เกียร์ทริปโทรนิค ระบบเฉลี่ยแรงขับจาก 2 ล้อหน้ายามอยู่บนทางเรียบแห้งตรง กับขับ 4 ล้อ เมื่อทางลื่น ล้อด้านซ้าย-ขวา หน้า-หลัง อยู่ บนพื้นที่มีควมผืดแตกต่างกัน ระบบควบคุมการขับเคลื่อน 4 ล้อ ยังมีการเฉลี่ยแรงขับหนา/หลังที่แตกต่างหลายระดับ เมื่อ เกิดการลื่น จากกรวด โคลน หรือหิมะ แม้แต้บนพื้นลื่นมาก ๆ ที่มีน้ำแข็งจับก็อาจฝ่าไปได้
****************************************************
เฉพาะการควบคุมจากคนขับ ไม่นับระบบที่ทำงานโดยอัตโนมัติหลายจุด ตามรายละเอียดทางเทคนิกที่นำเสนอไปแล้ว ซึ่งซับซ้อน เข้าข่ายแมนอลซ่อมรถเลยทีเดียว คงละไว้ เอาที่เห็น ๆ จับกด-ปิด-เลื่อน ปรับเปลี่ยนโดยคนขับกันก่อน
เกียร์ทริปโทรนิค 5 สปีด หากอยู่ที่ตำแหน่ง D มันก็เปลี่ยนเกียร์ให้ตามความเหมาะสม เมื่อต้องการเร่งแซงก็กดคันเร่งลงไปเหมือนรถเกียร์อัตโนมัติทั่วไป เพียงแต่แคบติวา รอบเครื่องตอบสนองฉับไว เพียง 136 แรง ม้า ที่แจ้งไว้ เหมือนมันจะมากกว่า ด้วยอัตราทดที่พอเหมาะพอเจาะ จึงทำให้พุ่งไปข้างหน้าอย่างทันใจ
ในตำแหน่ง D ในความเร็วสูงบนทางเรียบ หาเลื่อนไปด้านซ้ายสู่ระบบเปลี่ยนเกียร์เองโดยคนขับ ก็จะอยู่ในตำแหน่ง 5 เมื่อความเร็วลดลงเรื่อย ๆ ถึงหยุดมันจะอยู่ที่ตำแหน่งเกียร์ 2 หากจะออกตัวในแบบเปลี่ยนเกียร์เองก็ควรขยับลงมาทางเครื่องหมายลบ จะเป็นเกียร์ 1 และต้องเลื่อนขึ้นเรื่อย ๆ ตามความเหมาะสม คือความเร็วและรอบเครื่องยนต์ จาก 2-3-4 มันจะเปลี่ยนได้เรื่อย ๆ แต่หากความเร็วยังต่ำอยู่ระบบควบคุมจะไม่ยอมให้เลื่อนเป็น 5 ต้องเหยียบคันเร่งขึ้นไปอีกจึงยอม
เป็นการป้องกันไม่ให้เข้าเกียร์ ที่มีอัตราทดต่ำ ๆ ในรอบเครื่องต่ำ ที่มีแรงบิดน้อนเกินไป เผื่อมีเหตุฉุกเฉินเหยียบเร่งไปจะไม่พ้น ไม่ทันการ
แรก ๆ อาจมีการลืมเปลี่ยนเกียร์อาจคาที่ 3 นานเกินไป เนื่องจากเครื่องเรียบ เงียบมากนั่นเอง
ระบบทริปโทรนิคที่เลื่อนปรับตำแหน่งเกียร์ด้วยคนขับ มีข้อดีที่สามารถใช้เป็นเอนจิ้นเบรกได้ยามฉุกเฉิน และเมื่อขับในทางโค้งขึ้นเขา ลงเขาก็ช่วยหน่วง เพิ่มความมั่นใจได้โดยลงมาที่ตำแหน่ง 2 หรือ 3
ระบบเกียร์เมื่อทำงานร่วมกับระบบช่วยเสริมการทรงตัว ไม่ว่าจะเป็นระบบเฉลี่ยแรงเบรก ระบบปรับความสูง ระบบกันพลิกคว่ำ ที่มีการหน่วงลดแรงบิด แรงขับจากเครื่องยนต์ ทำให้แคบติวามีความแตกต่างจากรถ เอสยูวี ในช่วงราคา ล้านครึ่งไปได้ชัดเจนมาก
ขณะขับทางไกลได้พบเห็นรถเอสยูวี หลากหลายยี่ห้อ หลายขนาดวิ่งไปต่างจังหวัด แสดงให้เห็นว่าผู้ใช้เลือกซื้อรถประเภทนี้มากขึ้น
แม้จะติดขัดเรื่องอัตราความสิ้นเปลืองบ้างแต่เมื่อคำนึงถึงความโอ่โถงกว้างขวางสะดวกสบาย และความมั่นคงปลอดภัยในทุกสภาพเส้นทางแล้ว รถเอสยูวีทั้งหลาย โดบเฉพาะแคบติวา นับว่าคุ้ม
การควบคุมสวิทช์ที่รวมหัวกันอยู่รอบ ๆ พวงมาลัย ก้านสวิทช์ด้านซ้าย ไฟหน้าสามารถปรับเปลี่ยนแบบออโต้ คือเมื่อสลัว ๆ จะเปิดไฟเอง และเมื่อสว่างก็ดับเอง เช่นขับเข้าอุโมงค์ หรือแม้แต่ฝนตำฟ้าคนองมันก็เปิดเอง เมื่อแสงสภาพเปลี่ยนมัวซัวลง
สวิทช์ไฟเลี้ยวอยู่ก้านด้านซ้าย รวมทั้งไฟหรี่ ไฟสปอตไลท์ด้วย
ก้านสวิทช์ด้านขวา รวมเอาระบบควบคุมปัดน้ำฝน ทั้งหน้า-หลัง ไว้ หากปรับเป็นอัตโนมัติ เมื่อฝนมามันจะเปิดเอง เมื่อฝนหนักมันจะเร่งสปีดได้เอง
วันอาทิตย์ที่ 8 ก.ค. 2550 ช่วงกลับจากปราจีนบุรี เข้ามาทางบางขนาก เมื่อึงบางขนากเจอกฝนพายุอย่างแรง หนักมากทั้งลมแรงมาก เมื่อเปิดไฟสปอตไลน์แล้วเห็นทางได้ชัดเจน ช่วงนั่นมืดแล่้ว ไฟหน้าที่ปรับออโตเปิดเองเมื่อมือฟ้ามัวฝน ก่อนค่ำด้วยซ้ำ
เมื่อฝนกระโชกแรง ปัดน้ำฝนมันก็ปรับสปีดได้เอง ตามความแรงของฝน
นี่แจ๋วจริืง ๆ
หรือจะปรับเป็นแบบธรรมดาที่ควบคุมด้วยมือก็ได้ หลังจากทำความคุ้นเคยสักพักก็จะใช้ได้คล่องแคล่ว
แรก ๆ อาจปรับผิด ๆ ถูก ๆ บ้างเป็นธรรมดา
สำหรับระบบควบคุมแอร์ ควบคุมอากาศจากภายนอก หรือกั้นสกัดไม่ให้กลิ่นต่าง ๆ เข้ามาในรถก็ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อปิดไม่ให้สภาวะแวดล้อมที่กลิ่นไม่ดีเข้ามา มันก็ป้องกันได้จริง ๆ
โมดควบคุม สามารถเร่งแบบออโต้ เช่นอากาศร้อนมาก หรือตากแตกอยู่นาน เมื่อขึ้นขับก็ปรับอุณหภูมิไปที่low และสปีดพัดลมปรับไปที่ออโต้ มันก็จะเร่งทำงานเสียงค่อยข้างดัง เพื่อขับไล่ดูดศซับความร้อนในห้องโดยสารให้หมดไปโดยเร็ว
ในกรณีดากแดดนาน ๆ ก็ต้องเปิดกระจกซ้ายขวา ช่วยสักครู่ขับไปสักประเดี๋ยวให้อากาศร้อนจัดออกไปให้หมดก่อน เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดี เย็นสบาย เมื่อเย็นลงมันก็เบาแรงลมลง เงียบลงเรื่อย ๆ
เมื่อเป็นที่พอใจแล้วก็อาจปรับอุณหูมิเป็น 21 องศา กำลัง ๆ สบาย ๆ แล้วอาจยังคงอยู่ที่ออโต้ให้มันทำงานควบคุมอุณหภูมไปตลอดการเดินทางก็ได้
สำหรับทิศทางการพ่นลมเย็นนั้นสามารถเลือกได้ ทั้งบน ล่าง หรือรวมทั้งสองจุด
แคบติวา มีระบบคอมเพรสเซอร์ 2 ตัว เมื่อมีคนนั่งเบาะหลังสุด เมื่อกดเปิดคอมเพรสเซอร์สำหรับที่นั่งหลัง ก็สามารถควบคุมแรงลม และความเย็นแยกเป้นเอกเทศ
ไม่ต้องห่วงคนนั่งหลังว่าเย็นหรือไม่
เมื่อจอดรถในเวลากลางคือ ไฟจะเปิดสักพัก แล้วจะดับไปเอง
******************************************
ระบบเหล่านี้เป็นสิ่งเพิ่มประสิทธิภาพการเดินทาง เพิ่มความปลอดภัย เนื่องจากผู้ใช้รถทั่วไปไม่ใช่นักขับรถแข่งที่มีทักษะในการเข้าโค้งแบบต่าง ๆ เป็นอย่างดี
เมื่อขับไม่เก่งกาจ ผู้ออกแบบแคบติวา ก็จัดให้
*****************************************
ระบบที่อยากพูดถึงต่อไปคือกุญแจแบบอิมโมบิไลเซอร์ ที่เข้าโค๊ตอีเล็คทรอนิคสู่ระบบควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ เป็นระบบป้องกันการโจรกรรมได้ดี คือทำกุญแจเหมือนกันก็สตาร์ตไม่ได้
ระบบควบคุมเปิดล็อครอบคันด้วยรีโหมดจากกุญแจสามรารถควบคุมระยะไกลได้ประมาณ 99 ก้าวย่างแบบธรมดา ๆ หรือ 50 เมตรก่อนถึงตังรถได้แน่นอน เพราะทดลองมาแล้ว โดยกดไปเรื่อย ๆ ขณะเดินเข้าหารถ เมื่อมันส่งสัญญาณไฟกระพริบก็เริ่มนับก้าว นับ ได้ 99 ก้าวย่างพอดี ๆ
ระบบควบคุมการเลื่อน หรือการล็อกประตู และกระจกประตูอยู่ข้าง ๆ คนขับ ระบบเลื่อนกระจกประตูหน้าด้ายคนขับสามารถเลื่อนลงอัตโนมัติได้ แต่มีเซพตี้เมื่อกดเลื่อนขึ้นจะไม่อัตโนมัติ ป้องกันกระจกงับเด็กๆ จาดเจ็บ หรือเคราะห์ร้ายอาจงับคอเอาได้
กระจกหลัง สามารถเปิดขึ้นได้เอกเทศจากประตูท้ายแบบยกขึ้นด้านบน เพื่อหยิบของเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ดดยไม่ต้องเปิดประตูท้ายขึ้นใมห้เสียเวลา
ระบบเตือนเมื่อถอยหลังเข้าหากำแพงหรือสิ่งกีดขวาง มันจะส่งเสียงปี๊บ ๆ ๆ ดัง และถี่ขึ้นเมื่อเข้าใกล้เกินไป
ระบบครุยส์คอนโทรล ปรับได้ที่ด้านขวาของวงแป้นพวงมาลัย สามรถเซ็ทความเร็วที่ต้องการให้คงที่ได้ เมื่อขับยาว ๆ หากจะเลิกให้ กดกดตรงปุ่งกลาง หรือจะเซ็ทความเร็วใหม่ก็ทำได้อย่างง่ายดาย ด้วยสามัญสำนึกความรู้สึกธรรมดา ๆ โดยไม่ต้องดูคู่มือก็ได้
แป้นควบคุมด้านซ้ายเป็นชุดควบคุมระบบเสื่องเสียง มีงัดขึ้นเร่งเสียง-ลดเสียง เป็นสวิทช?แยกเอกเทศ แอบซ่อนอยู่ใต้สวิทช์ เพาเวอร์ โหมด และสวิทช?ค้นหา ก็คุ้น ๆ กันพอสมควร ไม่ยุ่งยากอะไร
หรือจะควบคุมที่เคื่องที่ตัวฟร้อนท์ของเครื่องเสียงเลยก็ได้ แต่ในความเร็วสูงหรือขณะเดินทางไกลควรควบคุมจากสวิทช์ที่พวงมาลัย
เมื่อจะเติมน้ำมันฝาครอบจะสามารถเปิดได้เมื่อปลดล็อค หรือรถอยู่ในตำแหน่งปลดล็อค ฝาถึงเปิดได้เลย
ไม่ต้องก้มลงดึง หรือกดปุ่ม หรือใช้กุญแจเปิดฝาครอบถังน้ำมันครับ
จีเอ็มเจาะจงว่าให้ใช้ซูเปร์ 95 แบบไหนก็ได้ แกสโซฮอล์กับไม่แก๊สโซฮอล์ก็ขับเหมือนกันตรับ
***********************************
