21 ก.ค. 2550
มีคนเหาะข้ามรถทดสอบ
หลายปีมาแล้ว เพื่อนรุ่นพี่ท่านหนึ่งได้สร้างรถสปอร์ตไฟเบอร์กลาส ใส่เครื่องซูบารุ แต่ขับล้อหลัง หน้าตากระเดียดไปทางโลตัส เอสปริท แถมทำสีเหมือนกันอย่างกะแกะ ช่วงที่พัฒนานั้นก็ช่วยกันลุ้น ช่วยกันคิด และได้ทดสอบเป็นระยะ ๆ จนกระทั่งสามารถขายได้หลายคัน ในชื่อแอททัม (ATTAM) ผู้สร้างชื่อแอ็ทครับ (แอ็ททำ...เอง..) !!
อยู่มาวันหนึ่งได้ออกรุ่นใหม่ แบบเปิดประทุน สีแดงตามเดิม ก็เอาไปลองขับ วางเครื่องซูบารุ บ๊อกเซอร์ 4 สูบ ทวินเทอร์โบ แรงน่าดู ตัวถังก็เบาอยู่แล้ว
ผมขับเข้าไปที่ซาฟารีเวิร์ลด ตั้งแต่ช่วงเย็น ๆ มีช่างเครื่องนั่งไปด้วย เหมือนเครื่องบินเปี๊ยบเลย
ไปถ่ายรูปที่ลานจอดรถ ตอนนั้นเพิ่งเปิดใหม่ ๆ ยังไม่ค่อยมีคนไป
มันว่างโล่งดีจริง ๆ ถนนเข้าออกก็กว้าง
ขากลับมืดแล้ว ช่างเครื่องบอกว่าลองเบรกแรง ๆ ดูซิ
ว่าแล้วช่วงกลาง ๆ ทาง ถนนโล่ง ๆ ผมก็เบรกเต็มที่ ปรากฎว่ารถเครื่องดับ
ช่วงที่ก้ม ๆ เงย ๆ จะสตาร์ตเครื่องใหม่นั่นเอง เป็นช่วงที่ปิดสวิทช์ เตรียมจะหมุนกุญแจ ท่ามกลางความมืด ถนนไม่มีไฟฟ้า
ทันใดนั้นเอง ก็มีเสียงดังโครมที่ท้ายรถ เป็นจังหวะเดียวกับที่เครื่องยนต์ติด และเปิดไฟ ช่างพอดีจริง ๆ
ผมเห็นยอดมนุษย์ลอยละลิ่วข้ามรถ ไปหล่นอยู่ตรงหน้ารถห่างออกไปสัก 3 เมตร
จ้องดูไม่ใช่มนุษย์ต่างดาวที่ไหน แต่เป็นเด็กวัยรุ่นขี่มอเตอร์ไซค์ ไม่มีไฟหน้า แบบบิดมาสุด ๆ เช่นกัน มาชนเอารถไฟเบอร์กลาส เครื่องวางหลัง ขับล้อหลังอย่างจัง
ด้วยความแข็งแรงของโครงสร้าง ปรากฎว่าเครื่องยังเดินได้
ผมให้ช่างขับพาเด็กไปโรงพยาบาล
ไปจอดที่ปากทาง เพราะไฟช๊อต สายไฟไหม้ที่ห้องเครื่อง ไปไม่ได้ ก็มีตำรวจมาช่วยส่งต่อ
ผมก็ต้องไปรายงานที่โรงพักคันนายาว
มีทนายไปด้วย
แค่บาดเจ็บ และรถมอเตอร์ไซค์ล้อพับเป็นเลข 8 กองอยู่กับที่ คนขับไม่มีอะไรหัก แปลกจริง ๆ
ไฟเบอร์มันยุบ และซับแรงกระแทกไว้ได้มาก
ดีที่เป็นหุ่นโลตัสสปอร์ตเปิดประทุน มันเตี้ยมากครับ
จึงรอดตาย และผมรอดคุกด้วย