VOLVO C30 สุดยอด
Small Specialty Cars
วอลโว่ C30 ได้รับการโหวตเป็นอันดับ 1 เรื่องคุณภาพโดยรวมในกลุ่มรถยนต์พิเศษขนาดเล็ก (Small Specialty Cars) ทั้งยังติดท็อปเทนรถยนต์หรูที่ปลดปล่อยมลพิษน้อยที่สุด จากการสำรวจของเว็บไซต์ www.ForbesAuto.com ที่สหรัฐอเมริกา ส่วน วอลโว่ XC60 ได้รับเลือกให้เป็น 1 ในรถยนต์ 51 คันที่มีสิทธิเป็นผู้ชนะรางวัลรถยนต์โลกรถยนต์แห่งปี 2009 (World Car of the Year 2009) ซึ่งจะประกาศผลในเดือนเมษายนปีหน้า
“วอลโว่ C30” ได้รับคะแนนถึง 908 คะแนนจากคะแนนเต็ม 1,000 คะแนนในการสำรวจของ Strategic Vision ซึ่งมีผู้ใช้รถจำนวน 20,655 คนเข้าร่วมตอบแบบสำรวจ จึงทำให้คว้าอันดับ 1 สำหรับกลุ่ม “รถยนต์พิเศษขนาดเล็กราคาไม่เกิน 30,000 ดอลลาร์สหรัฐ” ไปในที่สุด ทั้งนี้ การสำรวจยังพบอีกว่า ผู้ใช้ชื่นชอบสไตล์และคุณภาพของงานดีไซน์ภายนอกของตัวถังรถ รวมถึงสมรรถนะ และความปลอดภัยที่รถยนต์สปอร์ตคูเป้คันนี้มีให้ ทั้งยังพึงพอใจที่วอลโว่ C30 มอบสัมผัสแห่งอิสระและความเป็นตัวของตัวเองให้กับผู้ใช้ ในขณะที่ไม่ลืมเรื่องของความสะดวกสบายในการใช้งาน
“ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่วอลโว่ C30 จะได้รับการโหวตเป็นที่หนึ่งในเรื่องคุณภาพ เพราะนับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในโลก รถยนต์คันนี้ก็กวาดรางวัลในอุตสาหกรรมรถยนต์โลกไปมากมาย ส่วนในประเทศไทย ลูกค้าก็ให้การตอบรับเป็นอย่างดีจนทำยอดขายได้อย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่วางตลาดในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา” มร.พอล สโตคส์ ประธานบริหาร บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
ขณะเดียวกัน วอลโว่ C30 ยังได้รับการโหวตจาก ForbesAutos.com ให้เป็นรถยนต์ที่ปลดปล่อยมลพิษน้อยที่สุดเป็นอันดับ 7 ร่วมกับวอลโว่ S40 และ V50 โดยมีวอลโว่ S60 ได้รับการโหวตอยู่ที่อันดับ 8 ทำให้วอลโว่มีรถยนต์ติดท็อปเทนในการสำรวจหัวข้อนี้มากถึง 4 รุ่นเลยทีเดียว
ส่วน “วอลโว่ XC60” รถยนต์ครอสโอเวอร์รุ่นล่าสุดของวอลโว่ ที่เพิ่งเปิดตัวครั้งแรกในโลกที่งานเจนีวา มอเตอร์โชว์เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และกำลังจะออกวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในยุโรปช่วงปลายปีนี้ เพิ่งได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลรถยนต์โลกแห่งปี 2009 ซึ่งนับว่าเป็นรางวัลที่ทรงเกียรติและได้รับการยอมรับมากที่สุดรางวัลหนึ่งในอุตสาหกรรมรถยนต์โลก
จุดเด่นที่อาจทำให้วอลโว่ XC60 ชนะใจกรรมการและคว้ารางวัลนี้ไปในที่สุด เป็นเพราะระบบความปลอดภัย “City Safety” ที่วอลโว่เพิ่งคิดค้นขึ้นและนำมาติดตั้งในรถยนต์รุ่นนี้เป็นรุ่นแรก ระบบดังกล่าว จะช่วยหลีกเลี่ยงหรือลดความรุนแรงของการชนที่ระดับความเร็วต่ำด้วยการกำหนดให้เบรกทำงานได้เองโดยอัตโนมัติ
“วอลโว่คิดค้นเทคโนโลยีนี้ขึ้น ด้วยเจตนารมณ์ที่ต้องการสร้างสภาพแวดล้อมในการขับขี่ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น รวมถึงสภาวะไร้อุบัติเหตุ (Collision-free Environment) ให้เกิดขึ้นบนท้องถนน ซึ่งเรามุ่งหวังว่า ภายในปีค.ศ.2020 จะไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตในรถยนต์วอลโว่อีกต่อไป” มร.สโตคส์ กล่าวทิ้งท้าย
