16 พ.ย. 2550

เทคโนเซล (เฟรย์) เปิดตัวฟิล์มแบรนด์ลูม่าร์ (LLumar) ป้องกันอุบัติภัยซ้ำซ้อน








เทคโนเซล (เฟรย์) เปิดตัวแบรนด์ลูม่าร์ (LLumar) สำหรับสินค้ากลุ่มฟิล์มพิเศษสำหรับรถยนต์ เป็นแบรนด์ที่ 2 ต่อจากลามิน่า พร้อมทำตลาดอย่างจริงจัง ผ่านเครือข่ายลามิน่าฟิล์มเอ็กซ์คลูซีฟช็อปทั้ง 50 แห่ง หลังศูนย์การทดสอบรถยนต์เดก้าร์ให้การรับรองว่าช่วยลดอันตรายจากการชนได้จริง

นางสาวจันทร์นภา สายสมร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด ตัวแทนจำหน่ายฟิล์มกรองแสงลามิน่าแต่เพียงรายเดียวในประเทศไทย เปิดเผยว่านับตั้งแต่นี้ บริษัทจะทำตลาดสินค้าภายใต้แบรนด์ “ลูม่าร์” (LLumar) อย่างเป็นทางการ สำหรับกลุ่มสินค้าฟิล์มกลุ่มพิเศษ ที่จะทำตลาดแตกต่างจากฟิล์มกรองแสง
สำหรับการเปิดตัวแบรนด์ลูม่าร์ในครั้งนี้ จะทำการตลาดแยกจากแบรนด์ลามิน่าอย่างชัดเจน และจะทำให้สินค้าที่บริหารงานโดยบริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด ประกอบไปด้วยสินค้าในกลุ่มฟิล์มกรองแสงรถยนต์และฟิล์มอาคาร ภายใต้แบรนด์ลามิน่า ขณะที่ลูม่าร์จะเป็นสินค้ากลุ่มพิเศษ ได้แก่ ฟิล์มนิรภัยสำหรับรถยนต์และฟิล์มปกป้องสีรถที่ทำตลาดในปัจจุบัน
“ หลังจากที่เราประสบความสำเร็จในการทำตลาดฟิล์มกรองแสงภายใต้แบรนด์ลามิน่ามายาวนานกว่า 12 ปี ประกอบกับปีนี้เป็นปีที่โรงงานซีพีฟิล์มฉลองครบรอบ 52 ปี เราจึงมีความสนใจที่จะทำตลาดสินค้าในกลุ่มลูม่าร์เพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากโรงงานเดียวกันกับฟิล์มกรองแสงลามิน่า แต่ลูม่าร์จะเป็นสินค้าในหมวดพิเศษเท่านั้น ”
ทั้งนี้ ทั้งลามิน่าและลูม่าร์ผลิตจากโรงงานซีพี ฟิล์มมาตรฐาน ISO 9001 ซึ่งเป็นโรงงานที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา มีการผลิตและจำหน่ายฟิล์มประเภทต่าง ๆ มากมาย ส่งออกกว่า 100 ประเทศทั่วโลก จากการวิเคราะห์สถานการณ์ด้านการตลาด พบว่ามีความเหมาะสมที่จะทำตลาดสินค้าทั้ง 2 กลุ่มไปพร้อม ๆ กันในประเทศไทย ซึ่งเป็นลูกค้ายอดขายสูงสุดติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลกของซีพีฟิล์ม
กรรมการผู้จัดการกล่าวต่อว่า แผนงานหลักในการทำตลาดลูม่าร์ จะเน้นไปที่การทำตลาดฟิล์มนิรภัยสำหรับรถยนต์อย่างจริงจังมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคในเรื่องของการต้องการความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการทำการทดสอบและพบว่าฟิล์มลูม่าร์สามารถช่วยลดอันตรายจากการเกิดอุบัติเหตุได้จริง
ทั้งนี้ ศูนย์การทดสอบรถยนต์เดก้าร์ หรือ DEKRA Automobil Test Center ซึ่งเป็นห้องปฏิบัติการอิสระในการทดสอบรถยนต์ในกรุงเคล็ทท์วิทซ์ ประเทศเยอรมนี ได้ทำการทดสอบเพื่อแสดงให้เห็นถึงการทำงานของฟิล์มในเหตุการณ์การชนกันทางด้านข้าง เปรียบเทียบระหว่างกระจกที่ไม่ได้ติดฟิล์มและกระจกที่ติดฟิล์มลูม่าร์หนา 175 ไมครอน
ผลการทดลองกับกรอบประตูของรถยนต์ออดี้ 80 ที่ความเร็วในการทดสอบ 16 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พบว่ากระจกที่ไม่ได้ติดฟิล์มแตกกระจายและปลิวเข้าสู่หน้าและร่างกายของคนขับ ซึ่งก่อให้เกิดอันตรายอย่างมาก ในขณะที่กระจกด้านที่ติดฟิล์มนิรภัยลูม่าร์ ถูกยึดไว้อย่างสมบูรณ์ ทำให้สามารถลดอันตรายที่เกิดขึ้นกับผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้เป็นอย่างดี
“ที่ผ่านมา ตลาดฟิล์มนิรภัยรถยนต์จะทำตลาดกันที่กลุ่มลูกค้าที่ระวังในเรื่องการทุบรถแล้วขโมยของเท่านั้น ทั้งๆ ที่ฟิล์มนิรภัยมีประโยชน์อย่างมากในการลดอันตรายจากอุบัติเหตุ จากความก้าวหน้าของการวิจัยชี้ให้เห็นถึงผลการชนทางด้านข้าง ซึ่งบ่อยครั้งมีอันตรายต่อชีวิตผู้โดยสารมากกว่าทางด้านหน้า ดังนั้นการป้องกันของฟิล์ม LLumar จะมีบทบาทสำคัญต่อการเพิ่มความปลอดภัยของผู้โดยสาร เมื่อมีผลการทดสอบที่แสดงให้เห็นถึงผลลัพธ์ที่น่าทึ่ง เรื่องความปลอดภัย บริษัทฯ ก็เลยตัดสินใจกลับมาทำตลาดอย่างจริงจัง”
ยังมีรายงานเพิ่มเติมจากองค์การอนามัยโลก ที่คาดการณ์ว่าอุบัติเหตุรถยนต์ชนกัน จะเป็นสาเหตุการบาดเจ็บและเสียชีวิตมากเป็นอันดับสามภายในปี 2020 และการศึกษายังชี้ให้เห็นอีกว่าผลการชนกันทางด้านข้าง ทำให้มีการเสียชีวิตและการบาดเจ็บมากกว่าการชนทางด้านหน้า ซึ่งลูม่าร์จะสามารถเข้ามาช่วยลดความรุนแรงในการเกิดอุบัติเหตุเหล่านี้ได้
คุณสมบัติของฟิล์มนิรภัยลูม่าร์นั้นไม่เพียงแค่ป้องกันผู้โดยสารจากกระจกและเศษที่ปลิวจากอุบัติเหตุ แต่ยังช่วยสนับสนุนการทำงานของระบบถุงลมนิรภัยข้าง โดยช่วยรักษาถุงลมไม่ให้หลุดออกไปภายนอกผ่านกระจกที่แตกกระจาย และยังช่วยป้องกันผู้โดยสารไม่ให้กระเด็นออกนอกตัวรถผ่านทางกระจกที่แตก อันเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตในอุบัติเหตุ และยังช่วยลดความร้อน, ป้องกันรังสี UV เข้ามาสู่ภายในห้องโดยสารอีกด้วย
นางสาวจันทร์นภากล่าวต่อว่า การทำตลาดสินค้าในกลุ่มลูม่าร์นั้น จะผ่านเครือข่ายลามิน่าฟิล์ม เอ็กซ์คลูซีฟ ช็อปทั้ง 50 แห่งทั่วประเทศเท่านั้น เนื่องจากเป็นฟิล์มพิเศษที่ต้องใช้อุปกรณ์และช่างผู้ชำนาญงาน ที่ได้รับการฝึกอบรมจากบริษัทเท่านั้นในการติดตั้ง ซึ่งขณะนี้ก็อยู่ระหว่างการนำเข้าอุปกรณ์และเตรียมความพร้อมของช่างทั้งหมด
ทั้งนี้บริษัทคาดการณ์ว่าสินค้าในกลุ่มลูม่าร์จะได้รับการตอบรับจากตลาดเป็นอย่างดี และน่าจะมีสัดส่วนการจำหน่ายของบริษัทไม่น้อยกว่า 10% ในปีหน้า ซึ่งราคาจำหน่ายพร้อมติดตั้งของฟิล์มนิรภัยต่อคันจะเริ่มที่คันละประมาณ 14,000 บาทเป็นต้นไป ขณะที่ฟิล์มปกป้องสีรถนั้น ก็คาดว่าจะมีความพร้อมในการรุกตลาดอย่างจริงจังในปีหน้าเช่นกัน และในงานไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ เอ็กซ์โปครั้งนี้ ลามิน่าและลูม่าร์ ได้ยกทัพสินค้าและเทคโนโลยีเกี่ยวกับฟิล์มกรองแสงและฟิล์มกลุ่มพิเศษ มาร่วมจัดแสดงบนพื้นที่ 156 ตารางเมตร บู๊ธหมายเลข K02 ในฮอลล์อุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ อาคารชาเลนเจอร์ 3 ซึ่งคาดว่าผู้เข้าชมงานจะให้ความสนใจอย่างมากเช่นเดิม