6 ส.ค. 2550

ขับ NISSAN NAVARA 4WD ไปโด๊ปด้วยไข่กระทะ ก่อนไปชมธรรมชาติสวยงามร่มรื่นที่ภูพานราชนิเวศน์












ไข่กระทะ ก็คืออาหารสไตล์ยวน โมดิฟาย เป็นไข่ดาว 2 ฟอง มีหมูสับผัดน้ำมันใส่ต้นหอม มีแครอทหั่นฝอยตกแต่ง กินเป็นมื้อเช้าร่วมกับขนนปังยัดไส้แฮม ไม่รู้ว่ามาจากสไตล์ฝั่งเศสหรือเปล่า ?

แต่กินแล้วเข้ากันดีมาก มีชา หรือกาแฟด้วยยิ่ง "ช่างเอร็ดอร่อยเสียจริง ๆ" (สำนวนหม่อมถนัดศรี แห่งรายการเชลชวนชิมเจ้าเก่า)

หลังจากตื่นแต่เช้า เรา 4 คน ก็รีบออกจากโรงแรม ไปเติมพลังในตลาด ที่ร้าน "เลิศรส"

อยู่ใกล้ ๆ สี่แยก หัวถนนสุขเกษม ฝั่งตรงข้ามกับอาคารร้านเทียนเต็กโอสถ

ที่นี่คือไข่กระทะร้านเก่าแก่ของสกลนครเลยทีเดียว

อร่อยแค่ไหนก็ต้องแตะเบรกไว้ เพราะมันจะเกินลิมิต เนื่องด้วยคอเรสเตอรอลในไข่มันจะทำพิษเอา

แต่หากกระเพาะใหญ่ และตัวโตมาก แถมจะต้องออกแรงลุยเดินเที่ยวในป่าอย่างวันนี้ ก็ยกเว้นให้

เพื่อนเราคนหนึ่งก็สั่ง 2 ชุด

จากนั้นก็มุ่งสู่ภููพานราชนิเวศน์ ด้วยรถนิสสัน นาวารา ขับเคลื่อน 4 ล้อ สีดำ มันวาว 6 เกียร์ อันลือลั่น

ในเขตพระราชฐานเป็นธรรมชาติที่สงบร่มรื่น ได้รับการจัดสร้างระบบอ่างเก็บน้ำ
มีเขื่อนคอนกรีตเสริมเหล็กขนาดสูงเท่าตึก 7 ชั้นกั้นช่องเขาพื้นที่ประมาณ 2-3 สนามฟุตบอล ไว้เก็บน้ำ
สามารถใช้ได้นานเดือนหากเป็นหน้าแล้ง
แต่ยามชุ่มฉ่ำฝนอย่างช่วงนี้ เขียวขจีไปทั้งอีสาน ที่อ่างเก็บน้ำเต็มไปด้วยน้ำฝนสีไส

อ่างเก็บน้ำ และเขื่อนเล็ก ๆ แห่งภูพานนี้ในหลวงท่านอาจจะทรงพระราชดำริให้สร้างไว้
เป็นตัวอย่างระบบชลประทานบนภูเขาที่แห้งแล้ง ในช่วงหน้าร้อน หน้าหนาว

เป็นการอนุรักษ์ฝืนป่าแถบนี้ไปในตัว หากไม่มีพระราชนิเวศน์ ที่ภูพานอาจกลายเป็นป่าเสื่อมโทรมไปแล้วก็ได้ ด้วยฝีมือนักบุกรุกทำลายป่าที่มีอยู่ชุมชุมยิ่งกว่ายุงในเมืองไทย !!

ภายในเขตพระราชฐานมีอาคารไม่หรูหรานัก แต่ได้สัดส่วนกลมกลืนไปกับป่าเขา
มีตัวอย่างบ้านแบบกระท่อม ยุ้งฉางเล็ก ๆ ของชาวอีสานหลายรูปแบบ เหมือนเป็นทิมแลนด์ของคนในท้องถิ่นนี้ไว้ให้ชาวต่างถิน หรือคนต่างชาติได้ศึกษาอีกด้วย

ประชาชนทุกคนในประเทศไทยสามารถเข้าเยี่ยมชมได้
หากเป็นช่วงที่พระราชวงศ์ไม่ได้เสด็จแปรพระราชฐานมาประทับที่นี่

ในอนาคตที่ภูพานราชนิเวศน์อาจเป็นสถาบัน หรือศูนย์ศึกษาอะไรสักอย่างก็ ผมคิดว่าในหลวงท่านคงวางแผนไว้สำหรับอนาคตอีกด้วย

มาครั้งนี้เป็นวันอาสาฬหบูชา เป็นวันดีที่ชาวอีสานมีประเพณีแห่เทียนพรรษากันทั่วทุกพื้นที่ เป็นการต้อนรับวันเข้าพรรษาที่จะเวียนมาอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น

ขณะที่ทีมของเรา 4 คน กำลังเดินชมป่าอยู่ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้แนะนำเส้นทางพิเศษ ที่ในหลวงทรงใช้เป็นทางพระราชดำเนินเป็นประจำ

นับเป็นบุญที่วันนี้ได้มีโอกาสเดินตามรอยพระบาทของพระองค์ท่าน

เป็นทางแทร็คในป่า ที่พระองค์ใช้พระราชดำเนินไปยังสถานที่ปฎิบัติธรรม

เป็น 200 เมตร ที่อันซีน สุดเยี่ยมยอด

ในชีวิตนี้หากได้ผ่านตามรอยพระบาทเหนือหัวแล้วนับว่าเป็นบุญอย่างหาที่เปรียบมิได้

ไม่ว่าจะเป็นที่นี่ หรือวิถีอื่นใดที่พระองค์ทรงพระเมตตาแนะนำสั่งสอน ล้วนเป็นมงคลทั้งสิ้น

เช่นเดียวกับพระราชนิเวศน์อันพอเพียงไม่หรูหรา แต่เต็มไปด้วยข้อมูลสำหรับผู้แสวงหาความรู้