3 ก.ค. 2551

จีเอ็มเน็กซ์ สัญลักษณ์แห่งอนาคต


จีเอ็มเน็กซ์ สัญลักษณ์แห่งอนาคต

กรุงเทพ จีเอ็ม คอร์ปอเรชั่น สหรัฐอเมริกาและทั่วโลกฉลองครบรอบ 100 ปีแห่งการเป็นผู้นำการผลิตยานยนต์ เปิดตัว จีเอ็มเน็กซ์ โลโก้จีเอ็มโฉมใหม่ ที่สื่อความหมายแห่งการขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง สะท้อนภาพลักษณ์และวิสัยทัศน์ของจีเอ็มในอีก 100 ปีข้างหน้าอย่างชัดเจน

จีเอ็มเน็กซ์ ได้รับการพัฒนาขึ้นมาในโอกาสที่ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ครบรอบ 100 ปีของการก่อตั้ง เพื่อแสดงให้เห็นวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นในการพัฒนายานยนต์พลังขับเคลื่อนทางเลือกใหม่อย่างไม่หยุดยั้ง ในอีก 100 ปีข้างหน้า แทนที่จะหวนรำลึกถึงความสำเร็จด้านต่างๆ ตลอดศตวรรษที่ผ่านมา เพราะ จีเอ็ม เชื่อว่าความสำเร็จที่ผ่านมาในอดีตนั้น ไม่สำคัญเท่า นวัตกรรมยานยนต์ที่จีเอ็มกำลังจะสร้างและพัฒนาเพื่อทุกคนในอนาคตต่อไป ด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัยไม่ว่าจะเป็นยานยนต์ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ยานยนต์ระบบอีเฟล็ก ยานยนต์ไฮบริดที่สามารถใช้ไฟฟ้าในบ้านเป็นแหล่งพลังงานโดยตรงเพื่อชาร์จแบตเตอรี่ได้ (Plug-in Hybrid) รวมทั้งเทคโนโลยี ฟิว เซล (Fuel Cell) อีกทั้ง จีเอ็มยังมีความตั้งใจตอบแทน และสร้างสรรค์สังคม โดย จีเอ็มเน็กซ์ ยังถูกนำมาใช้เป็นชื่อเว็บไซต์ www.gmnext.com เพื่อเปิดประเด็น จุดประกาย ต่อยอดความคิด เรื่องความสำคัญของสิ่งแวดล้อมของโลกเรา ต่อไป ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งนโยบายหลักของบริษัท จีเอ็ม ทั่วโลก

โลโก้จีเอ็มโฉมใหม่นี้ จีเอ็มเน็กซ์ ยังคงแนวคิด นวัตกรรม ความก้าวหน้า รักษาสิ่งแวดล้อมไว้อย่างชัดเจน โดยยังคงตัวอักษร GM ไว้ในกรอบสี่เหลี่ยมสีน้ำเงินเข้ม ที่สะท้อนภาพลักษณ์ความแข็งแกร่ง คงทนและคลาสสิคของยานยนต์จีเอ็ม โดยลายน้ำบนพื้นหลังที่เพิ่มขึ้นมานั้น ยังสะท้อนให้เห็นถึง ความเคลื่อนไหว และความมีพลัง นอกจากนั้น จีเอ็มยังได้ทำการเพิ่มสัญลักษณ์ ฟอร์เวิร์ด พร้อมตัวอักษร เน็กซ์ ซึ่งสื่อความหมายถึงการก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง การคิดค้น และพัฒนานวัตกรรมยานยนต์แห่งโลกอนาคต อย่างไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม

นอกจากการสื่อถึงการก้าวเข้าสู่ศตวรรษที่สองแล้ว จีเอ็มเน็กซ์ ยังหมายถึงวิสัยทรรศน์หลัก 5 ประการที่จีเอ็มให้ความสำคัญ นั่นก็คือ การออกแบบ เทคโนโลยี สิ่งแวดล้อม แนวคิด และความสะดวก ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือเป็นแนวทางการผลิตยานยนต์ที่สามารถใช้พลังงานทางเลือกได้ของจีเอ็ม เพื่อชีวิตที่สะดวกสบายขึ้นของทุกคนในโลก

จีเอ็มเน็กซ์ คือสัญลักษณ์แห่งอนาคต ที่สะท้อนการเริ่มต้นศตวรรษใหม่ ของ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส สถาบันยานยนต์ที่ให้พันธะสัญญาต่อโลกและทุกคนในการมุ่งมั่น พัฒนา ประดิษฐ์และคิดค้นทุกเทคโนโลยีด้านยานยนต์แห่งโลกอนาคตให้เป็นจริง

จีเอ็ม เริ่มต้นขึ้น โดยการนำของ วิลเลียม คราโป ดูแรนท์ (William Crapo Durant) เจ้าของบริษัทผลิตรถม้า ดูแรนท์ ดอร์ท แคร์ริเอจ (Durant-Dort Carriage Company) ผู้ที่เข้ามาถือครองบริษัทรถยนต์บิวอิก (Buick) พร้อมก่อตั้งบริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (General Motors Company) เมื่อวันที่ 16 กันยายน 1908 บิวอิก (Buick)” คือ แบรนด์แรกที่เข้ามาอยู่ในจีเอ็ม ตามมาด้วย โอลด์สโมบิล (Oldsmobile)” พอนติแอค (Pontiac)” คาดิลแล็ค (Cadillac)” เป็นสมาชิกรายที่สี่ของจีเอ็ม ในปี 1909 ก่อนจะมาถึงแบรนด์จีเอ็มซี (GMC)” และ เชฟโรเลต (Chevrolet)” รถยนต์ที่วางจำหน่ายอยู่ทั่วโลกในปัจจุบัน ซึ่งตั้งตามชื่อของหลุยส์ เชฟโรเลต (Louise Chevrolet) นักแข่งรถชื่อดังแห่งยุคเชื้อสายสวิส

บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เป็นบริษัทหนึ่งในเครือของ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น (จีเอ็ม) สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นบริษัทอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก จีเอ็ม ประเทศไทย ก่อตั้งเมื่อปี 2536 และเริ่มก่อสร้างศูนย์การผลิตรถยนต์ เมื่อปลายปี 2539 ภายในนิคมอุตสาหกรรม อีสเทิร์น ซีบอร์ด จังหวัดระยอง ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ถ่ายทอดมาจากศูนย์การผลิตรถยนต์ เจนเนอรัล มอเตอร์ส ที่เมืองไอเซนนาร์ค ประเทศเยอรมนี ซึ่งได้ชื่อว่า เป็นศูนย์การผลิตที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุด แห่งหนึ่งของโลก นั่นทำให้ศูนย์การผลิตรถยนต์ จีเอ็ม ประเทศไทย เป็นศูนย์การผลิตที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย ในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิคและของโลก ในการผลิตรถยนต์ เชฟโรเลต และแบรนด์อื่นๆ ของจีเอ็ม สำหรับจำหน่ายในประเทศ และส่งออกไปจำหน่ายทั่วโลก (www.gmthailand.com)

บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น สหรัฐอเมริกา (General Motors Corporations: GM) บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลก เป็นผู้นำด้านยอดจำหน่ายรถยนต์ทั่วโลกถึง 76 ปี ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2451 ปัจจุบันมีพนักงานทั่วโลกกว่า 280,000 คน โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ณ เมืองดีทรอยต์ สหรัฐอเมริกา และมีศูนย์การผลิตรถยนต์และรถกระบะใน 33 ประเทศ ในปี 2550 จีเอ็มจำหน่ายรถยนต์และรถกระบะไปกว่า 9.3 ล้านคัน ภายใต้แบรนด์ บูอิค (Buick) คาดิแลค (Cadillac) เชฟโรเลต (Chevrolet) จีเอ็มซี (GMC) โฮลเด้น (Holden) ฮัมเมอร์ (Hummer) โอลสโมบิล (Oldsmobile) โอเปิล (Opel) พอนทิแอค (Pontiac) ซาบ (Saab) แซเทิร์น (Saturn) และว็อกซ์ฮอล (Vauxhall) นอกจากนั้น ระบบนำทางและขอความช่วยเหลือด้วยสัญญาณดาวเทียม ออนสตาร์ (OnStar) ของจีเอ็ม ทำให้จีเอ็มกลายเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์ด้านความปลอดภัยและบริการด้านข้อมูลอีกด้วย (www.gm.com)