11 ก.ค. 2550
CAPTIVA วิ่งทางไกลเดินทางสนุกเร้าใจ
หลังจากปลดปล่อยแคบติวา ออกจากการจารจรติดขัดหนาแน่นในเขตกรุงเทพฯและชานเมืองได้วันครึ่งก็ถึงทีต้องไปทางไกลกันบ้าง
จากบางกะปิ ขึ้นทางมอเตอร์เวย์ไปลงสุดทางที่พหลโยธิน
ตรงไปสระบุรี เลี้ยวขวาไปปากช่อง ขึ้นเขาใหญ่ไปลงปราจีนบุรี
รวมทั้งสินเกือบ 800 กิโลเมตร
แรกสัมผัสบนถนนในกรุงเทพฯตั้งแต่บ่ายวันที่ 6 ก.ค.2550 ที่รถติดหนัก เนื่องจากเป็นวันศุกร์ต้นเดือน ขับวนเวียนอยู่ ประมาณ 4 ชั่วโมง ไม่ถึงร้อยกิโลเมตร เพราะค่อย ๆ ขยับเป็นช่วง ๆ
อัตราความสิ้นเปลืองตามเกจ์วัดยังอยู่ที่ 11.9 ลิตร/100 กิโลเมตร หรือประมาณ 8.4 กิโลเมตร/ลิตร
เมื่อออกสู่ทางเรียบโล่งในความเร็วเฉลี่ย 100-120 กม./ชม. อัตราความสิ้นเปลือง ขยับเป็น 11.6ลิตร/100 กิโลเมตร หรือ 8.6 กิโลเมตร/ลิตร
เมื่อไฟเตือนให้เติมน้ำมันช่วงเลยสระบุรีย่านโรงงานปูนซีเมนต์ เติมไป 500 บาท ด้วยเบ็นซิน 95 ตามสเปค ประมาณ 17 ลิตร วิ่งข้ามเขาใหญ่ไปเติมที่ปราจีนบุรี เมือไฟเตินเริมแสดงก่อนถึงด้านทางลงเขาใหญ่
เติมไป 500 บาท 18.4 ลิตรกว่า ๆ ลองดูที่ทริปมิเตอร์ที่เซ็ทไว้ตอนเติม 500 แรก ผ่านมาได้ 142.9 กิโลเมตร เมื่อเฉลี่ยค่าออกมาก็มีอัตราความสิ้นเปลืองช่วงนี้ประมาณ 7.76 กิโลเมตร/ลิตร กินมากกว่าทางเรียบ เป็นธรรมดา
***************************************
เนื่องจากการเซ็ทระบบช่วงล่างแบบหนักแน่น ไม่ได้นุ่มนิ่มแบบรถปิคอัพ 4 ประตู ขับเคลื่อน 4 ล้อ หลายรุ่นหลายยี่ห้อ ที่พยามยามเอาใจผู้ใช้รถบางกลุ่มที่ต้องการรถลุยแต่นิ่มมากระดับรถเก๋ง
แต่แคบติว่าไม่ใช่แบบนี้น
แคบติวา เป็นรถเอสยูวี แท้ ที่บึกบึน หรือค่อนข้างแมนเต็มตัว แต่ไม่กระโดดจนเมื่อยแบบรถ 4x4 แท้ ๆ
แคบติวา เดินทางบนถนนเรียบได้ใกล้เคียงรถเก๋ง แต่มาดการควบคุมรถแตกต่างด้วยความสูงของมุมมอง โดยเฉพาะเมื่อพยายามปรับเบาะให้สูงขึ้น เพื่อให้ได้ตำแหน่งตามมาตรฐานการขับแบบแอ๊ดวานซ์ ที่ต้องให้ช่วงขา ช่วงลำตัว ช่วงแขน และช่วงว่างเหนือศีรษะไกล้เคียงหนึ่งฝ่ามือ ในเมื่อหลังคาสูง คนร่างสูง 175 ซม. อย่างผมเมื่อปรับเบาะสูงสุด แล้วยังเหลือ เกือบสองฝ่ามือ
หากปรับเบาะต่ำมุมหน้าซ้ายจะมองไม่เห็น หากไม่คุ้นเคยอาจมีปัญหาเรื่องการกะระยะได้
แต่ด้านข้างซ้าย-ขวา มีกระจกมองข้างกว้างแบบปรับด้วยไฟฟ้าอยู่ด้านขวาข้าง ๆ แกนพวงมาลัย จึงหมดปปัญหารื่องมุมมองสองข้างไป ติดขัดที่กระจกมองหลังมุมแคบไปหน่อย รู้สึกอึดอัดบ้างเมื่อมองไปที่กระจกส่องหลัง ดีที่มีเซ็นเซอร์ท้ายช่วยให้ถอยจอดได้ปลอยภัย
แคบติวา เป็นรถชอบความปลอดภัย ขับไปสักครู่เมื่อไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย สัญญาณเตินเป็นเสียงก็จะดังตลอด มีไฟโชว์ที่หน้าปัด แต่ไม่กระพริบ
ระบบช่วงล่าง แข็งแรงมาก เมื่อขึ้นฮอยท์ดู ดูแน่นหนาบึกบึนจริง ๆ ช่วงใต้เครื่องยนต์ และห้องเกียร์น่าจะมีแผ่นกันกระแทก ดูโล่งไปหน่อย
บนทางโค้งเขาใหญ่ช่วงทางขึ้นด้านปากช่อง สามารถไปได้อย่างเฉียบ ไม่มีการถลา เข้าหาภูเขา อย่างที่เคยมีพรรคพวกทดสอบรถเอสยูวียี่ห้อหนึ่งชนเขามาแล้วตรงปลายโค้งที่ซิกแซกไปมาเกือบตลอด
แคบติวา ไปได้ด้วยระบบช่วยการทรงตัว ที่ทำงานได้ผลจริง ๆ