6 ก.พ. 2551
มาสด้า บีที -50 เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด
20 ก.พ. 2551 แถลงข่าวเปิดตัวโฉมใหม่นี้อย่างเป็นทางการ
มาสด้า บีที-50 ใหม่ ได้รับการพัฒนาขึ้นด้วยแนวคิดหลัก 5 ประการนั่นคือ การออกแบบให้มีรูปลักษณ์ที่สวยงามและทรงพลัง (Stylish and athletic design) เพื่อสร้างเอกลักษณ์อันโดดเด่นอย่างแตกต่าง การใส่ใจในความประณีตทุกรายละเอียด (Craftmanship) เพื่อสร้าง
ความสวยงาม และความพึงพอใจสูงสุดแก่ผู้เป็นเจ้าของ ให้สมรรถนะการขับขี่ที่เป็นเลิศ (Driving performance) ด้วยเครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ ใหม่ล่าสุด ที่ให้ทั้งความแรงและความประหยัดในเวลาเดียวกัน โดดเด่นด้วยให้อรรถประโยชน์ใช้
สอย (Unique features) เพื่อรองรับรูปแบบการใช้งานอันหลากหลายได้อย่างลงตัว และยกระดับความปลอดภัยสูงสุด (Safety level) ให้เหนือกว่ารถกระบะทั่วๆ ไป
เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ครั้งแรกของรถกระบะเมืองไทย
มาสด้า บีที-50 ใหม่ล่าสุด เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิคส์ ครั้งแรกในวงการกระบะเมืองไทย ที่ได้รับการออกแบบให้
ทำงานสอดผสานกับเครื่องยนต์ MZR-CD ดีเซล เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ คอมมอนเรล ช่วยให้การถ่ายทอดกำลังลงสู่ล้อขับเคลื่อนเป็น
ไปอย่างราบรื่นและต่อเนื่อง ตอบสนองได้ทันใจสร้างความเร้าใจในการขับขี่เพื่อให้บรรลุถึงความรู้สึกในแบบ “ซูม ซูม” อย่างแท้จริง อีกทั้ง
ยังช่วยเพิ่มความประหยัดน้ำมันเกินคาด สอดรับกับสภาพการณ์ปัจจุบันได้อย่างดีอีกด้วย
เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ควบคุมอิเล็กทรอนิคส์ ถูกปรับแต่งอัตราทดเกียร์ในลักษณะ ทดชิดกัน หรือ Close-ratio เพื่อให้สามารถถ่ายทอด
แรงบิดจากเครื่องยนต์ในรุ่น MZR-CD 3.0 ลิตร ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดการสูญเสียกำลังในระบบขับเคลื่อน อีกทั้งยังตอบสนองอย่าง
ฉับไว เพื่อการเร่งแซงได้ทันท่วงที และเปี่ยมด้วยสมรรถนะและความทนทาน แม้ในยามเดินทางไกลภายใต้สภาพอากาศที่ร้อนจัด ทั้งยัง
ให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงต่ำเกินคาด มาสด้าเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายแรกในเมืองไทย ที่นำเทคโนโลยีเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด มาติด
ตั้งให้กับมาสด้า บีที-50 เป็นครั้งแรก
เครื่องยนต์
เครื่องยนต์ทั้ง 2 รุ่นนี้ สร้างพละกำลังและแรงบิดมหาศาลตั่งแต่รอบเครื่องยนต์ต่ำๆ และยังคงมีแรงบิดต่อเนื่องเป็นเส้นโค้งจนถึงรอบ
เครื่องยนต์สูงสุด การปรับแต่งสมรรถนะของทั้ง 2 ขุมพลังอยู่บนพื้นฐานของการให้ความสนุกสนานและความเร้าใจในการขับขี่และง่ายต่อ
การควบคุมรถอย่างปลอดภัย
เครื่องยนต์ MZR-CD (WLC) 2.5 ลิตรให้พละกำลังแรงม้าสูงสุดถึง 105 กิโลวัตต์ หรือ 143 แรงม้า (PS) ที่ 3,500 รอบ/นาทีแต่ให้แรงบิดสูงสุดถึง 380 นิวตัน-เมตรที่รอบเครื่องยนต์ต่ำเพียง 1,800 รอบ/นาทีซึ่งถือได้ว่าเป็นเครื่องยนต์ที่แรงที่สุดในตลาดรถกระบะเมืองไทย
เครื่องยนต์ MZR-CD (WEC) 3.0 ลิตร ให้กำลังแรงม้าสูงสุด 115 กิโลวัตต์ หรือ 156 แรงม้า (PS) ที่ 3,200 รอบ/นาที แต่ให้แรงบิด
สูงสุดถึง 380 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800 รอบ/นาทีซึ่งถือว่าเป็นเครื่องยนต์ที่ให้แรงบิดมหาศาลที่สุดในบรรดารถกระบะเมืองไทยระดับเดียวกัน
การออกแบบภายในที่เย้ายวนให้ลองสัมผัส
การออกแบบห้องโดยสารสไตล์สปอร์ตของมาสด้า บีที-50 เปี่ยมด้วยความสวยงามและแฝงไว้ด้วยรสนิยมเฉกเช่นรถเก๋งชั้นดี จนอาจทำ
ให้ผู้ขับขี่ลืมไปว่านั่งอยู่ในรถสปอร์ตปิคอัพ อุปกรณ์ต่างๆ ให้ความเอนกประสงค์สะดวกสบายทุกการเดินทาง ถาดเอนกประสงค์สามารถดึง
เป็นโต๊ะวางของได้พร้อมพื้นที่เก็บของ การตกแต่งภายในห้องโดยสารด้วยสีแบบ ทู-โทน โดยใช้สีเทา เป็นสีโทนหลัก ตัดกับสีเบจประดับ
ด้วยวัสดุสีเงินในจุดต่างๆ ช่วยเน้นให้เห็นถึงรายละเอียด และสร้างความรู้สึกร่วมสมัยให้อารมณ์หรูหราในสไตล์สปอร์ต
ความสะดวกสบายในการใช้งาน เพื่อสร้างประสบการณ์การขับขี่ที่น่าประทับใจ
ชุดเครื่องเสียงในมาสด้า บีที-50 จะติดตั้งวิทยุ AM/FM พร้อมเครื่องเล่นซีดี แบบ 6 แผ่นที่สามารถเล่นแผ่น MP3 ได้ พร้อมลำโพงถึง
6 ตัว ที่ให้คุณภาพเสียงระรื่นโสตสัมผัสกว่ารถกระบะทั่วไป
ระบบช่วงล่าง
ระบบกันสะเทือนหน้าเป็นแบบ อิสระปีกนกคู่ ทอร์ชั่นบาร์พร้อมเหล็กกันโคลง โช้คอัพแบบ 2 จังหวะ และด้านหลังเป็นชุดแหนบแผ่น
ซ้อน พร้อมโช้คอัพแบบ 2 จังหวะไขว้ทแยงมุมที่ถูกพัฒนาขึ้นใหม่ ให้ตอบสนองต่อการขับขี่ได้อย่างนุ่มนวล และยึดเกาะถนนได้ดียิ่งขึ้น โดยยังคงไว้ซึ่งความแข็งแกร่ง ทนทรหดเพื่อการบรรทุก อันเป็นคุณสมบัติอันโดดเด่นในรถปิคอัพมาสด้ารุ่นก่อนๆ
ระบบความปลอดภัยเชิงป้องกัน เพื่อการหลบหลีกอย่างเหนือชั้น
มาสด้า บีที-50 ติดตั้งระบบป้องกันล้อล็อค ABS (Anti Lock Breaking System) และระบบกระจายแรงเบรกตามน้ำหนักบรรทุก EBD (Electronics Break forced Distribution) และวาล์วปรับแรงดันน้ำมันเบรก LSPV เพื่อช่วยผู้ขับขี่ให้สามารถควบคุมรถหลบหลีกสิ่งกีด
ขวางได้อย่างดี ทั้งในทุกสภาพเส้นทางและรูปแบบการบรรทุกนอกจากนี้ยังมีการติดตั้งระบบกุญแจนิรภัย อิมโมบิไลเซอร์ พร้อมสัญญาณ
เตือน เพื่อป้องกันการโจรกรรมและสร้างความอุ่นใจให้กับผู้ขับขี่
ระบบความปลอดภัยเชิงปกป้อง “ถุงลมนิรภัยด้านข้าง รายแรกในรถกระบะเมืองไทย”
เทคโนโลยีด้านระบบความปลอดภัยในเชิงปกป้อง (Passive Safety) ของมาสด้า ได้ผ่านการตรวจสอบและรับรองตามมาตรฐานความ
ปลอดภัยในรถยนต์ ระดับสากลดังนั้นด้วยโครงสร้างเฟรมแชสซีที่แข็งแรก่งโครงสร้างห้องโดยสารนิรภัยแบบ Triple-H รวมถึงคานนิรภัย
ในประตูทุกบาน ทำให้มาสด้า บีที-50 ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยชั้นสูงจากยุโรป
นอกเหนือจากการติดตั้งถุงลมนิรภัยคู่หน้าแล้ว มาสด้ายังถือเป็นรถกระบะญี่ปุ่นรายแรกในเมืองไทย ที่ติดตั้งถุงลมนิรภัยด้านข้างเพื่อการ
ปกป้องผู้โดยสารจากการชนปะทะบริเวณด้านข้างของตัวรถ โดยในรุ่นที่ติดตั้งถุงลมนิรภัย จะถูกติดตั้ง เข็มขัดนิรภัย ลดแรงปะทะและดึง
กลับอัตโนมัติ Pre-tensioner & Load Limiter เพื่อช่วยลดการบาดเจ็บบริเวณหน้าอก และลำตัวในขณะที่ต้องประสบกับแรงเหวี่ยงเมื่อ
เกิดการชน และเสริมการรองรับด้วยเข็มขัดนิรภัยแบบปรับระดับสูงต่ำได้ เพื่อให้รองรับสรีระของผู้ขับขี่ได้ในทุกรูปแบบ และในบางรุ่นจะถูก
ติดตั้งจุดยึดเบาะนิรภัยสำหรับเด็กตามมาตรฐาน ISOFIX เพื่อช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางแก่เด็กที่ยังมีอายุน้อยเกินกว่าจะโดย
สารในเบาะหน้าโดยปราศจากเบาะนิรภัยรองรับ
ข้อมูล : บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด