้าร่วมงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 24 มีดังต่อไปนี้
Audi
• Audi A6 Avant 2.0 TFSI ใช้เครื่องยนต์ขนาด 2,000 ซีซี ให้กำลังสูงสุดถึง 170 แรงม้า ที่ 4,300 – 6,000 รอบ/นาที ให้แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตรที่ 1,800 – 4,200 รอบ / นาที ทำความเร็วสูงสุด 216 กม. /ชม. อัตราเร่งจาก 0-100 กม. ใช้เวลาเพียง 9.0 วินาที ใช้เทคโนโลยี FSI (Fuel Stratified Injection) ร่วมกับ Turbo Charger จึงให้ทั้งสมรรถนะยอดเยี่ยมควบคู่กับการประหยัดน้ำมัน โดยในการใช้งานปกติ มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ยที่ 12.20 กม. / ลิตร นอกจากนี้ Audi A6 Avant ยังมีความเอนกประสงค์มากขึ้นด้วยห้องเก็บสัมภาระที่มีพื้นที่ใช้สอยภายในที่เพิ่มขึ้นกว่ารถ Saloon ทั่วไป โดยมีเนื้อที่บรรจุสัมภาระมากถึง 565 ลิตร และเมื่อพับเบาะหลังสามารถเพิ่มพื้นที่ได้มากถึง 1,660 ลิตร นอกจากนี้ยังสามารถพับและล๊อคได้หลายตำแหน่งเพื่อแบ่งพื้นที่วางเป็นสัดส่วนได้อีกด้วย
• Audi TT Coupe 2.0 TFSI เกียร์ S Tronic ยนตรกรรมสปอร์ตคูเป้ระดับพรีเมียมคลาสจากประเทศเยอรมนี ที่มีความปราดเปรียวเฉียบคมกว่ารุ่นก่อนทั้งในด้านดีไซน์ที่สวยงามโฉบเฉี่ยว ใช้เครื่องยนต์ 2.0 Turbo FSI ที่ได้รับรางวัล “Engine of the Year” จากประเทศยุโรป ติดต่อกันถึง 3 ปีซ้อน ให้กำลังสูงสุด 200 แรงม้าที่ 5,100 – 6,000 รอบต่อนาที ให้แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร ที่1,800 – 5,000 รอบต่อนาที ระบบเกียร์ S Tronic 6 สปีด ซึ่งเป็นเกียร์ระบบใหม่ล่าสุดของออดี้ที่ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์ ทำได้รวดเร็วและแม่นยำมากยิ่งขึ้นกว่าเกียร์ธรรมดาทั่วไปและคงความนุ่มนวล สะดวกสบายเหมือนเกียร์อัตโนมัติ มีอัตราเร่งจาก 0-100 ภายในเวลาเพียง 6.4 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ 240 กม. / ชม. โครงสร้างตัวถังรถแบบ ASF Audi Space Frame design ซึ่งประกอบด้วยอลูมิเนียม 69% และเหล็ก 31% จึงทำให้รถมีน้ำหนักเบากว่า แต่แข็งแรงทนทานกว่ารุ่นเดิม จึงทำให้ได้รับรางวัลด้านนวัตกรรมตัวถังยอดเยี่ยม “Euro Car Body Award 2006”
• Audi Q7 3.0 TDI quattro ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ แบบวี DOHC TDI พร้อมระบบ Common Rail หัวฉีดแบบ Piezo และ Turbo Charger แบบแปรผัน มีปริมาตรกระบอกสูบ 2,967 ซีซี ใช้เทคโนโลยี TDI ที่ให้ทั้งสมรรถนะความแรงสูงสุด แต่สามารถประหยัดน้ำมันมากกว่าเครื่องยนต์เบนซินถึง 30% ให้กำลังสูงสุด 220 แรงม้าที่ 3,500 – 4,000 รอบต่อนาที ให้แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตรที่ 1,750 – 2,750 รอบต่อนาที ใช้ระบบเกียร์อัตโนมัติ + tiptronic 6 สปีด ทำความเร็วสูงสุด 210 กม. / ชม. ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 9.1 วินาที ใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา quattro รุ่นล่าสุด ช่วยให้การยึดเกาะถนนยอดเยี่ยมในทุกสภาพเส้นทาง ระดับหรูหราจากเยอรมนี เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีระดับสูง อาทิ ระบบกันสะเทือนแบบถุงลม (Air Suspension), ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อตลอดเวลารุ่นล่าสุด (quattro), เทคโนโลยี MMI, กุญแจแบบ Advance Key, ไฟหน้าซีนอนที่ปรับอัตโนมัติตามแนวโค้งของถนน รวมทั้งระบบ Audi Parking System Plus ช่วยเตือนเมื่อจอดทั้งด้านหน้าและหลัง โดยแสดงระยะทางถอยจอดที่จอ MMI
• Audi A4 Sport Edition เป็นรถสปอร์ตพรีเมี่ยมที่เพียบพร้อมในทุกๆด้าน ทั้งสมรรถนะความแรงที่มาพร้อมกับความประหยัดน้ำมันและรูปลักษณ์ที่สวยงาม โดดเด่นไม่เหมือนใครด้วยอุปกรณ์พิเศษชุดแต่งแท้ Audi Genuine Accessories® จากออดี้ประเทศเยอรมนี ที่นำมาแต่งใน Style รถแข่ง A4 DTM เจ้าของแชมป์ German Touring Car หลายสมัย โดยอุปกรณ์ชุดแต่งทั้งหมดมีมูลค่ารวมกว่า 300,000 บาทซึ่งประกอบด้วย
• ชุดกันชนหน้า - หลัง DTM
• สปอรย์เลอร์หน้าคาร์บอนไฟเบอร์
• สปอรย์เลอร์หลัง DTM
• กระจังหน้า S-Line
• สัญลักษณ์ S-Line
• ล้ออัลลอยด์ DTM อลูมิเนียม ขนาด 18”
• ยางขนาด 235/40 R18
Audi A4 Sport Edition ใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1,984 ซีซี 4 สูบ DOHC ให้กำลังสูงสุดถึง 200 แรงม้าที่ 5,100 – 6,000 รอบต่อนาที ให้แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตรที่ 1,800 – 5,000 รอบต่อนาที ทำความเร็วสูงสุด 235 กม./ชม. อัตราเร่งจาก 0-100 กม. ใช้เวลาเพียง 7.3 วินาที มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ยที่ 12.35 กม./ลิตร มาพร้อมเทคโนโลยี FSI ในเครื่องยนต์ 2.0 TFSI จึงให้สมรรถนะที่ดีเยี่ยม ให้อัตราเร่งตอบสนองทันใจ แต่ช่วยประหยัดน้ำมันมากกว่าเครื่องยนต์ขนาดเดียวกันถึง 15% เครื่องยนต์ 2.0 TFSI ยังได้รับรางวัลชนะเลิศ “Engine of the Year” จากยุโรป ถึง 3 ปีซ้อน
Kia
• KIA ได้นำเสนอรถยนต์ที่เน้นการประหยัดพลังงาน ในรุ่น PICANTO รถซิตี้คาร์ขนาดเล็ก ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 1.1 ลิตร ความเร็วสูงสุด 154 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน 26.20 กม./ลิตร ที่ความเร็วคงที่ 60 กม./ชม. รูปลักษณ์ปราดเปรียว และคล่องตัวสูงสำหรับการใช้งานในเมือง ภายในกว้างขวางสามารถจุผู้โดยสาร 4-5 คน ทั้งติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบสนองประโยชน์ใช้สอยได้อย่างหลากหลายและลงตัว พร้อมความปลอดภัยตามมาตรฐานยุโรป ส่งผลทำให้รถยนต์ KIA PICANTO ได้รับรางวัล “รถยนต์ขนาดเล็กที่ประหยัดสูงสุด ประจำปี 2006” ในประเทศไทย มีจำหน่าย 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น LX เกียร์ธรรมดา ราคา 499,000 บาท รุ่น LX เกียร์อัตโนมัติ ราคา 549,000 บาท และรุ่น EX เกียร์อัตโนมัติ ราคา 619,000 บาท
• Kia Grand Carnival รถ MPV ขนาด 11 ที่นั่ง ที่นำเข้าทั้งคันจากประเทศเกาหลี ด้วยมิติตัวรถขนาดใหญ่ที่กว้างถึง 1,985 มม. และยาว 5,130 มม.ทำให้รูปลักษณ์ภายนอกของรถ GRAND CARNIVAL กว้างขวาง สวยงาม และทันสมัย แต่ให้ความรู้สึกเสมือนรถซีดาน เครื่องยนต์ดีเซลทรงพลังในสไตล์สปอร์ต รุ่น J 2.9 Super CRDi ให้สมรรถนะที่ดีที่สุดในรถระดับเดียวกัน ตอบสนองการขับขี่ได้อย่างดีเยี่ยม แรงม้า 160 Ps ที่ 3700 รอบต่อนาที แรงบิด 343.2 นิวตันเมตร ที่ 2,000-3,000 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด แบบ H-MATIC ซึ่งเป็นได้ทั้งระบบ Automatic และระบบ Manual ตอบสนองทุกความต้องการในการขับขี่ ช่วงล่างเป็นแบบแมกเฟอร์สันสตรัท และอิสระ แบบมัลติลิงค์ ที่ให้ความแข็งแรง และควบคุมการทรงตัวได้อย่างมั่นคงและนุ่มนวล ระบบดิสก์เบรก ABS และระบบ ESP พร้อมระบบพวงมาลัยแบบแรคแอนด์พิเนียม และเพาเวอร์ชนิดไฮโดรลิคผ่อนแรง รัศมีวงเลี้ยงแคบสุด 6 เมตร ทำให้คล่องตัวและขับขี่ได้อย่างสะดวกสบายในทุกสภาวะ มีให้เลือก 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น LX ราคาจำหน่าย 1,496,000 บาท รุ่น EX ราคาจำหน่าย 1,615,000 บาท และรุ่น EX(EX) ราคาจำหน่าย 1,714,000 บาท
• Kia Carens V Estate รถสเตชั่นแวนกอน 5 ที่นั่ง ที่ตอบสนองอรรถประโยชน์สูงสุดสำหรับการใช้งาน ทั้งในชีวิตประจำวัน และการพักผ่อนในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์สำหรับครอบครัวยุคใหม่ “KIA CARENS V-ESTATE” ให้ความสำคัญกับการออกแบบภายในห้องโดยสารให้มีขนาดใหญ่ กว้างขวาง ด้วยพื้นที่โล่งเหนือศีรษะ และที่วางขา เบาะที่นั่งสามารถปรับพับแยกและปรับเอนได้อย่างอิสระตามการใช้งาน พร้อมพื้นที่สำหรับจัดเก็บสัมภาระด้านท้ายขนาดใหญ่ในสไตล์รถสเตชั่นแวกอน ทำให้สามารถจัดเก็บสัมภาระได้อย่างมากมายและหลากหลายรูปแบบ “KIA CARENS V-ESTATE” เป็นเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.0 ลิตร CRDi ขุมพลัง 112 แรงม้าที่ 4000 รอบต่อนาที แรงบิด 25 กม.-ม.ที่ 2000 รอบต่อนาที ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ที่เต็มเปี่ยมด้วยสมมรรถนะ เร่งแซงได้ดังใจ และประหยัดพลังงานเชื้อเพลิงได้เป็นอย่างดี พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์เข้าเกียร์ง่าย และนุ่มนวล มีให้เลือก 2 รุ่น คือ รุ่น V-Estate ราคาจำหน่าย 893,000 บาท และรุ่น EX ราคาจำหน่าย 990,000 บาท พร้อมประกันภัยชั้น 1 ฟรี 1 ปี พร้อมบำรุงรักษา 3 ปี หรือ 60,000 กม.
• Kia Carnival รถ MPV ขนาด 7 ที่นั่ง ที่ตอบรับทุกระดับสำหรับความพึ่งพอใจ หรูหรา ทันสมัย เหมาะสำหรับนักธุรกิจ หรือครอบครัวขนาดใหญ่ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวหรือสันทนาการในรูปแบบต่างๆ เป็นหมู่คณะ สำหรับเครื่องยนต์ที่ติดตั้งใน KIA CARNIVAL เป็นเครื่องยนต์เบนซิน V6 2.4 ลิตร 24 วาล์ว DOHC ให้พละกำลัง 163 แรงม้า แรงบิดที่ 208 Nm ที่ 4,500 รอบต่อนาที เริ่มตั้งแต่รอบต่ำถึงรอบปานกลาง ระบบหัวฉีดมัลติพอยท์ควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ ช่วยให้การเผาไหม้สะอาดหมดจด และให้กำลังสูง เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ พร้อมระบบโอเวอร์ไดร์ฟที่ควบคุมด้วยอิเลกทรอนิกส์ เปลี่ยนเกียร์ได้อย่างนุ่มนวลและแม่นยำ มีให้เลือก 2 รุ่น คือ รุ่น Cartnival ราคาประหยัด จำหน่ายในราคาเพียง 1,109,000 บาท และรุ่น Carnivatl GS ราคาจำหน่าย 1,289,000 บาท พร้อมประกันภัยชั้น 1 ฟรี 1 ปี พร้อมบำรุงรักษา 3 ปี หรือ 60,000 กม.
• Kia Sorento รุ่น Sport X รถ SUV พันธุ์แท้ที่เหนือชั้นสำหรับการขับขี่ที่นุ่มนวล ในทุกสภาวะและทุกเส้นทาง ด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบฟูล ไทม์ ทอร์ค ออน ดีมาน เพิ่มเสถียรภาพการทรงตัว และความนุ่มนวลบนทางออนโรด พร้อมลุยในทุกเส้นทางวิบาก เพียงหมุนปุ่มสวิตช์เท่านั้น กันสะเทือนหน้า ปีกนกคู่ คอยล์สปริงบนแกนโช๊คอัพ หลัง แบบคานแข็งคอยล์สปริง ยึด 5 แกน พร้อมเหล็กกันโคลง และดิสก์เบรก พร้อม ABS 4 ล้อ และ EBD พร้อมพละกำลังเต็มพิกัด และแข็งแกร่งทนทานไปได้ทุกเส้นทาง ทั้งออนโรด และออฟโรด มีเครื่องยนต์ให้เลือก 2 รุ่น คือ เครื่องยนต์เบนซิน V6 3.5 ลิตร 197 แรงม้า ที่ 5500 รอบต่อนาที แรงบิด 30.1 กก.-ม.ที่ 3000 รอบต่อนาที และเครื่องยนต์ดีเซล CRDi 2.5 ลิตร 140 แรงม้าที่ 3800 รอบต่อนาที แรงบิด 32.1 กก.-ม.ที่ 2000 รอบต่อนาที ทำให้ตอบสนองการขับขี่ได้อย่างยอดเยี่ยม มีให้เลือก 2 รุ่น คือ รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 2.5 CRDi ราคาจำหน่าย 1,838,000 บาท และรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 3.5L V6 ราคาจำหน่าย 1,995,000 บาท
Peugeot
• Peugeot 207 ใหม่ที่มาพร้อมกันถึง 3 รุ่น 3 สไตล์ ที่ตอบย้ำความเป็นสุดยอดรถสปอร์ตระดับคอมแพ็คที่คล่องตัวและเปี่ยมไปด้วยสมรรถนะและความประหยัดด้วยเครื่องยนต์เบนซินรุ่นใหม่ที่พัฒนาร่วมกันระหว่าง PSA Group และ BMW Group ขนาด 1.6 ลิตร ที่ให้สมรรถนะสูงแต่ขับขี่นุ่มนวลและประหยัดพลังงาน พร้อมติดตั้งระบบ VVT ทั้งด้านไอดีและไอเสีย และระบบ VVL เพื่อควบคุมการเปิด-ปิดของวาล์วไอดี ทั้ง 2 ระบบนี้นำมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่และลดอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง ให้กำลังสูงสุด 120 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดที่ 160 นิวตันเมตร ที่ 4,250 รอบ เกียร์อัตโนมัติ AL4 4 สปีด พร้อมระบบ Porsche Tiptronic System Peugeot 207 ใหม่ 3 รุ่นได้แก่ 207 CC รถสปอร์ตเปิดประทุนที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสำหรับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่มีระดับ ปราดเปรียว กะทัดรัด ซึ่งได้รับการออกแบบจากสถาบันที่ทันสมัยที่สุดของยุโรป สถาบัน ADN (Automotive Design Network) สามารถปรับเปลี่ยนบุคลิกเป็นรถสปอร์ตคูเป้ได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส และสามารถเปิดหลังคาได้ขณะขับที่ความเร็วไม่เกิน 10 กม./ชม. Peugeot 207 สปอร์ต 3 ประตูที่ ให้ความคล่องตัวสูงในแบบรถแฮ็ชแบ็คที่ร้อนแรง และสวยงามซึ่งมีจำหน่ายในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป เป็นครั้งแรก Peugeot 207 5 ประตู รองรับทุกการเดินทางอย่างคล่องตัวทั้งในเมืองและนอกเมือง ซึ่งทั้ง 3 รุ่นที่เป็นไฮไลท์ของงานจะมาพร้อมข้อเสนอพิเศษมากมายเฉพาะงานนี้เท่านั้น
• Peugeot 807 เนวัตกรรมเพื่อความสะดวกสบายในทุกอิริยาบถอีกหนึ่งผลงานจาก เปอโยต์ ฝรั่งเศส ในรูปแบบของรถ MPV รถยนต์อเนกประสงค์ 8 ที่นั่ง เครื่องยนต์ดีเซล HDI รักษาสิ่งแวดล้อม นอกจากจะให้ความสะดวกสบายในการเดินทางแล้ว ยังได้รับการออกแบบให้เป็นรถที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดดเด่น และปลอดภัย ซึ่งเป็นผลเนื่องมาจากความมุ่งมั่นของเปอโยต์ที่จะเป็นผู้นำในกลุ่มรถยนต์นั่งอเนกประสงค์อย่างแท้จริง ตัวรถที่มีความยาวทั้งหมด 4.727 เมตร ประกอบด้วยประตูบานพับทั้งสองบานในด้านหน้า และประตูหลังแบบเลื่อนที่ทำงานด้วยระบบไฟฟ้า สไลด์เลื่อนไปด้านหลังแนบตัวถังทั้งสองบาน สะดวกต่อการใช้งาน กับรูปทรงของตัวรถที่ออกแบบอย่างทันสมัย หลังคาซันรูฟเป็นแบบ 3 ตอนสามารถเปิดรับลมจากภายนอกได้
Skoda
• Skoda Superb TDI รถยนต์นั่งสำหรับผู้บริหารที่เน้นความหรูหราและที่สำคัญควบคู่ไปกับความประหยัดน้ำมันที่ตอบสนองสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน เครื่องยนต์ดีเซล 1.9 ลิตร 4 สูบ เทอร์โบดีเซล ให้แรงม้าสูงสุดถึง 130 แรงม้า ที่ 4000 รอบต่อนาที และแรงบิดที่ 285 นิวตันเมตร ที่ 1750 รอบต่อนาที เกาะถนนได้นุ่มนวลและมั่นใจด้วยระบบช่วงล่างแบบ มัลติลิงค์ 4 แกน และเหล็กกันโคลง ทอร์ชั่นบีม ในด้านหน้า และเทรลลิ่งอาร์ม ในด้านหลัง ให้ความสบายและสมรรถนะสูงสุดด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบ 5 สปีด มี Tiptronic
• Skoda Octavia TDI แบบ 5 ประตู และสเตชั่นแวกอน ถูกออกแบบใหม่ล่าสุดให้เป็นรถยนต์ที่หรูหรา และภูมิฐาน สไตล์ยุโรปสำหรับครอบครัวทันสมัยที่ลงตัวทั้ง 2 แบบ เครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล 4 สูบ 1.9 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 4000 รอบต่อนาที และแรงบิด 250 นิวตันเมตร ที่ 1900 รอบต่อนาที โดดเด่นด้วยความประหยัด และเทคโนโลยีของเกียร์ DSG (Direct Shift Gearbox) แบบอัตโนมัติ 6 สปีด ที่มาพร้อม Tiptronic
Volkswagen
• Volkswagen The New Caravelle Businessline คือความใหม่ที่ลงตัวสำหรับนักธุรกิจยุคใหม่ โดดเด่นด้วยเบาะนั่งแบบ 11 ที่นั่งที่ให้ความสบาย และระบบ double glassing partition ที่ติดตั้งกระจกกั้นห้องโดยสารแบบ 2 ชั้น โดยชั้นแรกเป็นแบบใส clear vision และชั้นที่ 2 เป็นแบบติดฟิล์มทึบให้ความเป็นส่วนตัวสูงสุด อุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ เช่น เบาะหนังแท้ ลายไม้ จอภาพระบบ LCD แบบ wide screen ขนาด 19 นิ้ว แบบพับเก็บได้บนคอนโซลเปิดขึ้นลงด้วยไฟฟ้า ใหม่ล่าสุดเพื่อความบันเทิงอีกระดับ เครื่องเล่น DVD ระบบเสียง surround เพื่อความสุนทรีย์ในทุกการเดินทาง และเซ็นเซอร์ถอยหลัง เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
• Volkswagen The New Caravelle Highline อีกระดับของความหรูหราและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่โดดเด่นที่การตกแต่งภายในและภายนอกใหม่หมด พร้อมอุปกรณ์ความปลอดภัยและอุปกรณ์เพื่อความบันเทิงที่ทันสมัยใหม่ล่าสุดกว่า 10 รายการ อาทิ เช่น ไฟหน้าแบบ projector ทันสมัย ให้ความโฉบเฉี่ยวสว่างปลอดภัยยิ่งกว่า กระจังหน้าแบบโครเมี่ยมหรูหรา ไฟเลี้ยวกรอบสีขาวหรูหราและแตกต่าง เบาะหนังแท้ชั้นดีสีดำขลิบสีตัดลายตามขอบอย่างมีรสนิยม ลายไม้สีเข้มสุขุมและเคร่งขรึมในสไตล์ dark wall nut จอภาพระบบ LCD แบบ wide screen ขนาด 19 นิ้ว ใหม่ล่าสุดเพื่อความบันเทิงอีกระดับ ระบบเสียง surround ชมภาพยนตร์แบบ Dolby 5.1 ให้ความกระหึ่มและเสียงที่สมจริง พร้อมลำโพงรอบทิศทาง 5 ตัว และหูฟังแบบไร้สาย cordless headphone 1 คู่ ฉากกั้นระหว่างห้องโดยสารและห้องคนขับ ช่องเสียบ USB port สำหรับรับเล่นเพลงจาก และระบบเซ็นเซอร์ถอยหลัง พร้อมกล้องรับภาพและจอแสดงผลที่คอนโซลคนขับ เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
• The New Caravelle Prestige ที่เพิ่มความสะดวกสบายในการโดยสารด้วยภายในแบบ 11 ที่นั่งที่สามารถให้ความหรูหรา โอ่อ่ากว้างขวางและสะดวกสบายได้ในแบบ 7 ที่นั่ง ที่ให้ความสุนทรีย์ที่เหนือกว่าด้วยเบาะหนังแท้ ลายไม่ ระบบเครื่องเสียงที่ปรับปรุงใหม่ที่มาพร้อม จอ LCD แบบ wide screen ขนาด 19 นิ้ว เครื่องเล่น DVD ระบบเสียงสเตอริโอเหนือระดับ และเซ็นเซอร์ถอยหลัง
รถทั้ง 3 รุ่นโดดเด่นกว่าใครด้วยประตูเลื่อนไฟฟ้า 2 บานจากโรงงานเปิดปิดได้ด้วยรีโมทคอนโทรลที่กุญแจ รางเลื่อนนิรภัยมาตรฐานสูงสุดของ โฟล์คสวาเกน และเบาะนั่ง VIP ที่ได้รับการรับรองความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป เครื่องยนต์มีให้เลือกทั้งในแบบเครื่องยนต์ 2.5 TDI เทอร์โบดีเซล ไดเร็คอินเจ็คชั่น แบบ 5 สูบ ขนาด 2,460 ซีซี ผลิตแรงม้าสูงสุดที่ 174 bhp ที่ 3,500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดที่ 400 นิวตันเมตร ที่ 2,000 รอบต่อนาที และเครื่องยนต์ 3.2 V6 เบนซินแบบ V6 สูบ 3,189 ซีซี ผลิตแรงม้าสูงสุดได้ถึง 235 bhp ที่ 6,200 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดที่ 315 นิวตันเมตร ที่ 2,950 รอบต่อนาที ถ่ายทอดกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Tiptronic
วอลโว่ ยกทัพรถยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อมบุก “มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2007”
วอลโว่ ยกทัพรถยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อมบุก “มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2007”
พบตัวจริงของรถแข่ง “วอลโว่ S60” พลังไบโอเอทานอล
พร้อมเปิดตัว “The All-New S80 D5” และ “วอลโว่ S60 D5” เครื่องยนต์ดีเซล ครั้งแรกที่นี่!
กรุงเทพฯ, 28 พฤศจิกายน 2550 – วอลโว่ ประกาศความเป็นหนึ่งในฐานะแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ที่ห่วงใยสิ่งแวดล้อม ด้วยกองทัพรถยนต์หรูที่มาพร้อมสมรรถนะเร้าใจทว่าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพียบ ในงาน “มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2007” ทั้งไฮไลต์ รถยนต์ “วอลโว่ S60 E85” รถแข่งคันแรกที่วิ่งด้วยเครื่องยนต์พลัง ไบโอเอทานอล E85 (ใช้เอทานอล 85% และเบนซิน 15%) และเพิ่งคว้าเหรียญเงินในสนามเอสทีซีซี (สวีดิช ทัวริ่ง คาร์ แชมเปี้ยนชิพ Swedish Touring Car Championship: STCC) ที่สวีเดนหมาดๆ และการเผยโฉมครั้งแรกของ 2 ซีดานหรูเครื่องยนต์ดีเซลทรงพลังที่ประหยัดน้ำมันเป็นเยี่ยมซึ่งทุกคนรอคอย “The All-New Volvo S80 D5” และ “วอลโว่ S60 D5” ในงาน
มร.พอล สโตคส์ ประธานบริหาร บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ด้วยปรัชญาหลักของวอลโว่ที่มีความห่วงใยในสิ่งแวดล้อมตั้งแต่เริ่มต้นก่อตั้งบริษัท ในปีที่เราฉลองครบรอบ 80 ปี วอลโว่เตรียมกองทัพรถยนต์หรูที่มอบทั้งนวัตกรรมความปลอดภัยระดับโลกลือชื่อ และความแรงของเครื่องยนต์ทว่าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มาโชว์ในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โปครั้งนี้แบบเต็มพิกัด เพื่อแสดงให้ผู้เข้าชมในงานได้ประจักษ์ว่า รถยนต์ที่ห่วงใยในสิ่งแวดล้อมสามารถเป็นรถยนต์ที่ขับได้อย่างเร้าใจเช่นกัน”
ทั้งนี้ วอลโว่ได้เตรียมรถแข่ง “วอลโว่ S60 E85” ซึ่งเพิ่งคว้าเหรียญเงินในการแข่งขันสวีดิช ทัวริ่ง คาร์ แชมเปี้ยนชิพ (Swedish Touring Car Championship: STCC) ในประเทศสวีเดนมาโชว์โฉมให้ชาวไทยได้ใกล้ชิดและประจักษ์ถึงความแรงของรถยนต์ที่เพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติในการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างเต็มเปี่ยม เป็นครั้งแรกและครั้งเดียวในประเทศไทย โดยมีสมาชิกในทีมแข่งของวอลโว่มาปรากฏตัวในงานนี้อย่างพร้อมเพรียงกัน
“ทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมชมบูธของวอลโว่ในปีนี้ จะได้สัมผัสกับรถแข่งที่พิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นว่า นอกจากเครื่องยนต์จะแรงจริงแล้ว ความแรงดังกล่าวยังไม่ก่อผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย นอกจากนี้ วอลโว่ยังเตรียมอีกหนึ่งเซอร์ไพรส์ นั่นคือการพา “โรเบิร์ต ดาลเกรน” นักขับรถแข่งของทีมวอลโว่ซึ่งเพิ่งคว้าชัยชนะให้กับทีมหมาดๆ มาปรากฏตัวที่งานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2007ทั้งในรอบสื่อมวลชนและในวันแรกที่เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมอีกด้วย นอกจากนั้น ลูกค้าวีไอพีของวอลโว่ยังมีโอกาสได้เข้าไปนั่งทดสอบความแรงของรถยนต์คันนี้ร่วมกับโรเบิร์ตในวันทดสอบพิเศษก่อนถึงวันงานด้วยเช่นกัน” มร.สโตคส์ กล่าวต่อ
มร.อเล็กซานเดอร์ มูร์เซฟสกี เชด์วิน ผู้จัดการทีมมอเตอร์สปอร์ตส์ของวอลโว่ คาร์ (สวีเดน) กล่าวเพิ่มเติมว่า “เรามีความยินดีที่ได้พานักแข่งในทีมมอเตอร์สปอร์ตส์ของเรา รวมถึงรถยนต์วอลโว่ S60 พลังไบโอ เอทานอลซึ่งพาทีมคว้าชัยชนะในรายการเอสทีซีซีคันนี้มาโชว์ที่งานมอเตอร์ เอ็กซ์โปในประเทศไทย ทั้งนี้ เพื่อให้คนไทยได้พิสูจน์สมรรถนะของรถยนต์ที่ใช้พลังงานทดแทนคันนี้อย่างใกล้ชิด และได้ประจักษ์ว่า วอลโว่ S60 คันนี้แรงไม่แพ้รถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซินเลยทีเดียว ขณะเดียวกัน ก็จะได้เป็นแรงกระตุ้นให้ผู้บริโภคชาวไทยได้ตื่นตัวและตระหนักถึงความสำคัญในการรักษาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น”
“นี่เป็นข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนถึงความมุ่งมั่นของวอลโว่ในการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องการเฟ้นหาพลังงานทางเลือกใหม่ๆ นอกเหนือจากพลังงานน้ำมันที่ยังต้องนำเข้า ด้วยการสนับสนุนพลังงานที่เราสามารถผลิตเองได้ภายในประเทศอย่างน้ำมันแก๊สโซฮอล์ หรือน้ำมันเบนซินพลังไบโอเอทานอล ซึ่งสอดคล้องกับแนวพระราชดำริเรื่อง “เศรษฐกิจพอเพียง” ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” มร.สโตคส์ กล่าวเพิ่มเติม
ขณะเดียวกัน หลังจากที่วอลโว่เพิ่งเปิดตัว “The All-New Volvo S80” ไปไม่นาน และได้รับเสียงตอบรับอย่างท่วมท้นทั้งจากสื่อมวลชนและลูกค้า ด้วยยอดขาย 65 คันภายในเวลาเพียง 1 เดือน (วอลโว่ตั้งเป้าหมายว่า จะทำยอดขาย 100 คันภายในปี 2550) ลูกค้าหลายท่านยังสอบถามกันเข้ามามากว่า วอลโว่ จะวางจำหน่ายรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลของรถยนต์รุ่นนี้และรุ่นอื่นๆ เมื่อไร มร.พอล สโตคส์ กล่าวว่า “’ในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โปครั้งนี้ เป็นโอกาสที่เหมาะสมที่สุด ที่เราจะนำอีก 2 ไฮไลต์มาเผยโฉมเป็นครั้งแรก นั่นคือ “The All-New Volvo S80 D5” และรถยนต์สปอร์ตซีดานสำหรับผู้บริหาร “วอลโว่ S60 D5” สองซีดานหรูที่มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลอลูมิเนียมน้ำหนักเบาสมรรถนะแรง ที่ประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม”
นอกจากนี้ วอลโว่ยังเตรียมรถยนต์เบนซินสมรรถนะเยี่ยมมาเสริมทัพอีกเพียบ อาทิ “วอลโว่ C70 2.4i” รถยนต์คูเป้คอนเวิร์ตทิเบิลรูปลักษณ์สปอร์ตโฉบเฉี่ยวเร้าใจที่มาพร้อมสีใหม่ “เอมเบอร์ แบล็ค” และ “วอลโว่ V70T” รถยนต์สปอร์ตแวกอนอเนกประสงค์สำหรับทุกคนในครอบครัว ซึ่งร่วมในแคมเปญ “Spirit of 24” กับ “วอลโว่ S60 T” เพื่อเฉลิมฉลองโอกาสพิเศษที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการแข่งขันซีเกมส์ ที่กำลังจะเริ่มขึ้นในวันที่ 6 ธันวาคมนี้ และในโอกาสที่คณะกรรมการจัดงานเลือกวอลโว่ให้เป็นรถยนต์ประจำการแข่งขันครั้งนี้อีกด้วย ซึ่งมร.พอล สโตคส์ กล่าวว่า “การแข่งขันกีฬาทุกชนิด นับได้ว่าเป็นการส่งเสริมให้ทุกคนใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ ซึ่งตรงกับปรัชญาหลักของเราที่ว่า “Volvo. For life” ทั้งนี้ วอลโว่มีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมสนับสนุนประเทศไทยในฐานะ “ผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ” ของการแข่งขันซีเกมส์ครั้งที่ 24 ประจำปี 2550 ครั้งนี้”
พิเศษ! ลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ “วอลโว่ S60T” และ “วอลโว่ V70T หรือ V70 D5” ภายในงาน สามารถเฉลิมฉลองเทศกาลซีเกมส์ครั้งที่ 24 ร่วมกับวอลโว่ได้ในแคมเปญพิเศษ “Spirit of 24” โดยสามารถเลือกรับเอกสิทธิ์ ดาวน์ต่ำเพียง 24% ดอกเบี้ย 0% และประกันภัยชั้น 1 ฟรีตลอด 24 เดือน หรือเป็นเจ้าของรถยนต์วอลโว่ด้วยวิธีง่ายๆ ด้วยแพ็คเกจผ่อนชำระเพียง 24,xxx บาทต่อเดือน แคมเปญพิเศษแบบนี้ มีเฉพาะในงาน “มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2007” ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน ถึง 10 ธันวาคมนี้เท่านั้น!
ข้อมูลทั่วไป:
• วอลโว่ คาร์ คอร์ปอเรชั่น เป็นบริษัทในเครือ ฟอร์ด มอเตอร์ คอมปานี บริหารงานภายใต้พรีเมียร์ ออโตโมทีฟ กรุ๊ป (พีเอจี) ซึ่งเป็นแผนกที่ดูแลรถยนต์ระดับพรีเมี่ยมของฟอร์ดโดยเฉพาะ โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองโกเทนเบิร์ก ประเทศสวีเดน
• พีเอจี เป็นแผนกปฏิบัติการของฟอร์ด ที่ดูแลแบรนด์รถยนต์ระดับหรูได้แก่ วอลโว่ จากัวร์ และแลนด์ โรเวอร์
• วอลโว่ คาร์ คอร์ปอเรชั่น เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2505 โดยเริ่มต้นจากการจำหน่ายผ่านบริษัทผู้นำเข้าและผู้จัดจำหน่ายอิสระ จากนั้นจึงจัดตั้งเป็นบริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งแต่ปี 2514 ดูแลการจัดจำหน่ายทั่วประเทศ และได้เข้าบริหารการจัดจำหน่ายแทนบริษัท เอสเอ็มซี มอเตอร์ส ตั้งแต่ปี 2542 ปัจจุบัน วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) มีพนักงานจำนวน 35 คน
• วอลโว่จัดตั้งบริษัท ไทย-สวีดิช แอสเซ็มบลี จำกัด (ทีเอสเอ) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถยนต์ของตนเองภายในประเทศตั้งแต่ปี 2519 ซึ่งผลิตรถยนต์หลากหลายรุ่นอาทิ วอลโว่ XC90, วอลโว่ All-New S80, วอลโว่ S60 และ วอลโว่ V70 ออกจำหน่ายไปทั่วโลก ปัจจุบัน ทีเอสเอมีพนักงานจำนวนกว่า 300 คน
• ทั้งนี้วอลโว่ยังนำเข้ารถยนต์วอลโว่ C70 สปอร์ตคูเป้เปิดประทุนมาจำหน่ายในประเทศไทยอีกด้วย
• ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์วอลโว่อย่างเป็นทางการโดยได้รับอนุญาต มีทั้งหมด 12 บริษัท ซึ่งดูแลโชว์รูมวอลโว่ทั่วประเทศ 14 โชว์รูม แบ่งเป็นโชว์รูมในกรุงเทพฯจำนวน 7 โชว์รูม และโชว์รูมในต่างจังหวัดจำนวน 7 โชว์รูม ได้แก่ เวิร์นส์ มอเตอร์ส (สาขาหัวหมากและลาดพร้าว) เอสเอ็มซี มอเตอร์ส (สาขาสุขุมวิท 22 และ สีลม) โกเทนเบิร์ก ออโตโมบิลส์ (ศรีนครินทร์) ไวกิ้ง มอเตอร์ส (เจริญนคร) สแกนดิเนเวียน ออโต้ (รามอินทรา) และสาขาอื่นๆ ในต่างจังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่สวีเดน มอเตอร์ จังหวัดเชียงใหม่, นิธิบูรณ์เซลล์แอนด์เซอร์วิส จังหวัดพิษณุโลก, ขอนแก่นเจริญศรี จังหวัดขอนแก่น, เทพนคร คาร์ จังหวัดนครราชสีมา, นครปฐม มอเตอร์ส จังหวัดนครปฐม, เอสเอ็มซี มอเตอร์ส จังหวัดชลบุรี และ หาดใหญ่ ออโต้ จังหวัดสงขลา
• รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ของวอลโว่ คาร์ สามารถเข้าชมได้ที่เว็บไซต์ www.volvocars.co.th หรือติดต่อได้ที่โชว์รูมของวอลโว่ใกล้บ้านคุณ
• สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ในรูปแบบไฟล์วิดิทัศน์ สามารถลงทะเบียนและเรียกดูได้ที่เว็บไซต์ www.media.volvocars.com คลิกที่ ‘Broadcast Room’ เพื่อเลือกชมและเลือกดูไฟล์ เมื่อลงทะเบียนแล้ว คุณสามารถเรียกดูข้อมูลมาตรฐานในรูปแบบไฟล์วีดิโอทั้งทางดิจิตอลในเว็บไซต์ และทางเทป ทั้งนี้ สื่อมวลชนสามารถลงทะเบียนและเรียกดูไฟล์วีดิโอได้ฟรีโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
พร้อมเปิดตัว “The All-New S80 D5” และ “วอลโว่ S60 D5” เครื่องยนต์ดีเซล ครั้งแรกที่นี่!
กรุงเทพฯ, 28 พฤศจิกายน 2550 – วอลโว่ ประกาศความเป็นหนึ่งในฐานะแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ที่ห่วงใยสิ่งแวดล้อม ด้วยกองทัพรถยนต์หรูที่มาพร้อมสมรรถนะเร้าใจทว่าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพียบ ในงาน “มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2007” ทั้งไฮไลต์ รถยนต์ “วอลโว่ S60 E85” รถแข่งคันแรกที่วิ่งด้วยเครื่องยนต์พลัง ไบโอเอทานอล E85 (ใช้เอทานอล 85% และเบนซิน 15%) และเพิ่งคว้าเหรียญเงินในสนามเอสทีซีซี (สวีดิช ทัวริ่ง คาร์ แชมเปี้ยนชิพ Swedish Touring Car Championship: STCC) ที่สวีเดนหมาดๆ และการเผยโฉมครั้งแรกของ 2 ซีดานหรูเครื่องยนต์ดีเซลทรงพลังที่ประหยัดน้ำมันเป็นเยี่ยมซึ่งทุกคนรอคอย “The All-New Volvo S80 D5” และ “วอลโว่ S60 D5” ในงาน
มร.พอล สโตคส์ ประธานบริหาร บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ด้วยปรัชญาหลักของวอลโว่ที่มีความห่วงใยในสิ่งแวดล้อมตั้งแต่เริ่มต้นก่อตั้งบริษัท ในปีที่เราฉลองครบรอบ 80 ปี วอลโว่เตรียมกองทัพรถยนต์หรูที่มอบทั้งนวัตกรรมความปลอดภัยระดับโลกลือชื่อ และความแรงของเครื่องยนต์ทว่าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มาโชว์ในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โปครั้งนี้แบบเต็มพิกัด เพื่อแสดงให้ผู้เข้าชมในงานได้ประจักษ์ว่า รถยนต์ที่ห่วงใยในสิ่งแวดล้อมสามารถเป็นรถยนต์ที่ขับได้อย่างเร้าใจเช่นกัน”
ทั้งนี้ วอลโว่ได้เตรียมรถแข่ง “วอลโว่ S60 E85” ซึ่งเพิ่งคว้าเหรียญเงินในการแข่งขันสวีดิช ทัวริ่ง คาร์ แชมเปี้ยนชิพ (Swedish Touring Car Championship: STCC) ในประเทศสวีเดนมาโชว์โฉมให้ชาวไทยได้ใกล้ชิดและประจักษ์ถึงความแรงของรถยนต์ที่เพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติในการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างเต็มเปี่ยม เป็นครั้งแรกและครั้งเดียวในประเทศไทย โดยมีสมาชิกในทีมแข่งของวอลโว่มาปรากฏตัวในงานนี้อย่างพร้อมเพรียงกัน
“ทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมชมบูธของวอลโว่ในปีนี้ จะได้สัมผัสกับรถแข่งที่พิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นว่า นอกจากเครื่องยนต์จะแรงจริงแล้ว ความแรงดังกล่าวยังไม่ก่อผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย นอกจากนี้ วอลโว่ยังเตรียมอีกหนึ่งเซอร์ไพรส์ นั่นคือการพา “โรเบิร์ต ดาลเกรน” นักขับรถแข่งของทีมวอลโว่ซึ่งเพิ่งคว้าชัยชนะให้กับทีมหมาดๆ มาปรากฏตัวที่งานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2007ทั้งในรอบสื่อมวลชนและในวันแรกที่เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมอีกด้วย นอกจากนั้น ลูกค้าวีไอพีของวอลโว่ยังมีโอกาสได้เข้าไปนั่งทดสอบความแรงของรถยนต์คันนี้ร่วมกับโรเบิร์ตในวันทดสอบพิเศษก่อนถึงวันงานด้วยเช่นกัน” มร.สโตคส์ กล่าวต่อ
มร.อเล็กซานเดอร์ มูร์เซฟสกี เชด์วิน ผู้จัดการทีมมอเตอร์สปอร์ตส์ของวอลโว่ คาร์ (สวีเดน) กล่าวเพิ่มเติมว่า “เรามีความยินดีที่ได้พานักแข่งในทีมมอเตอร์สปอร์ตส์ของเรา รวมถึงรถยนต์วอลโว่ S60 พลังไบโอ เอทานอลซึ่งพาทีมคว้าชัยชนะในรายการเอสทีซีซีคันนี้มาโชว์ที่งานมอเตอร์ เอ็กซ์โปในประเทศไทย ทั้งนี้ เพื่อให้คนไทยได้พิสูจน์สมรรถนะของรถยนต์ที่ใช้พลังงานทดแทนคันนี้อย่างใกล้ชิด และได้ประจักษ์ว่า วอลโว่ S60 คันนี้แรงไม่แพ้รถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซินเลยทีเดียว ขณะเดียวกัน ก็จะได้เป็นแรงกระตุ้นให้ผู้บริโภคชาวไทยได้ตื่นตัวและตระหนักถึงความสำคัญในการรักษาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น”
“นี่เป็นข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนถึงความมุ่งมั่นของวอลโว่ในการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องการเฟ้นหาพลังงานทางเลือกใหม่ๆ นอกเหนือจากพลังงานน้ำมันที่ยังต้องนำเข้า ด้วยการสนับสนุนพลังงานที่เราสามารถผลิตเองได้ภายในประเทศอย่างน้ำมันแก๊สโซฮอล์ หรือน้ำมันเบนซินพลังไบโอเอทานอล ซึ่งสอดคล้องกับแนวพระราชดำริเรื่อง “เศรษฐกิจพอเพียง” ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” มร.สโตคส์ กล่าวเพิ่มเติม
ขณะเดียวกัน หลังจากที่วอลโว่เพิ่งเปิดตัว “The All-New Volvo S80” ไปไม่นาน และได้รับเสียงตอบรับอย่างท่วมท้นทั้งจากสื่อมวลชนและลูกค้า ด้วยยอดขาย 65 คันภายในเวลาเพียง 1 เดือน (วอลโว่ตั้งเป้าหมายว่า จะทำยอดขาย 100 คันภายในปี 2550) ลูกค้าหลายท่านยังสอบถามกันเข้ามามากว่า วอลโว่ จะวางจำหน่ายรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลของรถยนต์รุ่นนี้และรุ่นอื่นๆ เมื่อไร มร.พอล สโตคส์ กล่าวว่า “’ในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โปครั้งนี้ เป็นโอกาสที่เหมาะสมที่สุด ที่เราจะนำอีก 2 ไฮไลต์มาเผยโฉมเป็นครั้งแรก นั่นคือ “The All-New Volvo S80 D5” และรถยนต์สปอร์ตซีดานสำหรับผู้บริหาร “วอลโว่ S60 D5” สองซีดานหรูที่มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลอลูมิเนียมน้ำหนักเบาสมรรถนะแรง ที่ประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม”
นอกจากนี้ วอลโว่ยังเตรียมรถยนต์เบนซินสมรรถนะเยี่ยมมาเสริมทัพอีกเพียบ อาทิ “วอลโว่ C70 2.4i” รถยนต์คูเป้คอนเวิร์ตทิเบิลรูปลักษณ์สปอร์ตโฉบเฉี่ยวเร้าใจที่มาพร้อมสีใหม่ “เอมเบอร์ แบล็ค” และ “วอลโว่ V70T” รถยนต์สปอร์ตแวกอนอเนกประสงค์สำหรับทุกคนในครอบครัว ซึ่งร่วมในแคมเปญ “Spirit of 24” กับ “วอลโว่ S60 T” เพื่อเฉลิมฉลองโอกาสพิเศษที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการแข่งขันซีเกมส์ ที่กำลังจะเริ่มขึ้นในวันที่ 6 ธันวาคมนี้ และในโอกาสที่คณะกรรมการจัดงานเลือกวอลโว่ให้เป็นรถยนต์ประจำการแข่งขันครั้งนี้อีกด้วย ซึ่งมร.พอล สโตคส์ กล่าวว่า “การแข่งขันกีฬาทุกชนิด นับได้ว่าเป็นการส่งเสริมให้ทุกคนใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ ซึ่งตรงกับปรัชญาหลักของเราที่ว่า “Volvo. For life” ทั้งนี้ วอลโว่มีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมสนับสนุนประเทศไทยในฐานะ “ผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ” ของการแข่งขันซีเกมส์ครั้งที่ 24 ประจำปี 2550 ครั้งนี้”
พิเศษ! ลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ “วอลโว่ S60T” และ “วอลโว่ V70T หรือ V70 D5” ภายในงาน สามารถเฉลิมฉลองเทศกาลซีเกมส์ครั้งที่ 24 ร่วมกับวอลโว่ได้ในแคมเปญพิเศษ “Spirit of 24” โดยสามารถเลือกรับเอกสิทธิ์ ดาวน์ต่ำเพียง 24% ดอกเบี้ย 0% และประกันภัยชั้น 1 ฟรีตลอด 24 เดือน หรือเป็นเจ้าของรถยนต์วอลโว่ด้วยวิธีง่ายๆ ด้วยแพ็คเกจผ่อนชำระเพียง 24,xxx บาทต่อเดือน แคมเปญพิเศษแบบนี้ มีเฉพาะในงาน “มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2007” ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน ถึง 10 ธันวาคมนี้เท่านั้น!
ข้อมูลทั่วไป:
• วอลโว่ คาร์ คอร์ปอเรชั่น เป็นบริษัทในเครือ ฟอร์ด มอเตอร์ คอมปานี บริหารงานภายใต้พรีเมียร์ ออโตโมทีฟ กรุ๊ป (พีเอจี) ซึ่งเป็นแผนกที่ดูแลรถยนต์ระดับพรีเมี่ยมของฟอร์ดโดยเฉพาะ โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองโกเทนเบิร์ก ประเทศสวีเดน
• พีเอจี เป็นแผนกปฏิบัติการของฟอร์ด ที่ดูแลแบรนด์รถยนต์ระดับหรูได้แก่ วอลโว่ จากัวร์ และแลนด์ โรเวอร์
• วอลโว่ คาร์ คอร์ปอเรชั่น เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2505 โดยเริ่มต้นจากการจำหน่ายผ่านบริษัทผู้นำเข้าและผู้จัดจำหน่ายอิสระ จากนั้นจึงจัดตั้งเป็นบริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งแต่ปี 2514 ดูแลการจัดจำหน่ายทั่วประเทศ และได้เข้าบริหารการจัดจำหน่ายแทนบริษัท เอสเอ็มซี มอเตอร์ส ตั้งแต่ปี 2542 ปัจจุบัน วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) มีพนักงานจำนวน 35 คน
• วอลโว่จัดตั้งบริษัท ไทย-สวีดิช แอสเซ็มบลี จำกัด (ทีเอสเอ) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถยนต์ของตนเองภายในประเทศตั้งแต่ปี 2519 ซึ่งผลิตรถยนต์หลากหลายรุ่นอาทิ วอลโว่ XC90, วอลโว่ All-New S80, วอลโว่ S60 และ วอลโว่ V70 ออกจำหน่ายไปทั่วโลก ปัจจุบัน ทีเอสเอมีพนักงานจำนวนกว่า 300 คน
• ทั้งนี้วอลโว่ยังนำเข้ารถยนต์วอลโว่ C70 สปอร์ตคูเป้เปิดประทุนมาจำหน่ายในประเทศไทยอีกด้วย
• ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์วอลโว่อย่างเป็นทางการโดยได้รับอนุญาต มีทั้งหมด 12 บริษัท ซึ่งดูแลโชว์รูมวอลโว่ทั่วประเทศ 14 โชว์รูม แบ่งเป็นโชว์รูมในกรุงเทพฯจำนวน 7 โชว์รูม และโชว์รูมในต่างจังหวัดจำนวน 7 โชว์รูม ได้แก่ เวิร์นส์ มอเตอร์ส (สาขาหัวหมากและลาดพร้าว) เอสเอ็มซี มอเตอร์ส (สาขาสุขุมวิท 22 และ สีลม) โกเทนเบิร์ก ออโตโมบิลส์ (ศรีนครินทร์) ไวกิ้ง มอเตอร์ส (เจริญนคร) สแกนดิเนเวียน ออโต้ (รามอินทรา) และสาขาอื่นๆ ในต่างจังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่สวีเดน มอเตอร์ จังหวัดเชียงใหม่, นิธิบูรณ์เซลล์แอนด์เซอร์วิส จังหวัดพิษณุโลก, ขอนแก่นเจริญศรี จังหวัดขอนแก่น, เทพนคร คาร์ จังหวัดนครราชสีมา, นครปฐม มอเตอร์ส จังหวัดนครปฐม, เอสเอ็มซี มอเตอร์ส จังหวัดชลบุรี และ หาดใหญ่ ออโต้ จังหวัดสงขลา
• รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ของวอลโว่ คาร์ สามารถเข้าชมได้ที่เว็บไซต์ www.volvocars.co.th หรือติดต่อได้ที่โชว์รูมของวอลโว่ใกล้บ้านคุณ
• สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ในรูปแบบไฟล์วิดิทัศน์ สามารถลงทะเบียนและเรียกดูได้ที่เว็บไซต์ www.media.volvocars.com คลิกที่ ‘Broadcast Room’ เพื่อเลือกชมและเลือกดูไฟล์ เมื่อลงทะเบียนแล้ว คุณสามารถเรียกดูข้อมูลมาตรฐานในรูปแบบไฟล์วีดิโอทั้งทางดิจิตอลในเว็บไซต์ และทางเทป ทั้งนี้ สื่อมวลชนสามารถลงทะเบียนและเรียกดูไฟล์วีดิโอได้ฟรีโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
Ford ราคาใหม่ ส่งท้ายปีเก่าที่ Motor Expo 2007
ฟอร์ดปล่อยหมัดเด็ดส่งท้ายปี
เปิดจองโฟกัส E20 ราคาใหม่ พร้อมมอบข้อเสนอสุดพิเศษ ทุกรุ่น
กรุงเทพฯ 28 พฤศจิกายน 2550 -- ฟอร์ด ประเทศไทย ปล่อยหมัดเด็ดในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป เปิดจองฟอร์ด โฟกัสใหม่ และรุ่นปัจจุบันด้วยราคาภาษีใหม่ E20 ก่อนใคร พร้อมเปิดตัวรถรุ่นพิเศษ และแคมเปญ
สุดคุ้มสำหรับทุกรุ่น นำทัพโดยฟอร์ด โฟกัส E20 พลังงานทางเลือกในยุคน้ำมันแพง และฟอร์ด โฟกัส TDCi ใหม่ สำหรับผู้รักความแรง แต่ให้ความประหยัดน้ำมันที่เหนือกว่า ฟอร์ด เอสเคปใหม่ เอสยูวีตัวจริงของคนใช้ชีวิตเป็น ฟอร์ด เรนเจอร์ในชุดแต่ง HD Limited รุ่นพิเศษจำนวนจำกัด เพื่อฉลอง 105 ปีแห่งความเป็นตำนานร่วมกันของฟอร์ด และฮาร์เลย์-เดวิดสันในตลาดโลก และฟอร์ด เอเวอเรสต์รุ่นพิเศษ
คูลไวท์ ลิมิเต็ด ตกแต่งเพิ่มความหรูหราและความบันเทิงโดยเฉพาะ
นายสาโรช เกียรติเฟื่องฟู รองประธานอาวุโส ฟอร์ด ประเทศไทย เปิดเผยว่า "สำหรับงานมอเตอร์เอ็กซ์โป ครั้งที่ 24 ฟอร์ด ยังคงเน้นนโยบายหลักที่จะ "ให้ทุกวันเป็นวันของคุณ" โดยการนำรถฟอร์ดทั้ง 15 รุ่น พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษ เพื่อให้ลูกค้าได้เข้ามาเป็นสมาชิกของครอบครัวฟอร์ด"
"จุดเด่นในงานนี้ จะเป็นการเปิดจองฟอร์ด โฟกัส E20 ใหม่ และฟอร์ด โฟกัส E20 รุ่นปัจจุบัน ที่ปรับราคารับนโยบายรัฐบาลที่ลดภาษีสรรพสามิต สำหรับรถยนต์ที่สามารถเติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 ก่อนใคร เพื่อให้ประโยชน์คืนสู่ผู้บริโภคโดยปรับราคาลดลงมากที่สุดถึง 50,000 บาท ซึ่งฟอร์ด โฟกัส E20 ทุกรุ่นออกแบบและผลิตมาเพื่อให้สามารถเติมน้ำมันเบนซินที่มีเอทานอลผสมสูงสุดได้ถึงร้อยละ 20 ส่วนผู้ชื่นชอบความแรง เราได้นำฟอร์ด โฟกัส TDCi ใหม่ เครื่องยนต์ดูราทอร์ค เทอร์โบ ดีเซล คอมมอลเรล ที่มีแรงบิดสูงถึง 320 นิวตัน-เมตร และให้ความประหยัดน้ำมันสูงสุด 17.86 ก.ม.ต่อลิตร ให้อัตราเร่งและตอบสนองได้ดีเยี่ยมตั้งแต่รอบต่ำทำให้ขับสนุกกับสมรรถนะที่เร้าใจ"
ฟอร์ดจะเริ่มเปิดจองฟอร์ด โฟกัส E20 ทั้ง 4 ประตู และ 5 ประตูทุกรุ่น ในราคาใหม่ก่อนใครในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป ครั้งที่ 24 โดยฟอร์ด โฟกัส รุ่นปัจจุบัน มีราคาดังนี้
• รุ่นสปอร์ต 2.0 ลิตร 5 ประตูราคา 939,000 บาท
• รุ่นเกีย 1.8 ลิตร 4 ประตูราคา 895,000 บาท
และสำหรับฟอร์ด โฟกัส E20 ใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน มีราคาดังนี้
• รุ่นสปอร์ต 2.0 ลิตร 5 ประตู ราคา 949,000 บาท
• รุ่นเกีย 2.0 ลิตร 4 ประตู ราคา 949,000 บาท
• รุ่นฟิเนซ 1.8 ลิตร 5 ประตู ราคา 839,000 บาท
• รุ่นฟิเนซ 1.8 ลิตร 4 ประตู ราคา 829,000 บาท
ฟอร์ด เอสเคปใหม่ เอสยูวีตัวจริงของคนใช้ชีวิตเป็น มาพร้อมราคาเริ่มต้นเพียง 1,099,000 บาท และในรุ่น New Escape 2.3L 4x2 XLS ขับเคลื่อนล้อหน้า มาพร้อมพร้อมชุดแต่งสุดเท่ห์สไตล์ 4x4 ซึ่งมีจำนวนจำกัดเพียง 100 คันเท่านั้น ฟอร์ด เอสเคปใหม่ ยังคงรักษาเอกลักษณ์ในด้านสมรรถนะพร้อมลุยไปกับคุณทุกที่ที่ต้องการ ให้คุณขับขี่ได้สนุกเหนือใคร ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 2.3 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผัน ตอบสนองการขับขี่ได้อย่างแม่นยำ นุ่มนวล และประหยัดน้ำมันมากขึ้น มีให้เลือกทั้งรุ่น 4x4 สำหรับคนรักการเดินทางและผจญภัย และรุ่น 4x2 ขับเคลื่อนล้อหน้าสำหรับคนรักเอสยูวีที่ต้องการความสะดวกสบายและการขับขี่ที่วิสัยทัศน์ดี
ฟอร์ด เรนเจอร์ จะเป็นการเปิดตัวชุดแต่งพิเศษ HD Limited เพื่อฉลอง 105 ปีแห่งความเป็นตำนานร่วมกันของฟอร์ด และฮาร์เลย์-เดวิดสันในตลาดโลก ซึ่งได้นำ ฟอร์ด เรนเจอร์รุ่นโอเพ่นแค็บ 2.5 XLS Limited เครื่องยนต์ดูราทอร์คคอมมอนเรล 143 แรงม้า และแรงบิดมหาศาล 330 นิวตัน-เมตรที่รอบต่ำเพียง 1,800 รอบต่อนาที ฟอร์ด เรนเจอร์ HD Limited ติดตั้งชุดแต่งพิเศษ ได้แก่ บาร์กันกระแทกสเตนเลส ด้านข้างและด้านท้ายเพิ่มความแกร่ง กระจังหน้าโครเมียมพร้อมไฟตัดหมอกที่สะดุดตาดูทันสมัย และพื้นปูกระบะฟอร์ด พร้อมอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษกับล้ออัลลอย 17 นิ้วเพิ่มความเท่ ภายในเติมความหรูและมีสไตล์กับเบาะหนังนำเข้าคุณภาพสูง พวงมาลัยและหัวเกียร์หุ้มหนังแบบสปอร์ต แผลประตูบุหนังพร้อมตกแต่งลายเมทัลลิก และพรมปูพื้นเรนเจอร์ เปิดให้จองในราคาพิเศษเพียง 625,000 บาท (ไม่รวมล้ออัลลอยแบบสปอร์ต 17 นิ้ว)
ส่วนฟอร์ด เอเวอเรสต์ ฟอร์ด รถเอสยูวีประจำครอบครัว จะมีฟอร์ด เอเวอเรสต์ รุ่นพิเศษ คูลไวท์
ลิมิเต็ด ตกแต่งให้หรูหรา เพิ่มความบันเทิงโดยเฉพาะ พร้อมติดตั้งเกียร์ออโตเมติก 5 ให้ความสะดวกสูงสุด และช่วยในด้านการประหยัดน้ำมัน ทรงพลังด้วยเครื่องยนต์ดูราทอร์ค คอมมอนเรล 3.0 ลิตร 156 แรงม้าและแรงบิด 380 นิวตัน-เมตรที่ 1,800 รอบต่อนาที ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อพร้อม Active Shift on the Fly มาพร้อมอุปกรณ์ความปลอดภัยที่ครบครันด้วยถุงลมนิรภัย 4 จุด เบรก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD และ
จีเซ็นเซอร์ นอกจากนี้ ยังให้ความบันเทิงเต็มรูปแบบในทุกการเดินทางด้วยชุดเครื่องเล่นดีวีดีหน้าจอทัชสกรีนขนาด 6.5 นิ้วพร้อมชุดหูฟังไร้สาย จอติดเพดานด้านหลังขนาด 8 นิ้ว สามารถพับเก็บได้ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ใหม่ รุ่นพิเศษคูลไวท์ ลิมิเต็ดผลิตมาจำนวนจำกัดเพียง 40 คันในราคาคันละ 1,264,000 บาท
พิเศษสุดในงาน ฟอร์ด มอบข้อเสนอพิเศษเพื่อให้ลูกค้าเป็นเจ้าของฟอร์ด ทุกรุ่นได้ง่ายขึ้น ได้แก่
1. ฟอร์ด โฟกัส
• ดอกเบี้ย 0.99% รุ่น 1.8L Ghia
• ดาวน์ 20% ผ่อนนานถึง 48 เดือน พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1 สำหรับ และ รุ่น 2.0L Sport
2. ฟอร์ด เอสเคป
• ราคาเริ่มต้นเพียง 1,099,000 บาท - สำหรับรุ่น New Escape 2.3L 4X2 XLS Auto
• ฟรี! อุปกรณ์ตกแต่ง มูลค่า 22,500 บาท สำหรับ 100 คันแรก โดยมีบันไดข้าง กรอบโคมไฟโครเมียมหน้าและหลัง แผงกันกระแทกใต้กันชนด้านหน้าและหลัง และสปอยเลอร์ท้ายเพิ่มความโฉบเฉี่ยวสะดุดตาสไตล์ 4x4
3. ฟอร์ด เรนเจอร์
• ดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียง 0% หรือ ฟอร์ด ช่วยดาวน์สูงสุดถึง 39,000 บาท
• พิเศษ! ดาวน์ 0% - สำหรับข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ ดาวน์ 0% ผ่อน 12-84 เดือน ดอกเบี้ย 3.39% พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1
4. ฟอร์ด เอเวอร์เรสต์
• ราคาเริ่มต้นเพียง 999,000 บาท - สำหรับรุ่น 2.5L 4X2 Manual
• ฟรีค่าบำรุงรักษา 5 ปี - สำหรับ ฟอร์ด เอเวอร์เรสต์ ทุกรุ่น
ข้อมูลเกี่ยวกับฟอร์ด มอเตอร์ คอมปานี
ฟอร์ด มอเตอร์ คอมปานี เป็นผู้ผลิตยานยนต์ระดับโลกซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองเดียร์บอร์น รัฐมิชิแกน โดยเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถยนต์ชั้นนำให้แก่ตลาดต่างๆ กว่า 200 แห่ง บริษัทฯ มีพนักงานทั้งสิ้นประมาณ 260,000 คนและมีโรงงานประมาณ 100 แห่งทั่วโลก โดยเป็นผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำหลายแบรนด์ ได้แก่ ฟอร์ด, จากัวร์, แลนด์โรเวอร์, ลินคอล์น, มาสด้า, เมอร์คิวรี่ และ วอลโว่ รวมทั้งให้บริการสินเชื่อผ่านบริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ เครดิต
ผู้ที่สนใจสามารถเรียกดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ได้ที่เว็บไซต์ www.ford.co.th
27 พ.ย. 2550
MAZDA ได่รางวัล Thailand Automotive Quality Award 2007
มาสด้า ประเทศไทย คว้ารางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยม 2 ปีซ้อน
กรุงเทพฯ ประเทศไทย – 26 พฤศจิกายน 2550 – มร. บรูโน่ เชอร์เวท์ (ซ้ายสุด) รองกรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วยนางสาวสุรีทิพย์ ละอองทอง (ขวาสุด) ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด รับมอบโล่ห์ประกาศเกียรติคุณรางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยมประจำปี 2550 (Thailand Automotive Quality Award 2007) ด้านผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยมประเภทรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ขนาด 1 ตัน เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ได้แก่ รถปิคอัพขับสนุก มาสด้า บีที-50 เครื่องยนต์ 2500 ซีซี ขับเคลื่อน 2 ล้อ โดยมี ฯพณฯ นายปิยะบุตร ชลวิจารณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี ณ ห้องจูปิเตอร์ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี
นอกจากมาสด้า ได้รับรางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยมเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันแล้ว รางวัลนี้ยังนำความภาคภูมิใจมาให้กับทีมวิศวกรและพนักงานของมาสด้าทุกคน ที่ได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจในการสร้างสรรค์ยนตกรรมภายใต้แนวความคิด ซูม ซูม ที่เปี่ยมด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัย รูปลักษณ์ที่โดดเด่น สมรรถนะที่ทรงพลัง และให้การประหยัดน้ำมันเป็นเลิศ
รางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยมได้ถูกริเริ่มขึ้นในปี 2545 โดยเป็นการดำเนินงานร่วมมือกันของ บริษัท สื่อสากล จำกัด บริษัท คัสตัม เอเชีย จำกัด หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ และสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ รางวัลที่มอบให้นั้น มาจากผลสำรวจประจำปีของผู้ใช้รถจริงกว่า 7,000 คน จาก 73 จังหวัดทั่วประเทศ
รถยนต์ของมาสด้าเป็นที่คุ้นเคยในเมืองไทยมานานกว่า 56 ปี และยังคงดำเนินบทบาทสำคัญต่อการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจไทย มาสด้ามุ่งมั่นในการนำอารมณ์สนุกสนานวัยเด็กกลับมาสู่ทุกท่านอีกครั้ง ด้วยการผลิตรถยนต์ภายใต้แนวคิด "ซูม ซูม" อันเปี่ยมไปด้วยคุณลักษณะแห่งความ "ท้าทาย" "สร้างสรรค์" และ "ร่าเริง" เพื่อให้ทุกการขับขี่ของคุณไม่ใช่เพียงการเคลื่อนที่จากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง นอกเหนือจากยนตรกรรมอันทรงเอกลักษณ์แล้ว เรายังทุ่มเทอย่างหนักในการพัฒนาการบริการหลังการขายเพื่อให้ลูกค้าของมาสด้าทุกคนได้รับความพึงพอใจสูงสุด เพราะเรายึดมั่นว่า รอยยิ้มของท่านคือความภาคภูมิใจของเรา
เชิญสัมผัสและทดลองขับรถยนต์นั่งสปอร์ตซีดาน Mazda3 และสปอร์ตปิคอัพ Mazda BT-50 สปอร์ตปิคอัพ พลังแรง และรถยนต์มาสด้าทุกรุ่นได้ที่โชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐานของมาสด้า 90 แห่งทั่วประเทศ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ มาสด้า สปีดไลน์ หมายเลขโทรศัพท์ 0-2661-9880 หรือต่างจังหวัดโทรฟรี ได้ที่หมายเลข 1-800-226-408
http://www.mazda.coth
26 พ.ย. 2550
5 ธันวาคม 2550 ใกล้มาถึงแล้ว อยากให้ท่านได้ฟังเพลงนี้
อยากให้ท่านได้ฟังเพลงที่น่าประทับใจ ลองโหลดมาฟัง
มีเนื้อร้องเป็นอย่างนี้ครับ
http://google.thaidirr.com/ The king of Siam
--------------------------------------------------------
Ever since I saw the face of this man
หลังจากที่ฉันได้เห็นหน้าผู้ชายคนนั้น
The king of Thailand, The king of Siam
กษัตริย์ของประเทศไทย กษัตริย์ของประเทศสยาม
I felt in love with his soul loves this land
ฉันก็หลงรักในความรักที่ท่านมีให้แก่แผ่นดินของท่าน
It's in his eye, it's in his heart, it's in his hand
มันเห็นได้จากสายตาของท่าน จากหัวใจของท่าน และจากมือของท่าน
He is the husband, the father and the king
ท่านเป็นสามี เป็นพ่อ และเป็นกษัตริย์
A great photographer , musician so many things
เป็นช่างภาพผู้ยิ่งใหญ่ เป็นนักดนตรี และอีกหลายๆอย่าง
The way he lives his life is something to be hold
การดำเนินชีวิตของท่านมันเป็นสิ่งที่น่าถนุถนอมไว้
His grace, his wisdom , an example to the world
สติปัญญาและความสามารถของท่านเป็นตัวอย่างที่ดีแก่โลกนี้
Long live the king of Thailand
Long live the king of Siam
And in the time when the rain came flooding down
และเมื่อถึงเวลาที่ฝนตกน้ำท่วม
He saved the city with a building of the dam
ท่านก็ช่วยเหลือจังหวัดนั้นไว้ด้วยการสร้างเขื่อน
In time of conflicts, he has always been there
เวลาเกิดความขัดแย้งกัน ท่านก็อยู่ตรงนั้นเสมอ
To stop the fighting just like the father who really cares
เพื่อช่วยหยุดการต่อสู้เหมือนกับพ่อที่ห่วงใยสนใจลูก
Long live the king of Thailand
Long live the king of Siam
I'm watching wonder at the things he understands
ฉันเฝ้ามองท่านและพิสวงสงสัยในหลายๆอย่างที่ท่านทำ
His love for his people, his love for this land
ความรักของท่านต่อประชาชนของท่าน และต่อแผ่นดินของท่าน
His working a great culture, he is one of a kind
ท่านสร้างวัฒนธรรมประเพณีที่สวยงาม ท่านเป็นหนึ่งในล้านจริงๆ
His vision for the future way ahead of their time
ท่านมองเห็นการณ์ไกลมาก
Long live the king of Thailand
Long live the king of Siam
29 พ.ย.-10 ธ.ค. 2550 Motor Expo 2007 ที่เมืองทองธานี
ลองเลือกเข้าไปชมได้ ท่ี http://cardesignnews.com/site/home/auto_shows/
หรือช่วงนี้บ้านเราก็มี ว่าง ๆ ไปดูงานช้างกันดีกว่าที่เมืองทองธานี
ฉิว
24 พ.ย. 2550
mazda bt-50 ลุยสนามแข่ง
มาสด้าร่วมสร้างประวัติศาสตร์การแข่งขันรถยนต์ สนามบางแสน ส่งบีที-50 ลุยมอเตอร์สปอร์ต
กรุงเทพ – ประเทศไทย – 14 พฤศจิกายน 2550 - บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วม สร้างประวิติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการมอเตอร์สปอร์ตเมืองไทย ด้วยการส่งรถปิคอัพสายพันธุ์สปอร์ต มาสด้า บีที-50 เครื่องยนต์ MZR-WLC 2500 ซีซี. เพาเวอร์คอมมอนเรล ที่ให้แรงม้าสูงสุดถึง 143 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 330 นิวตัน-เมตร เข้าร่วมการแข่งขันมหกรรมรถยนต์ทางเรียบรายการใหญ่แห่งปี "Bangsaen Thailand Speed Festival" ซึ่งรถสปอร์ตปิคอัพมาสด้า บีที-50 เข้าร่วมแข่งขันในรายการใหญ่ระดับประเทศอย่าง "Super Car Thailand" ประเภท "Super Pick-Up Commonrail 2.5L" ที่กำลังเป็นที่นิยมของผู้ชื่นชอบและรักกีฬามอเตอร์สปอร์ต ในนามทีม "MAZDA TEAM PTT" ซึ่งขับขี่โดย คุณธนภณ ทองเจือ หรือ พีท ทองเจือ ดารานักแข่งชื่อดัง ประสบความสำเร็จตามความคาดหมาย ได้รับทั้งความประทับใจ แรงเชียร์ และเสียงปรบมือจากผู้ชมรอบๆ สนาม งานนี้ได้ใจผู้ชมไปเต็มๆ กับลีลาการขับขี่ของนักแข่ง เสียงเครื่องยนต์ที่เร่งเร้าอารมณ์อยู่ตลอดเวลา จากทางตรงยาวๆ หรือช่วงการเข้าโค้ง ทุกวินาทีที่ มาสด้า บีที-50 อยู่ในสนาม ผ่านโค้งแล้วโค้งเล่า เสียงเชียร์ยังกึกก้องไปทั่วทั้งสนาม
นางสาวสุรีทิพย์ ละอองทอง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า นับว่าเป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจอย่างยิ่งสำหรับมาสด้าที่มีโอกาสเข้าร่วมสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการมอเตอร์สปอร์ตเมืองไทย โดยเฉพาะการแข่งรถยนต์ในสนามบางแสนแห่งนี้ ทั้งนี้มาสด้าให้การสนับสนุนส่งเสริมมอเตอร์สปอร์ตมาอย่างต่อเนื่องทั้งประเภทครอสคันทรี มาสด้าส่งรถสปอร์ตปิคอัพ มาสด้า บีที-50 เครื่องยนต์ 3000 ซีซี. เข้าการแข่งขันถึง 3 คัน นำโดยคุณพีท ทองเจือ และ คุณอนุชา ผ่านด่าน สำหรับการแข่งขันประเภทซูเปอร์ คอมมอนเรล 2500 มาสด้าส่งมาสด้า บีที-50 เครื่องยนต์ 2500 ซีซี. เข้าร่วมการแข่งขันปีนี้เป็นปีแรกนับว่าประสบความสำเร็จอย่างสูงทั้ง 2 ประเภท
นายธนภณ ทองเจือ หรือ พีท ทองเจือ ผู้จัดการทีม และนักแข่งสังกัดทีม "Mazda Team PTT" กล่าวว่า สนามนี้รถมาสด้าของเราค่อนข้างสมบูรณ์มาก และสนามแข่งขันก็เป็นสิ่งที่ท้าทาย นักขับทุกท่านล้วนเป็นยอดฝีมือกันทั้งนั้น ผลการแข่งขันที่ออกมาถือว่าน่าพอใจอย่างยิ่ง อย่างน้อยที่สุดทุกคนรู้จักรถปิคอัพมาสด้า มาสด้า คือรถสปอร์ต และรถปิคอัพมาสด้า บีที-50 คันนี้ก็ไม่เป็นสองรองใคร ที่สำคัญผมยังมีรายการแข่งขัน ครอสคันทรี ซึ่งคาดว่าปีนี้จะคว้าแชมป์ให้ได้ เพราะที่ผ่านมาผมมีคะแนนนำคู่แข่งทั้งรุ่น TB1 และรุ่น TB2 ยังไงผมขอฝากช่วยเชียร์ทีมมาสด้าด้วยครับ
การแข่งขันเริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงเช้าของวันศุกร์ที่ 9 พฤศจิกายน เป็นรอบจัดอันดับ โดยไล่ระดับไปตามรุ่น ตั้งแต่รุ่นเล็กไปจนถึงรุ่นใหญ่อย่าง ซูเปอร์คาร์ และซูเปอร์คาร์ 2000 มาถึงช่วงบ่ายแก่ๆ เป็นคิวของรุ่นที่ทุกคนจับตามองนั่นคือ รุ่นกระบะ ซูเปอร์ คอมมอนเรล 2500 ซีซี. เริ่มจากจุดสตาร์ทเสียงเครื่องยนต์คำรามกึกกล้องทั่วทั้งสนาม พอไฟแดงดวงที่ 5 ดับ รถแข่งมาสด้า บีที-50 หนึ่งเดียวจากมาสด้า ก็พุ่งทะยานออกจากจุดสตาร์ทไปอย่างรวดเร็ว สิ้นสุดทางตรงเป็นโค้งขวามาสด้า บีที-50 ยังคงแล่นฉิว ทะยานไปข้างหน้าอย่างไม่ลดละ อีก 50 เมตรเป็นโค้งหักศอกซ้ายเสียงกระแทกเบรกเอียด 1 ครั้งพร้อมการลดระดับเกียร์ พร้อมๆกับกระแทกคันเร่งต่อทันที ทั้งหมดอยู่ในการควบคุมเพียงเสี้ยววินาที มาสด้า บีที-50 ก็สามารถเข้าป้ายด้วยเวลา 2.19.899 นาที จากความยาวรอบสนาม 3.7 กิโลเมตร
การแข่งขันในวันเสาร์ซึ่งเป็นสนามที่ 5 ของรุ่นซูเปอร์ คอมมอนเรล บ่ายโมงตรงรถกระบะทุกคันพร้อมที่กระโจนไปข้างหน้าอย่างเมามันส์ ทุกคนต่างใจจดใจจ่ออยู่กับสัญญาณไฟแดงที่รอการดับลงพร้อมกันทุกคนแทบหยุดหายใน พร้อมกับเสียงเครื่องยนต์ที่กระหึ่มทั่วทั้งสนาม สุดทางตรงเข้าโค้งขวา รถทุกคันต่างแย่งชิงไลด์เข้าใน มาสด้า บีที-50 สีเหลือง โดดเด่นมาแล้ว เสียงกองเชียร์ตะโกน ไป ไป ไป ไป อย่างเบรก อย่าเบรก ยาวไป ยาวไป ออกสตาร์ทอันดับที่ 9 พีท ทองเจือ กดคันเร่งช่วงออกสตาร์ทขึ้นมาอยู่อันดับ 8 ทันที ก่อนที่จะประคองเจ้า บีที-50 เข้าเส้นชัยไปอย่างสนุกสนาน
สนามที่ 6 สนามสุดท้ายของการแข่งขัน ซูเปอร์ คอมมอลเรล 2500 ซีซี. เริ่มระเบิดขึ้นอีกครั้ง ซึ่งแน่นอนว่าวันนี้ต้องมีทีเด็ด ใครมีฝีมือเท่าไหร่ต้องงัดออกมาโชว์อย่างเต็มที่ จากผลการแข่งขันเมื่อวันเสาร์นำมาเป็นจุดสตาร์ทในสนามสุดท้ายมาสด้า บีที-50 ออกสตาร์ทอันดับที่ 8 ยังคงอยู่กลางๆ พอออกจากจุดสตาร์ทมา กองเชียร์มาสด้ากำลังรอคอยว่าจะเห็นคันไหนโผล่โค้งออกมาก่อน เสียงเครื่องยนต์มาก่อนตามด้วย รถคันที่ 1 2 3 4 5 6 7 8 เป็นแพมาเลยรถทุกคันทะยานออกมาพร้อมๆกันเพื่อชิงการเข้าโค้งแรก มาสด้า บีที-50 ยังคงเกาะกลุ่มผู้นำอยู่ พร้อมที่จะเสียบทันทีได้ที่ใครเปิดช่อง ผ่านโค้งแล้วโค้งเล่ารถทุกคับยังอยู่กับครบ มาสด้า บีที-50 ควบเข้าเส้นชัยตามเคยสนามสุดท้ายนี้ทำได้ดีทีเดียวจบอันดับที่7 สิ้นสุดการแข่งขันผู้ชมรอบๆสนามต่างปรบมือกันขอบคุณบรรดานักแข่งทั้งหลายที่มอบความสุขและความประทับใจที่ครั้งนึงได้ร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้เกิดขึ้นกับวงการมอเตอร์สปอร์ตเมืองไทย คาดว่าปีถัดไปคงดุเดือดมากขึ้นกว่าเดิม
รายละเอียดรถสปอร์ตปิคอัพมาสด้าบีที-50
ด้วยหน้าตารูปร่างที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเป็นสปอร์ตปิคอัพอย่างแท้จริง มาเติมเต็มความเป็นรถแข่งมาสด้า บีที-50 คันนี้จะทรงพลังได้มากแค่ไหนมาดูกับเลย เครื่องยนต์ MZR-WLC 2500 cc. เพาเวอร์คอมมอนเรล ความจุกระบอกสูบ 2500 ซีซี. DOHC 16 วาล์ว ให้แรงม้าสูงสุดที่ 143 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 330 นิวตัน-เมตร ให้พลังมากกว่ารถกระบะในระดับเดียวกัน มาพร้อมเทอร์โบชาร์จเจอร์แบบแปรผัน VGT ให้พลังต่อเนื่อง อินเตอร์คูลเลอร์ขนาดใหญ่ ระบบจ่ายน้ำมันแรงดันสูง กล่องคอมพิวเตอร์สมองกลอัจฉริยะ 32 บิท ควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ ด้วยการคำนวณการฉีดเชื้อเพลิง การจุดระเบิดที่ละเอียดแม่นยำ ให้รอบเครื่องยนต์รีดพลังได้เต็มประสิทธิภาพ
http://www.mazda.co.th
chevy captiva ลุยออสเตรเลียและนิวซีแลนด์
จีเอ็มเดินหน้าส่งออก แคปติวา
ความสำเร็จอีกก้าวของประเทศไทยสู่การเป็นฐานส่งออกรถยนต์ระดับโลก
กรุงเทพฯ – เจนเนอรัล มอเตอร์ส ประเทศไทย ตอกย้ำความยอดเยี่ยมด้านการผลิตและความยืดหยุ่นของการผลิตของศูนย์การผลิตรถยนต์ จังหวัดระยอง เดินหน้าผลิตรถยนต์อเนกประสงค์เอสยูวี “แคปติวา” ส่งออกประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ สะท้อนความสำเร็จของแคปติวาในตลาดรถยนต์ทั่วโลก นอกจากนี้ ยังเป็นการช่วยการผลิตรถยนต์ของจีเอ็มในประเทศเกาหลี ซึ่งอยู่ในระหว่างการขยายกำลังการผลิตเพื่อรองรับความต้องการของตลาดที่เพิ่มมากขึ้น
ในเอเชีย แคปติวานับได้ว่ามีฐานตลาดที่แข็งแกร่ง เนื่องจากได้รับการออกแบบและพัฒนาขึ้นในภูมิภาคโดยคำนึงถึงความต้องการของผู้บริโภคจากทั่วโลกให้ได้มากที่สุด เมื่อปลายปีที่แล้วจีเอ็มได้เปิดตัวแคปติวาในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ตามด้วยการเปิดตัวในประเทศไทยและอีกหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อราวต้นปี 2550
ศูนย์การผลิตรถยนต์จีเอ็ม จังหวัดระยอง นับเป็นศูนย์การผลิตและประกอบรถยนต์ที่โดดเด่นที่สุดทั้งในด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัย โดยเริ่มดำเนินการผลิตแคปติวาเพื่อส่งออกไปยังออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ นอกเหนือจากรถยนต์อเนกประสงค์เอสยูวี 7 ที่นั่งอย่างแคปติวาแล้ว ศูนย์การผลิตฯ จังหวัดระยอง ยังดำเนินการผลิตตามระบบการผลิตของจีเอ็มทั่วโลก (Global Manufacturing System) โดยผลิตรถยนต์คุณภาพรุ่นต่างๆ เพื่อจำหน่ายในประเทศและส่งออกไปยังหลายประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น อาวีโอ รถยนต์นั่งขนาดเล็ก ออพตร้าซีดาน รถยนต์นั่งขนาดกลางออพตร้าเอสเตท รถยนต์อเนกประสงค์สำหรับครอบครัว และโคโลราโด กระบะขนาด 1 ตัน ซึ่งถือได้ว่าศูนย์การผลิตฯ จังหวัดระยอง นั้นเป็นปัจจัยสำคัญหลักสำหรับการขยายตลาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของจีเอ็ม
มร. สตีฟ คาร์ไลส์ ประธานกรรมการ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศไทย บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส(ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ความสามารถของศูนย์การผลิตฯ จังหวัดระยอง ในการรองรับความต้องการของตลาดที่มีต่อแคปติวาซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในระยะเวลาอันสั้นนั้น เป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับการปฏิบัติการ คุณภาพ และความยืดหยุ่นของระบบการผลิต รวมถึงขีดความสามารถของพนักงานอีกด้วย”
“จีเอ็มประเทศไทยมีส่วนสำคัญในการตอบสนองความต้องการของตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอได้อย่างทันท่วงที ซึ่งการแบ่งเบาภาระการผลิตแคปติวานี้ถือเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุด นอกจากนั้นยังเป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับศูนย์การผลิตฯ จังหวัดระยอง ของเราอีกทางหนึ่ง”
“ความสำเร็จของแคปติวาในทั่วโลกทำให้ศูนย์การผลิตฯ จีเอ็มแดวูในประเทศเกาหลี ได้ดำเนินการมาถึงจุดที่เต็มกำลังการผลิตแล้ว ขณะที่เกาหลีต้องใช้ระยะเวลาในการเพิ่มกำลังการผลิตขึ้น ศูนย์การผลิตฯ ประเทศไทยจะอาศัยความเชี่ยวชาญและความยืดหยุ่นในการผลิตเพื่อรองรับความต้องการของตลาดในส่วนที่เกินกำลังการผลิตของเกาหลี”
ในปัจจุบัน ศูนย์การผลิตรถยนต์จีเอ็ม จังหวัดระยอง ดำเนินการเกือบเต็มกำลังการผลิตเพื่อผลิตรถยนต์สำหรับตลาดในประเทศและส่งออกไปยังนานาประเทศ ด้วยเงินลงทุนจำนวนมหาศาล จีเอ็มใช้เวลาหลายหมื่นชั่วโมง ในการสร้างศูนย์ประกอบรถยนต์ชั้นนำระดับโลกขึ้นในประเทศไทย และฝึกอบรมพนักงานตามมาตรฐานเดียว กับศูนย์การผลิตรถยนต์ของจีเอ็มในประเทศต่างๆ ทั่วโลก
“ผมเชื่อมั่นเสมอว่า ศูนย์การผลิตฯ จังหวัดระยองของเราสามารถผลิตรถยนต์และรถกระบะคุณภาพเยี่ยมได้เหนือกว่ามาตรฐานซึ่งสูงอยู่แล้วของจีเอ็ม ในประเทศไทยเราได้รับประโยชน์เต็มที่จากแรงงานซึ่งเปี่ยมไปด้วยทักษะด้านยานยนต์ อุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับอะไหล่และชื้นส่วนที่ได้รับกาีรพัฒนาอย่างเต็มที่ รวมถึงสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพ การผลิตแคปติวาเพื่อส่งออกนี้เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการผลักดันให้ประเทศไทยเดินหน้าสู่การเป็นฐานการผลิตรถยนต์ระดับโลกสำหรับจีเอ็มต่อไปในอนาคต” มร. สตีฟ กล่าวทิ้งทาย
23 พ.ย. 2550
เอสโซ่ ชาเลนจ์ 2008
บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) นำโดยคุณมงคลนิมิตร เอื้อเชิดกุล กรรมการและผู้จัดการประชาสัมพันธ์ บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (กลาง) ประกาศเดินหน้าโครงการ
เอสโซ่ ชาเลนจ์ 2008 เปิดรับสมัครนิสิตนักศึกษาระดับอุดมศึกษาชั้นปีที่ 3 ของทุกสถาบัน เพื่อค้นหาสุดยอด 30 เยาวชนรุ่นใหม่ ร่วมเรียนรู้และทำจริงกับการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการอย่างเข้มข้น โดยคณาจารย์จากมหาวิทยาลัยชั้นนำ และผู้บริหารบริษัทเอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัทเอ็กซอนโมบิลประเทศไทย เพื่อเตรียมความพร้อมก้าวสู่ความเป็นมืออาชีพ ศึกษาดูงานกับองค์กรชั้นนำ ร่วมกิจกรรมสร้างสรรค์สังคมและอีกหลากหลายประสบการณ์อันมีค่า
นักศึกษาที่สนใจเข้าร่วมโครงการ สามารถดูรายละเอียด และสมัครผ่านทางเว็บไซต์ได้ที่www.essochallenge.com ตั้งแต่วันนี้ – วันที่ 10 ธันวาคม 2550 ผู้ผ่านการพิจารณาจะได้รับการสัมภาษณ์ ผู้ผ่านเข้ารอบ 30 คนสุดท้ายจะได้รับการประกาศในวันที่ 28 ธันวาคมนี้
benz เตรียมย้ายฝ่ายปฏิบัติการสู่ One Roof Centre
เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) เตรียมย้ายฝ่ายปฏิบัติการสู่ One Roof Centre มูลค่า 600 ล้านบาท
กรุงเทพฯ – เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) ประกาศเตรียมย้ายอาคารเก็บรถยนต์ แผนกเตรียมส่งมอบรถ คลังอะไหล่ และศูนย์ปฏิบัติการกลางด้านบริการ ไปยังที่ทำการแห่งใหม่ให้ อันทันสมัยมูลค่า 600 ล้านบาท บนถนนบางนา-ตราด
สำหรับศูนย์ปฏิบัติการใหม่นี้ทางบริษัทเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) ได้ทำสัญญาเช่าระยะยาวกับทางบริษัท บางชันเย็นเนอเรลเอเซมบลี จำกัด ทั้งนี้ เพื่อนำเอาฝ่ายปฏิบัติการและโรงเก็บต่างๆ ที่แยกกันอยู่ในปัจจุบันมารวมกันไว้บนพื้น 27 ไร่ ในรัตนบดี เอสเตท
ศูนย์ “วัน รู๊ฟ” แห่งใหม่นี้ จะมีผลดีต่อบริษัทฯ ในเรื่องของประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุนไปพร้อมๆ กับการเพิ่มศักยภาพในการส่งมอบสินค้า และการบริการ ในส่วนของศูนย์เก็บอะไหล่รถยนต์ก็ยังโดดเด่นในเรื่องของอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย
มร. โวล์ฟกัง ฮุบเพ็นบาวเออร์ ประธานบริหาร บริษัทเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับศูนย์แห่งใหม่นี้ว่า “มันเป็นโครงการที่เราได้ทำการวางแผนกันมาหลายปี และเป็นเรื่องของพันธสัญญาของเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) ที่มีต่อประเทศไทย รวมไปถึงผู้จำหน่าย และลูกค้าของเรา นี่ถือเป็นการริเริ่มที่สำคัญยิ่งที่จะส่งผลในเรื่องประสิทธิภาพ และความคล่องตัวของฝ่ายปฏิบัติการในประเทศไทย และถือเป็นโอกาสเหมาะอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสประกาศเรื่องของศูนย์นี้ในวาระครบรอบ 10 ปี ที่ทาง บริษัทฯได้ก่อตั้งขึ้นในประเทศไทย”
ศูนย์ “วัน รู๊ฟ” มีกำหนดเปิดในราวไตรมาสแรกของปีหน้า ซึ่งจะโดดเด่นด้วยอาคาร 2 หลัง ที่สามารถรองรับรถได้มากกว่า 1,000 คัน
ในส่วนของอาคารหลังแรกนั้นมีพื้นที่ใช้สอยถึง 5,800 ตารางเมตร ซึ่งประกอบด้วย ฝ่ายต้อนรับ สำนักงาน แผนกฝึกอบรม ศูนย์บริการกลาง และคลังอะไหล่ ขณะที่อาคารหลังที่สองซึ่งมีพื้นที่กว้างถึง 25,000 ตารางเมตร นั้นได้ถูกจัดให้เป็นส่วนของการเตรียมรถที่จะส่งมอบ และคลังเก็บรถ ซึ่งจะมีสนามทดสอบรถ และสถานีบริการน้ำมันของตัวเองรวมอยู่ด้วย
“วัน รู๊ฟ เซ็นเตอร์ เป็นการรวบรวมเอาการทำงานในส่วนต่างๆเข้าไว้ด้วยกันไม่ว่าจะเป็นวิศวกรและฝ่ายปฏิบัติการโรงงานของเรา พร้อมกันนี้ก็ยังได้รวมเอาฝ่ายบริการหลังการขายมาไว้ด้วย ซึ่งจะเกิดผลดีทันทีในเรื่องความคล่องตัว และรวดเร็วให้กับทางผู้แทนจำหน่ายในการให้บริหารแก่ลูกค้า” มร.ฮุบเพ็นบาวเออร์ กล่าว
ศูนย์แห่งใหม่นี้ยังจะนำมาซึ่งการจ้างงานมากกว่า 170 คน และส่วนใหญ่จะเป็นพนักงานที่ทำงานอยู่ปัจจุบันในบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย)
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)