2 ก.ค. 2550

เยือนถิ่นสึนามิ เจอแต่หมาตัวโต กับโลมาสีขาวเป็นฝูง








(บันทึกหลังกลับจากคาราวาน สุราษฎร์-ภูเก็ต เมื่อเวลาบ่ายสี่โมง วันที่ 1 ก.ค. 2550)

เช้าวันนี้ตื่นมาอาบน้ำอุ่นคลายเมื่อยจากการเดินทาง สุราษฎร์ธานี-ภูเก็ต หลายชั่วโมง

ผ่านเขื่อนเชี่ยวหลาน ผ่านเทือกเขาสกดินแดนแห่งต้นไม้ประหลาด มีใบบอนโต กว้างเป็นวา

ช่วงเจ็ดโมงครึ่งถึงเก้าโมง ได้เดินจากโรงแรมป่าตอง พารากอน โอเต็ล ตรงหัวมุมสามแยกที่จะเข้าหาดป่าตอง

มองจากห้องพักก็เห็นทะเล

เดินสำรวจไปเรื่อย ๆ ผู้คนยังเบาบาง มีนักวิ่งทั้งไทย ฝรั่ง ประปราย ผ่านรูปปั้นหมาสีเนื้อตัวโต ที่เด็ก ๆ ชอบแวะทักทาย จนเกือบ ๆ สุดหาดที่ลานเอนกประสงค์มีรูปปั้นโลมาฝูงใหญ่กำลังเล่นน้ำในท่ากระโดดอย่างเริงรื่นอยู่บนลานที่มีทางเดินลอด เลี้ยวไปมา

โลมาเหล่านี้เป็นไฟเบอร์กลาสสีขาว มีลวดลายเมื่อมองใกล้ ๆ เคาะดังก๊อก ๆ ป๊อง ๆ โป๊ง ๆ

เดินไปเรื่อยจนเหงือซึม ไปเจอฝูงหมาพันธุ์ดุกรามใหญ่ ๆ เป็นหัวหน้า รุมกัดหมาไทยตัวผอม ๆ ท่ีชายหาด

มันตั้งหน้าตั้งตาฟัดสบัด กัดคอไม่ปล่อย แม้หมาไทยจะพยายามดิ้นหนีลงน้ำทะเล มันก็ตามลงไปกัดจนแน่นื่งไปเป็นพัก ๆ แล้วก็โผล่ขึ้นมาจากน้ำ นานหลายนาที จนคิดว่ามันคงตายแน่ ๆ

มันดูช้าเหมือนเวลาผ่านไปเป็นปี ๆ ...นี่เป็นความรู้สึกแห่งความเป็นความตาย !!

นานกว่าการไล่ล่าที่เคยเห็นในสารคดีชีวิตสัตว์ซาฟารีซะอีก

ทำให้นักท่องเที่ยวหลายคนช่วยกันเอาไม้ยาว ๆ ไปทิ่ม ๆ ดัน ๆ ตรงปากไอ้กรามใหญ่ หมาหน้าดุพันธุ์ท่ีเขาเอาไว้แข่งกัดกันในต่างประเทศ ท่ีมีข่าวชอบกัดเด็ก ๆ นั่นแหละ

มันยังไม่ยอมปล่อย ท่ามกลางเกรียวคลื่นโถมทับต่อเนื่อง มันเป็นนักฆ่าท่ีไม่สนใจว่าขณะนั้นกำลังอยู่ในน้ำทะเล

กัดคอแน่นแบบสิงห์โตล่าเนื้อไม่ผิดเพี้ยน

ผมได้ถ่ายภาพเป็นวีดีโอไว้ตั้งแต่เริ่มแรก จนฝรั่งนักวิ่งเอาไม้ค้ำต้นไม้ใหญ่ยาวสามเมตรไปช่วยไล่มันจึงยอมผละจากกัน

หมาไทยไม่ตายแฮะ ยืนทำสะลึมสะลือ แล้วก็เดินขึ้นจากคลื่นทะเลพ้นจากเขี้ยวเจ้ากรามใหญ่ได้สำเร็จ

เป็นความโหดน้อย ๆ ริมหาดป่าตอง ในเช้าวันนี้

แต่ความโหดนี้หรือจะสู้คลื่นยักษ์สึนามิ ท่ีเคยคร่าชีวิตผู้คนแบบกัดไม่ปล่อยทั้งฝรั่งและคนเอเชียหลายชาติ บ้างก็สาบสูญไป หลายร้อยศพไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นใครมาจากไหน !!

ที่ชายหาดมีป้ายเตือน ชี้ทางหนีขึ้นเขาเป็นระยะ ๆ มีหอควบคุม มีธง ซึ่งวันนี้เป็นธงแดง คลื่นแรง ห้ามเล่นน้ำ

มองไปรอบ ๆ รู้สึกวังแวง ผมนั่งลงที่เวทียกสูงตรงลานเอนกประสงค์ใกล้ ๆ ฝูงโลมา ผมเปิดภาพวีดีโอคลิปการต่อสู้เมื่อสักพักดู เช็คดูแล้วมันเหี้ยมโหดเกินไป จึงลบทิ้งที่ชายหาดป่าตองนั้นเอง

ความรู้สึกนั้นเกิดขึ้นกระทันหันทันที

เหมือนความรู้สึกที่อยากลบชื่อมนุษย์บางคนที่อมเงินช่วยเหลือสึนามิ ที่ฝรั่งเป็นสิบ ๆ ชาติกำลังโมโหโกรธาอยู่ขณะนี้

บริเวณหาดป่าตองยามเช้าอย่างวันนี้ อากาศทึบ ๆ ทึม ๆ ตามอิทธิพลลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ท่ีกำลังพัดผ่าน

หาดป่าตองวันนี้แม้ได้ปรับเปลี่ยนหน้าตาไปมากไม่รุงรังเหมือนช่วงก่อนคลื่นยักษืเข้าถล่ม ดูน่าจะสดใส แต่มันก็ยังมีความซึมเศร้าปะปนอยู่

ที่ซึ่งคลื่นเคยโถมทับพัดพานักท่องเที่ยวตายไปเป็นร้อย ๆ ยามสาย ๆ ถึงเย็นย่ำอาจจะคึกคักขึ้นบ้าง

หากไม่อยากให้เหตุร้ายอย่างสึนามิเกิดขึ้นอีก เวลาไปเที่ยวอันดามันก็ดู ๆ รายงานข่าว แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิดไว้บ้าง

จะได้ไม่เสียท่าเจ้าสึนามิ เหมือนไอ้ด่างพันธุ์ไทยตัวจ้อย ท่ีเกือบเสียท่าไอ้กรามหนาในเช้าวันนี้

เพราะคลื่นสึนามิ มันมาแล้ว ไม่มีใครช่วยใครได้ครับ !!