23 มิ.ย. 2550

เมื่อ มร.วิลเลี่ยม บอทวิค ต้องอำลา






ระหว่างเวลาพักรับประทานมื้อเที่ยง ที่ศูนย์การผลิตรถยนต์ เจนเนอรัล มอเตอร์ส ประเทศไทย จังหวัดระยอง จู่ ๆ มร.วิลเลี่ยม บอทวิค ก็ขึ้นไปบนเวที พร้อมกับคุณชาติชาย สุวรรณเสวก(ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์) เพื่อประกาศอำลาจากจีเอ็มประเทศไทย เพื่อไปรับตำแหน่งใหม่ที่เซียงไฮ้ ด้วยความผูกพันกับสื่อมวลชนสายรถยนต์มานาน ตั้งแต่โรงงานเพิ่งเริ่มสร้าง จนเชพโรเลท เป็นที่รู้จักสำหรับผู้ใช้รถยนต์เมืองไทย มีส่วนแบ่งการตลาดที่น่าพอใจ คุณวิลเลี่ยม บอทวิค จึงพูดด้วยสุ้มเสียงเศร้านิด ๆ แล้วก็โบกมืออำลา

สื่อทั้งหลายได้ขอถ่ายภาพกับรถแคปติวาไว้เป็นประวัติศาสตร์ เพราะวันเดียวกันบุรุษร่างเล็กคนนี้เป็นผู้ประกาศก้องปล่อยรถ แคปติวา คันแรกจากสายพานการผลิต และในวันเดียวกันหลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงเขาก็ได้ประกาศอำลา

ผู้สื่อข่าวทุกคนคงคิดถึงตำนานอีกหน้าหนึ่งของบุรุษเครางามคนนี้กับเชพวี่ในเมืองไทยไปอีกนาน

*****************************************************


คำกล่าว
มร.วิลเลี่ยม บอทวิค
ประธานกรรมการประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศไทย
งานฉลองการเคลื่อนรถยนต์
เชฟโรเลต แคปติวา “คันแรก” ออกจากสายการผลิต
ณ ศูนย์การผลิตรถยนต์
เจนเนอรัล มอเตอร์ส ประเทศไทย จังหวัดระยอง
21 มิถุนายน 2550


สวัสดีครับ เพื่อนสื่อมวลชนทุกท่าน คุณอโณทัย นายกสมาคมผู้สื่อข่าวยานยนต์และจักรยานยนต์แห่งประเทศไทย และคุณธงชัย กรรมการผู้จัดการ เชฟโรเลต วิริยะกรุ๊ป ในฐานะตัวแทนจากผู้จำหน่ายเชฟโรเลตทั่วประเทศ และหนึ่งในครอบครัวเชฟโรเลตของเรา และพนักงานจีเอ็มทุกคน ผมขอต้อนรับทุกท่าน และดีใจที่ได้พบทุก ๆ ท่านในวันนี้ครับ!

ในวันนี้ เรามาร่วมฉลองรถเชฟโรเลตแคปติวา “คันแรก” ที่เคลื่อนออกจากสายการผลิต พร้อมส่งถึงมือลูกค้าเชฟโรเลตทั่วประเทศ พนักงานจีเอ็มทุกคนภูมิใจในผลงานชั้นเลิศชิ้นนี้ รถยนต์อเนกประสงค์ที่เหนือชั้นคันนี้ ที่เกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของจีเอ็มทั่วโลก ทุกท่านก็ได้เห็นเมื่อสักครู่นี้แล้วว่า แคปติวา คันแรกที่ผมขับนั้นผลิตในประเทศไทย โดยพนักงานคนไทย ที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจ ในการประกอบรถทุกคันให้มีคุณภาพสูงตามมาตรฐานศูนย์การผลิตรถยนต์ของจีเอ็มทุกแห่งทั่วโลก

วิศวกรจีเอ็มทั่วโลกได้สร้างรถต้นแบบมากกว่า 450 คัน ซึ่งผ่านการทดลองขับมากว่า 5 ล้านกิโลเมตรรอบโลก ในช่วงการพัฒนารถ แคปติวา รถทดสอบเหล่านี้ผ่านการทดสอบการใช้งานในทุกภูมิอากาศ ทุกสภาพถนนและความเร็ว ดังนั้น คุณเชื่อมั่นในสมรรถนะที่สมบูรณ์แบบของ แคปติวา ได้ทั้งในอากาศหนาวเย็นของสแกนดิเนเวีย และในอากาศร้อนระอุอย่างประเทศไทย

แคปติวา ได้รับการพัฒนาเพื่อเป็นยนตรกรรมของโลก โดยคำนึงถึงความต้องการของลูกค้าในเอเชีย อเมริกาเหนือ และยุโรป เป็นหลัก จีเอ็มต้องการผลิตรถที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างลงตัว มิใช่ผลิตในสิ่งที่เราคิดนึกเอาเองว่าลูกค้าสมควรจะได้รับ รถเอสยูวีที่รุดหน้าคันนี้ เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อเสริมสมรรถนะการขับขี่และความปลอดภัยเหนือระดับ ซึ่งทุกท่านจะได้ทดลองขับในบ่ายนี้
เชฟโรเลต แคปติวา คือ “เอสยูวีที่ล้ำหน้า” The Progressive SUV เพราะ แคปติวา พร้อมจะปรับตัวเพื่อตอบสนองความต้องการที่ผันไปตามรูปแบบการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป หรือ “ก้าวไปข้างหน้า” พร้อมกับลูกค้า เพราะทุกวันนี้ ลูกค้าต่างคาดหวังหลายสิ่งหลายอย่างจากรถมากขึ้นกว่าเมื่อสิบปีก่อน ทุกคนต้องการห้องโดยสารที่กว้างขึ้นเพื่อรองรับครอบครัวที่ใหญ่ขึ้น ซึ่งรถ MPV ไม่อาจตอบสนองการใช้ชีวิตที่แอคทีฟของเขาได้ ส่วนรถเอสยูวีใหญ่ ๆ บางรุ่นก็ใหญ่เกินไปและกินน้ำมันมาก เหนืออื่นใดสิ่งที่ลูกค้ามองหามากที่สุด ก็คือ ความคุ้มค่า

The Progressive Captiva ผสานเทคโนโลยีของรถให้สมดุลกับความต้องการของผู้ขับขี่ ทุกไลฟ์สไตล์ ทุกการเดินทาง และทุกจุดหมายปลายทาง ด้วยเทคโนโลยีปรับสมดุลอัตโนมัติ เสริมสมรรถนะการควบคุมรถและความปลอดภัยที่เป็นเยี่ยม ด้วย
- ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ On-Demand (On-Demand Four-Wheel-Drive)
- ระบบเสริมแรงบิดอัจฉริยะ (On-Demand Active Torque)
- ระบบปรับระดับของช่วงล่างอัตโนมัติ (Self-Levelizer Suspension)
- ระบบป้องกันการพลิกคว่ำ (Active Rollover Protection)
- ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (Electronic Stability Program)
- ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control System)
และ ระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด (TIPTRONIC Automatic Transmission)

ในวันนี้ แคปติวา คันแรก เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2400 ซีซี พร้อมแล้วที่จะมอบเทคโนโลยีชั้นสูงสู่ลูกค้าชาวไทย และในปลายเดือนกรกฎาคมนี้ เชฟโรเลต แคปติวา เครื่องยนต์ดีเซลขนาด สองพันซีซี ก็จะพร้อมสำหรับตลาดเมืองไทย โดยในช่วงแรก เราจะเน้นผลิต แคปติวา เพื่อรองรับความต้องการในประเทศ ต่อจากนั้น เราจึงจะส่งออก
แคปติวา ที่ผลิตโดยคนไทย สู่ตลาดโลก ผมมั่นใจว่า แคปติวา รถที่ล้ำหน้า สมดุล และทันสมัย จะมัดใจผู้ใช้รถจากทั่วโลกอย่างแน่นอน

ความสำเร็จทั้งหลายเหล่านี้ จะเป็นไปไม่ได้เลย หากปราศจากความพยายาม และความทุ่มเท ของพวกเราชาวจีเอ็มทุกท่าน และอาจจะไม่มีใครรับรู้ถึงความสำเร็จเหล่านี้เลย หากขาดซึ่งแรงสนับสนุนจากเพื่อน ๆ สื่อมวลชน ขอบคุณครับ (นำการปรบมือให้สื่อมวลชน) ในโอกาสนี้ ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ท่านจะได้สื่อประสบการณ์อย่างเต็มที่ในอีกก้าวหนึ่งของเชฟโรเลต กับ แคปติวา ที่เปิดมุมมองใหม่แห่งประวัติศาสตร์ยานยนต์ไทย

ก่อนที่ผมจะส่งต่อเวทีนี้ให้กับ คุณธงชัย ผู้จำหน่ายเชฟโรเลตที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง จากเครือวิระยะกรุ๊ป ขึ้นกล่าวในฐานะตัวแทนจากเครือข่ายผู้จำหน่ายเชฟโรเลตทั้งหมด 103 สาขา ทั่วประเทศ และแสดงความเชื่อมั่นต่อ “เอสยูวีที่ล้ำหน้า” อย่างเชฟโรเลต แคปติวา

ขอบคุณครับ