28 พ.ย. 2550

Technology for Saving Energy ของยนตรกิจ กรุ๊ป ในงาน Motor Expo 2007






ยนตรกิจ กรุ๊ป ชูกระแสประหยัดพลังงานตามแนวคิด Technology for Saving Energy “เทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อพลังงานประหยัด” ด้วยขบวนรถยนต์จาก 5 แบรนด์ดัง ออดี้ เกีย เปอโยต์ สโกด้า และโฟล์คสวาเกน ภายในงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 24”

วันที่ 28 พฤศจิกายน 2550 - ยนตรกิจ กรุ๊ป ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์ ออดี้ เกีย เปอโยต์ สโกด้า ซีตรอง และโฟล์คสวาเกน อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย นำขบวนรถยนต์รุ่นใหม่และรถยอดนิยมจาก แบรนด์ชั้นนำที่อยู่ภายใต้การดูแล ร่วมงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 24 ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน ถึง 10 ธันวาคม 2550 ณ อาคารแสดงสินค้า Challenger เมืองทองธานี โดยในปีนี้ยนตรกิจ ชูคอนเซ็ป Technology for Saving Energy ซึ่งมุ้งเน้นการนำเสนอรถยนต์ที่เหมาะสมกับการใช้งานที่ประหยัดพลังงาน และคุ้มค่าในการเดินทางทุกเส้นทาง ในยุคที่ราคาน้ำมันผันผวน
คุณสรวิศย์ ลีนุตพงษ์ ประธานกรรมการบริหาร ยนตรกิจ กรุ๊ป กล่าวถึงคอนเซ็ปในการเข้าร่วมงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 24 ของยนตรกิจ กรุ๊ป ว่า ในยุคปัจจุบันที่รถยนต์ชั้นนำค่ายต่างๆ ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาเทคโนโลยีเครื่องยนต์ที่ทันสมัยเพื่อตอบสนองและรองรับความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลก โดยคำนึงถึงสมรรถนะการขับขี่ที่มีประสิทธิภาพและความประหยัดเป็นสำคัญ โดยในปัจจุบันซึ่งสถานการณ์ราคาน้ำมันยังอยู่ในกระแสของการปรับตัวขึ้นสูงอยู่ ดังนั้นยนตรกิจ จึงต้องการนำเสนอรถยนต์ที่สามารถตอบโจทย์นี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยรถยนต์ที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ให้ความคุ้มค่าสูงสุดในการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ทั้งรถยนต์ที่มีขนาดเล็กเหมาะสำหรับการใช้งานในเมือง รถระดับผู้บริหาร รถยนต์ประเภท MPV, SUV ที่กว้างขวางและเหมาะที่จะรองรับผู้โดยสารได้หลายคน ซึ่งรถยนต์ในปีนี้เป็นรถยนต์ชั้นนำจากค่าย ออดี้ เกีย เปอโยต์ สโกด้า และโฟล์คสวาเกน
“รถยนต์เด่นๆจากค่ายต่างๆ อาทิ เช่น ออดี้ เกีย เปอโยต์ สโกด้า และโฟล์คสวาเกน ได้ถูกคัดสรรเข้าร่วมงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 24 ในปีนี้ภายใต้เงื่อนไขความโดดเด่นของสมรรถนะและความประหยัดในรูปแบบของเทคโนโลยีที่แตกต่างหลากหลาย ตามความถนัดของแต่ละค่าย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์เบนซินหัวฉีดตรง TFSI ของออดี้ เครื่องยนต์เบนซินขนาดเล็ก และเทอร์โบดีเซล CRDi ที่ให้ความประหยัดพลังงานและช่วยในเรื่องการลดภาวะโลกร้อนจากเกีย เครื่องยนต์เบนซินขนาดเล็กรุ่นใหม่ที่พัฒนาร่วมกันระหว่าง PSA Group และ BMW Group ที่แรงและประหยัด จากเปอโยต์ และเครื่องยนต์ระบบเทอร์โบดีเซล TDI ของกลุ่มโฟล์คสวาเกน ซึ่งเทคโนโลยีเครื่องยนต์เหล่านี้ผสมผสานความลงตัวของพละกำลัง สมรรถนะ ความทนทาน และความประหยัดเอาไว้อย่างดีเยี่ยม และเพียบพร้อมที่จะตอบสนองผู้ใช้รถยนต์ในปัจจุบันที่มองหาความประหยัด บนสมรรถนะที่เชื่อถือได้ เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายในยุคที่เศรษฐกิจตึงตัวและราคาน้ำมันที่ผันผวนตลอดเวลา” คุณสรวิศย์กล่าว

นอกจากนี้รถยนต์ค่ายต่างๆในความดูแลของยนตรกิจ กรุ๊ป ยังมีข้อเสนอที่น่าสนใจมากมายแก่ลูกค้าภายในงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 24 ในปีนี้
- ออดี้ - Audi A6 Avant 2.0 TFSI เป็นไฮไลท์ที่เพิ่งเปิดตัวต่อสื่อมวลชนไปเมื่อไม่นานมานี้
- เกีย – Kia Picanto รถซิตี้คาร์ยอดประหยัดที่คล่องตัวสูงสำหรับในเมือง ด้วยเครื่อง 1.1 ลิตร 65 แรงม้า ในราคาเริ่มต้น 499,000 บาท พร้อมแคมเปญ “ตอบรับทุกเงื่อนไข..ใส่ใจด้านคุณภาพ” หรือ แคมเปญ “คุ้มค่าทุกมุมมอง” ที่สามารถเลือกได้ตรงความต้องการ อาทิ ผ่อนนาน ดอกเบี้ยต่ำ หรือฟรีบำรุงรักษา 3 ปี และประกันภัยชั้น 1 สำหรับรุ่น Carnival และ รุ่น Carens
- เปอโยต์ – Peugeot 207 CC, 207 สปอร์ต 3 ประตู และ 207 สปอร์ต 5 ประตู เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร 120 แรงม้า มาพร้อมข้อเสนอพิเศษ
- สโกด้า – Skoda Superb TDI เครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล 1.9 ลิตร 130 แรงม้า และ Skoda Octavia TDI แบบ 5 ประตู และสเตชั่นแวกอน เครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล 1.9 ลิตร 105 แรงม้า เกียร์ DSG 6 สปีด ราคาพิเศษ
- โฟล์คสวาเกน – เปิดตัว The New Caravelle Businessline ตกแต่งภายในใหม่ล่าสุดสำหรับนักธุรกิจรุ่นใหม่ ทั้งแบบ 2.5TDI เทอร์โบดีเซล และ 3.2 V6 เบนซิน พร้อมฟรีค่าน้ำมันมูลค่า 100,000 บาท ฟรีประกันภัยชั้น 1 มูลค่ากว่า 40,000 บาท และ ฟรีบำรุงรักษา 4 ปี มูลค่ากว่า 60,000 บาท รวมเป็นมูลค่ากว่า 200,000 บาท แก่ผู้ซื้อทุกรุ่น

รถยนต์ที่เข้าร่วมงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 24 มีดังต่อไปนี้

Audi
• Audi A6 Avant 2.0 TFSI ใช้เครื่องยนต์ขนาด 2,000 ซีซี ให้กำลังสูงสุดถึง 170 แรงม้า ที่ 4,300 – 6,000 รอบ/นาที ให้แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตรที่ 1,800 – 4,200 รอบ / นาที ทำความเร็วสูงสุด 216 กม. /ชม. อัตราเร่งจาก 0-100 กม. ใช้เวลาเพียง 9.0 วินาที ใช้เทคโนโลยี FSI (Fuel Stratified Injection) ร่วมกับ Turbo Charger จึงให้ทั้งสมรรถนะยอดเยี่ยมควบคู่กับการประหยัดน้ำมัน โดยในการใช้งานปกติ มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ยที่ 12.20 กม. / ลิตร นอกจากนี้ Audi A6 Avant ยังมีความเอนกประสงค์มากขึ้นด้วยห้องเก็บสัมภาระที่มีพื้นที่ใช้สอยภายในที่เพิ่มขึ้นกว่ารถ Saloon ทั่วไป โดยมีเนื้อที่บรรจุสัมภาระมากถึง 565 ลิตร และเมื่อพับเบาะหลังสามารถเพิ่มพื้นที่ได้มากถึง 1,660 ลิตร นอกจากนี้ยังสามารถพับและล๊อคได้หลายตำแหน่งเพื่อแบ่งพื้นที่วางเป็นสัดส่วนได้อีกด้วย
• Audi TT Coupe 2.0 TFSI เกียร์ S Tronic ยนตรกรรมสปอร์ตคูเป้ระดับพรีเมียมคลาสจากประเทศเยอรมนี ที่มีความปราดเปรียวเฉียบคมกว่ารุ่นก่อนทั้งในด้านดีไซน์ที่สวยงามโฉบเฉี่ยว ใช้เครื่องยนต์ 2.0 Turbo FSI ที่ได้รับรางวัล “Engine of the Year” จากประเทศยุโรป ติดต่อกันถึง 3 ปีซ้อน ให้กำลังสูงสุด 200 แรงม้าที่ 5,100 – 6,000 รอบต่อนาที ให้แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร ที่1,800 – 5,000 รอบต่อนาที ระบบเกียร์ S Tronic 6 สปีด ซึ่งเป็นเกียร์ระบบใหม่ล่าสุดของออดี้ที่ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์ ทำได้รวดเร็วและแม่นยำมากยิ่งขึ้นกว่าเกียร์ธรรมดาทั่วไปและคงความนุ่มนวล สะดวกสบายเหมือนเกียร์อัตโนมัติ มีอัตราเร่งจาก 0-100 ภายในเวลาเพียง 6.4 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ 240 กม. / ชม. โครงสร้างตัวถังรถแบบ ASF Audi Space Frame design ซึ่งประกอบด้วยอลูมิเนียม 69% และเหล็ก 31% จึงทำให้รถมีน้ำหนักเบากว่า แต่แข็งแรงทนทานกว่ารุ่นเดิม จึงทำให้ได้รับรางวัลด้านนวัตกรรมตัวถังยอดเยี่ยม “Euro Car Body Award 2006”
• Audi Q7 3.0 TDI quattro ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ แบบวี DOHC TDI พร้อมระบบ Common Rail หัวฉีดแบบ Piezo และ Turbo Charger แบบแปรผัน มีปริมาตรกระบอกสูบ 2,967 ซีซี ใช้เทคโนโลยี TDI ที่ให้ทั้งสมรรถนะความแรงสูงสุด แต่สามารถประหยัดน้ำมันมากกว่าเครื่องยนต์เบนซินถึง 30% ให้กำลังสูงสุด 220 แรงม้าที่ 3,500 – 4,000 รอบต่อนาที ให้แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตรที่ 1,750 – 2,750 รอบต่อนาที ใช้ระบบเกียร์อัตโนมัติ + tiptronic 6 สปีด ทำความเร็วสูงสุด 210 กม. / ชม. ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 9.1 วินาที ใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา quattro รุ่นล่าสุด ช่วยให้การยึดเกาะถนนยอดเยี่ยมในทุกสภาพเส้นทาง ระดับหรูหราจากเยอรมนี เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีระดับสูง อาทิ ระบบกันสะเทือนแบบถุงลม (Air Suspension), ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อตลอดเวลารุ่นล่าสุด (quattro), เทคโนโลยี MMI, กุญแจแบบ Advance Key, ไฟหน้าซีนอนที่ปรับอัตโนมัติตามแนวโค้งของถนน รวมทั้งระบบ Audi Parking System Plus ช่วยเตือนเมื่อจอดทั้งด้านหน้าและหลัง โดยแสดงระยะทางถอยจอดที่จอ MMI
• Audi A4 Sport Edition เป็นรถสปอร์ตพรีเมี่ยมที่เพียบพร้อมในทุกๆด้าน ทั้งสมรรถนะความแรงที่มาพร้อมกับความประหยัดน้ำมันและรูปลักษณ์ที่สวยงาม โดดเด่นไม่เหมือนใครด้วยอุปกรณ์พิเศษชุดแต่งแท้ Audi Genuine Accessories® จากออดี้ประเทศเยอรมนี ที่นำมาแต่งใน Style รถแข่ง A4 DTM เจ้าของแชมป์ German Touring Car หลายสมัย โดยอุปกรณ์ชุดแต่งทั้งหมดมีมูลค่ารวมกว่า 300,000 บาทซึ่งประกอบด้วย
• ชุดกันชนหน้า - หลัง DTM
• สปอรย์เลอร์หน้าคาร์บอนไฟเบอร์
• สปอรย์เลอร์หลัง DTM
• กระจังหน้า S-Line
• สัญลักษณ์ S-Line
• ล้ออัลลอยด์ DTM อลูมิเนียม ขนาด 18”
• ยางขนาด 235/40 R18
Audi A4 Sport Edition ใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1,984 ซีซี 4 สูบ DOHC ให้กำลังสูงสุดถึง 200 แรงม้าที่ 5,100 – 6,000 รอบต่อนาที ให้แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตรที่ 1,800 – 5,000 รอบต่อนาที ทำความเร็วสูงสุด 235 กม./ชม. อัตราเร่งจาก 0-100 กม. ใช้เวลาเพียง 7.3 วินาที มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ยที่ 12.35 กม./ลิตร มาพร้อมเทคโนโลยี FSI ในเครื่องยนต์ 2.0 TFSI จึงให้สมรรถนะที่ดีเยี่ยม ให้อัตราเร่งตอบสนองทันใจ แต่ช่วยประหยัดน้ำมันมากกว่าเครื่องยนต์ขนาดเดียวกันถึง 15% เครื่องยนต์ 2.0 TFSI ยังได้รับรางวัลชนะเลิศ “Engine of the Year” จากยุโรป ถึง 3 ปีซ้อน

Kia
• KIA ได้นำเสนอรถยนต์ที่เน้นการประหยัดพลังงาน ในรุ่น PICANTO รถซิตี้คาร์ขนาดเล็ก ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 1.1 ลิตร ความเร็วสูงสุด 154 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน 26.20 กม./ลิตร ที่ความเร็วคงที่ 60 กม./ชม. รูปลักษณ์ปราดเปรียว และคล่องตัวสูงสำหรับการใช้งานในเมือง ภายในกว้างขวางสามารถจุผู้โดยสาร 4-5 คน ทั้งติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบสนองประโยชน์ใช้สอยได้อย่างหลากหลายและลงตัว พร้อมความปลอดภัยตามมาตรฐานยุโรป ส่งผลทำให้รถยนต์ KIA PICANTO ได้รับรางวัล “รถยนต์ขนาดเล็กที่ประหยัดสูงสุด ประจำปี 2006” ในประเทศไทย มีจำหน่าย 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น LX เกียร์ธรรมดา ราคา 499,000 บาท รุ่น LX เกียร์อัตโนมัติ ราคา 549,000 บาท และรุ่น EX เกียร์อัตโนมัติ ราคา 619,000 บาท
• Kia Grand Carnival รถ MPV ขนาด 11 ที่นั่ง ที่นำเข้าทั้งคันจากประเทศเกาหลี ด้วยมิติตัวรถขนาดใหญ่ที่กว้างถึง 1,985 มม. และยาว 5,130 มม.ทำให้รูปลักษณ์ภายนอกของรถ GRAND CARNIVAL กว้างขวาง สวยงาม และทันสมัย แต่ให้ความรู้สึกเสมือนรถซีดาน เครื่องยนต์ดีเซลทรงพลังในสไตล์สปอร์ต รุ่น J 2.9 Super CRDi ให้สมรรถนะที่ดีที่สุดในรถระดับเดียวกัน ตอบสนองการขับขี่ได้อย่างดีเยี่ยม แรงม้า 160 Ps ที่ 3700 รอบต่อนาที แรงบิด 343.2 นิวตันเมตร ที่ 2,000-3,000 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด แบบ H-MATIC ซึ่งเป็นได้ทั้งระบบ Automatic และระบบ Manual ตอบสนองทุกความต้องการในการขับขี่ ช่วงล่างเป็นแบบแมกเฟอร์สันสตรัท และอิสระ แบบมัลติลิงค์ ที่ให้ความแข็งแรง และควบคุมการทรงตัวได้อย่างมั่นคงและนุ่มนวล ระบบดิสก์เบรก ABS และระบบ ESP พร้อมระบบพวงมาลัยแบบแรคแอนด์พิเนียม และเพาเวอร์ชนิดไฮโดรลิคผ่อนแรง รัศมีวงเลี้ยงแคบสุด 6 เมตร ทำให้คล่องตัวและขับขี่ได้อย่างสะดวกสบายในทุกสภาวะ มีให้เลือก 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น LX ราคาจำหน่าย 1,496,000 บาท รุ่น EX ราคาจำหน่าย 1,615,000 บาท และรุ่น EX(EX) ราคาจำหน่าย 1,714,000 บาท
• Kia Carens V Estate รถสเตชั่นแวนกอน 5 ที่นั่ง ที่ตอบสนองอรรถประโยชน์สูงสุดสำหรับการใช้งาน ทั้งในชีวิตประจำวัน และการพักผ่อนในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์สำหรับครอบครัวยุคใหม่ “KIA CARENS V-ESTATE” ให้ความสำคัญกับการออกแบบภายในห้องโดยสารให้มีขนาดใหญ่ กว้างขวาง ด้วยพื้นที่โล่งเหนือศีรษะ และที่วางขา เบาะที่นั่งสามารถปรับพับแยกและปรับเอนได้อย่างอิสระตามการใช้งาน พร้อมพื้นที่สำหรับจัดเก็บสัมภาระด้านท้ายขนาดใหญ่ในสไตล์รถสเตชั่นแวกอน ทำให้สามารถจัดเก็บสัมภาระได้อย่างมากมายและหลากหลายรูปแบบ “KIA CARENS V-ESTATE” เป็นเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.0 ลิตร CRDi ขุมพลัง 112 แรงม้าที่ 4000 รอบต่อนาที แรงบิด 25 กม.-ม.ที่ 2000 รอบต่อนาที ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ที่เต็มเปี่ยมด้วยสมมรรถนะ เร่งแซงได้ดังใจ และประหยัดพลังงานเชื้อเพลิงได้เป็นอย่างดี พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์เข้าเกียร์ง่าย และนุ่มนวล มีให้เลือก 2 รุ่น คือ รุ่น V-Estate ราคาจำหน่าย 893,000 บาท และรุ่น EX ราคาจำหน่าย 990,000 บาท พร้อมประกันภัยชั้น 1 ฟรี 1 ปี พร้อมบำรุงรักษา 3 ปี หรือ 60,000 กม.
• Kia Carnival รถ MPV ขนาด 7 ที่นั่ง ที่ตอบรับทุกระดับสำหรับความพึ่งพอใจ หรูหรา ทันสมัย เหมาะสำหรับนักธุรกิจ หรือครอบครัวขนาดใหญ่ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวหรือสันทนาการในรูปแบบต่างๆ เป็นหมู่คณะ สำหรับเครื่องยนต์ที่ติดตั้งใน KIA CARNIVAL เป็นเครื่องยนต์เบนซิน V6 2.4 ลิตร 24 วาล์ว DOHC ให้พละกำลัง 163 แรงม้า แรงบิดที่ 208 Nm ที่ 4,500 รอบต่อนาที เริ่มตั้งแต่รอบต่ำถึงรอบปานกลาง ระบบหัวฉีดมัลติพอยท์ควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ ช่วยให้การเผาไหม้สะอาดหมดจด และให้กำลังสูง เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ พร้อมระบบโอเวอร์ไดร์ฟที่ควบคุมด้วยอิเลกทรอนิกส์ เปลี่ยนเกียร์ได้อย่างนุ่มนวลและแม่นยำ มีให้เลือก 2 รุ่น คือ รุ่น Cartnival ราคาประหยัด จำหน่ายในราคาเพียง 1,109,000 บาท และรุ่น Carnivatl GS ราคาจำหน่าย 1,289,000 บาท พร้อมประกันภัยชั้น 1 ฟรี 1 ปี พร้อมบำรุงรักษา 3 ปี หรือ 60,000 กม.
• Kia Sorento รุ่น Sport X รถ SUV พันธุ์แท้ที่เหนือชั้นสำหรับการขับขี่ที่นุ่มนวล ในทุกสภาวะและทุกเส้นทาง ด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบฟูล ไทม์ ทอร์ค ออน ดีมาน เพิ่มเสถียรภาพการทรงตัว และความนุ่มนวลบนทางออนโรด พร้อมลุยในทุกเส้นทางวิบาก เพียงหมุนปุ่มสวิตช์เท่านั้น กันสะเทือนหน้า ปีกนกคู่ คอยล์สปริงบนแกนโช๊คอัพ หลัง แบบคานแข็งคอยล์สปริง ยึด 5 แกน พร้อมเหล็กกันโคลง และดิสก์เบรก พร้อม ABS 4 ล้อ และ EBD พร้อมพละกำลังเต็มพิกัด และแข็งแกร่งทนทานไปได้ทุกเส้นทาง ทั้งออนโรด และออฟโรด มีเครื่องยนต์ให้เลือก 2 รุ่น คือ เครื่องยนต์เบนซิน V6 3.5 ลิตร 197 แรงม้า ที่ 5500 รอบต่อนาที แรงบิด 30.1 กก.-ม.ที่ 3000 รอบต่อนาที และเครื่องยนต์ดีเซล CRDi 2.5 ลิตร 140 แรงม้าที่ 3800 รอบต่อนาที แรงบิด 32.1 กก.-ม.ที่ 2000 รอบต่อนาที ทำให้ตอบสนองการขับขี่ได้อย่างยอดเยี่ยม มีให้เลือก 2 รุ่น คือ รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 2.5 CRDi ราคาจำหน่าย 1,838,000 บาท และรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 3.5L V6
ราคาจำหน่าย 1,995,000 บาท

Peugeot
• Peugeot 207 ใหม่ที่มาพร้อมกันถึง 3 รุ่น 3 สไตล์ ที่ตอบย้ำความเป็นสุดยอดรถสปอร์ตระดับคอมแพ็คที่คล่องตัวและเปี่ยมไปด้วยสมรรถนะและความประหยัดด้วยเครื่องยนต์เบนซินรุ่นใหม่ที่พัฒนาร่วมกันระหว่าง PSA Group และ BMW Group ขนาด 1.6 ลิตร ที่ให้สมรรถนะสูงแต่ขับขี่นุ่มนวลและประหยัดพลังงาน พร้อมติดตั้งระบบ VVT ทั้งด้านไอดีและไอเสีย และระบบ VVL เพื่อควบคุมการเปิด-ปิดของวาล์วไอดี ทั้ง 2 ระบบนี้นำมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่และลดอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง ให้กำลังสูงสุด 120 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดที่ 160 นิวตันเมตร ที่ 4,250 รอบ เกียร์อัตโนมัติ AL4 4 สปีด พร้อมระบบ Porsche Tiptronic System Peugeot 207 ใหม่ 3 รุ่นได้แก่ 207 CC รถสปอร์ตเปิดประทุนที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสำหรับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่มีระดับ ปราดเปรียว กะทัดรัด ซึ่งได้รับการออกแบบจากสถาบันที่ทันสมัยที่สุดของยุโรป สถาบัน ADN (Automotive Design Network) สามารถปรับเปลี่ยนบุคลิกเป็นรถสปอร์ตคูเป้ได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส และสามารถเปิดหลังคาได้ขณะขับที่ความเร็วไม่เกิน 10 กม./ชม. Peugeot 207 สปอร์ต 3 ประตูที่ ให้ความคล่องตัวสูงในแบบรถแฮ็ชแบ็คที่ร้อนแรง และสวยงามซึ่งมีจำหน่ายในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป เป็นครั้งแรก Peugeot 207 5 ประตู รองรับทุกการเดินทางอย่างคล่องตัวทั้งในเมืองและนอกเมือง ซึ่งทั้ง 3 รุ่นที่เป็นไฮไลท์ของงานจะมาพร้อมข้อเสนอพิเศษมากมายเฉพาะงานนี้เท่านั้น
• Peugeot 807 เนวัตกรรมเพื่อความสะดวกสบายในทุกอิริยาบถอีกหนึ่งผลงานจาก เปอโยต์ ฝรั่งเศส ในรูปแบบของรถ MPV รถยนต์อเนกประสงค์ 8 ที่นั่ง เครื่องยนต์ดีเซล HDI รักษาสิ่งแวดล้อม นอกจากจะให้ความสะดวกสบายในการเดินทางแล้ว ยังได้รับการออกแบบให้เป็นรถที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดดเด่น และปลอดภัย ซึ่งเป็นผลเนื่องมาจากความมุ่งมั่นของเปอโยต์ที่จะเป็นผู้นำในกลุ่มรถยนต์นั่งอเนกประสงค์อย่างแท้จริง ตัวรถที่มีความยาวทั้งหมด 4.727 เมตร ประกอบด้วยประตูบานพับทั้งสองบานในด้านหน้า และประตูหลังแบบเลื่อนที่ทำงานด้วยระบบไฟฟ้า สไลด์เลื่อนไปด้านหลังแนบตัวถังทั้งสองบาน สะดวกต่อการใช้งาน กับรูปทรงของตัวรถที่ออกแบบอย่างทันสมัย หลังคาซันรูฟเป็นแบบ 3 ตอนสามารถเปิดรับลมจากภายนอกได้


Skoda
• Skoda Superb TDI รถยนต์นั่งสำหรับผู้บริหารที่เน้นความหรูหราและที่สำคัญควบคู่ไปกับความประหยัดน้ำมันที่ตอบสนองสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน เครื่องยนต์ดีเซล 1.9 ลิตร 4 สูบ เทอร์โบดีเซล ให้แรงม้าสูงสุดถึง 130 แรงม้า ที่ 4000 รอบต่อนาที และแรงบิดที่ 285 นิวตันเมตร ที่ 1750 รอบต่อนาที เกาะถนนได้นุ่มนวลและมั่นใจด้วยระบบช่วงล่างแบบ มัลติลิงค์ 4 แกน และเหล็กกันโคลง ทอร์ชั่นบีม ในด้านหน้า และเทรลลิ่งอาร์ม ในด้านหลัง ให้ความสบายและสมรรถนะสูงสุดด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบ 5 สปีด มี Tiptronic
• Skoda Octavia TDI แบบ 5 ประตู และสเตชั่นแวกอน ถูกออกแบบใหม่ล่าสุดให้เป็นรถยนต์ที่หรูหรา และภูมิฐาน สไตล์ยุโรปสำหรับครอบครัวทันสมัยที่ลงตัวทั้ง 2 แบบ เครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล 4 สูบ 1.9 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 4000 รอบต่อนาที และแรงบิด 250 นิวตันเมตร ที่ 1900 รอบต่อนาที โดดเด่นด้วยความประหยัด และเทคโนโลยีของเกียร์ DSG (Direct Shift Gearbox) แบบอัตโนมัติ 6 สปีด ที่มาพร้อม Tiptronic

Volkswagen

• Volkswagen The New Caravelle Businessline คือความใหม่ที่ลงตัวสำหรับนักธุรกิจยุคใหม่ โดดเด่นด้วยเบาะนั่งแบบ 11 ที่นั่งที่ให้ความสบาย และระบบ double glassing partition ที่ติดตั้งกระจกกั้นห้องโดยสารแบบ 2 ชั้น โดยชั้นแรกเป็นแบบใส clear vision และชั้นที่ 2 เป็นแบบติดฟิล์มทึบให้ความเป็นส่วนตัวสูงสุด อุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ เช่น เบาะหนังแท้ ลายไม้ จอภาพระบบ LCD แบบ wide screen ขนาด 19 นิ้ว แบบพับเก็บได้บนคอนโซลเปิดขึ้นลงด้วยไฟฟ้า ใหม่ล่าสุดเพื่อความบันเทิงอีกระดับ เครื่องเล่น DVD ระบบเสียง surround เพื่อความสุนทรีย์ในทุกการเดินทาง และเซ็นเซอร์ถอยหลัง เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
• Volkswagen The New Caravelle Highline อีกระดับของความหรูหราและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่โดดเด่นที่การตกแต่งภายในและภายนอกใหม่หมด พร้อมอุปกรณ์ความปลอดภัยและอุปกรณ์เพื่อความบันเทิงที่ทันสมัยใหม่ล่าสุดกว่า 10 รายการ อาทิ เช่น ไฟหน้าแบบ projector ทันสมัย ให้ความโฉบเฉี่ยวสว่างปลอดภัยยิ่งกว่า กระจังหน้าแบบโครเมี่ยมหรูหรา ไฟเลี้ยวกรอบสีขาวหรูหราและแตกต่าง เบาะหนังแท้ชั้นดีสีดำขลิบสีตัดลายตามขอบอย่างมีรสนิยม ลายไม้สีเข้มสุขุมและเคร่งขรึมในสไตล์ dark wall nut จอภาพระบบ LCD แบบ wide screen ขนาด 19 นิ้ว ใหม่ล่าสุดเพื่อความบันเทิงอีกระดับ ระบบเสียง surround ชมภาพยนตร์แบบ Dolby 5.1 ให้ความกระหึ่มและเสียงที่สมจริง พร้อมลำโพงรอบทิศทาง 5 ตัว และหูฟังแบบไร้สาย cordless headphone 1 คู่ ฉากกั้นระหว่างห้องโดยสารและห้องคนขับ ช่องเสียบ USB port สำหรับรับเล่นเพลงจาก และระบบเซ็นเซอร์ถอยหลัง พร้อมกล้องรับภาพและจอแสดงผลที่คอนโซลคนขับ เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
• The New Caravelle Prestige ที่เพิ่มความสะดวกสบายในการโดยสารด้วยภายในแบบ 11 ที่นั่งที่สามารถให้ความหรูหรา โอ่อ่ากว้างขวางและสะดวกสบายได้ในแบบ 7 ที่นั่ง ที่ให้ความสุนทรีย์ที่เหนือกว่าด้วยเบาะหนังแท้ ลายไม่ ระบบเครื่องเสียงที่ปรับปรุงใหม่ที่มาพร้อม จอ LCD แบบ wide screen ขนาด 19 นิ้ว เครื่องเล่น DVD ระบบเสียงสเตอริโอเหนือระดับ และเซ็นเซอร์ถอยหลัง
รถทั้ง 3 รุ่นโดดเด่นกว่าใครด้วยประตูเลื่อนไฟฟ้า 2 บานจากโรงงานเปิดปิดได้ด้วยรีโมทคอนโทรลที่กุญแจ รางเลื่อนนิรภัยมาตรฐานสูงสุดของ โฟล์คสวาเกน และเบาะนั่ง VIP ที่ได้รับการรับรองความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป เครื่องยนต์มีให้เลือกทั้งในแบบเครื่องยนต์ 2.5 TDI เทอร์โบดีเซล ไดเร็คอินเจ็คชั่น แบบ 5 สูบ ขนาด 2,460 ซีซี ผลิตแรงม้าสูงสุดที่ 174 bhp ที่ 3,500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดที่ 400 นิวตันเมตร ที่ 2,000 รอบต่อนาที และเครื่องยนต์ 3.2 V6 เบนซินแบบ V6 สูบ 3,189 ซีซี ผลิตแรงม้าสูงสุดได้ถึง 235 bhp ที่ 6,200 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดที่ 315 นิวตันเมตร ที่ 2,950 รอบต่อนาที ถ่ายทอดกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Tiptronic