30 พ.ค. 2550

สีของไวน์ ลำไย สวยดั่งแสงทองยามเย็น



ไวน์ ลำไย จากแม่นายไวน์เนอรี จังหวัดพะเยา สวยไม่แพ้ใคร เป็นสีดั่งแสงทองของแดดยามเย็น แม้เป็นไวน์หนุ่มแน่นสดจากสวน ก็ทำให้รสชาติอาหารท่ีรับประทานหลังจากนั้นดูมีรสอร่อยขึ้น

ส่วนไวน์แดงนั้นเป็น ไวน์แดนจิงโจ้ท่ีเผลอเปิดไปวันก่อน HARDY s สีดั่งน้ำผลผักปังสุก นี่เป็นแก้วท่ีสามแล้ว ยังผลทำให้การติดตามข่าว คำพิพากษา ยุบไม่ยุบ 2 พรรคการเมืองใหญ่ ออกรส

ขณะนี้เจ้าหน้าท่ีตำรวจและทหารพร้อมแล้ว อยู่บ้านจิบไวน์คอยดูผลการตัดสินอย่างสงบดีกว่ามั้ง

“เป็นงง” กับคำว่า “ไวน์โลกเก่า” และ “ไวน์โลกใหม่”







เมรัยจากแคลิฟอร์เนีย มือหนึ่งไวน์โลกใหม่
...กมลศักดิ์ ตั้งธรรมนิยม

นักดื่มไวน์จำนวนไม่น้อยอาจจะ “เป็นงง” กับคำว่า “ไวน์โลกเก่า” และ “ไวน์โลกใหม่” โดยหาคำอธิบายให้แจ่มกระจ่างจากนักดื่มทั่วไปไม่ชัดแจ้ง เว้นแต่ผู้รู้เรื่องเมรัยจริง ๆ จะเป็นผู้ไขกุญแจเปิดประตูให้ผู้อยากรู้ก้าวเดินไปสู่ความกระจ่างใส

เพื่อให้คุณผู้อ่านพอเข้าใจเกี่ยวกับไวน์สองโลกได้บ้าง โดยไม่ต้องไปปรับโฟกัสบ่อยหนว่า โลกเก่ากับโลกใหม่ ที่ใครต่อใครมักเอ่ยถึงคืออะไรแน่ ผมจึงขอสรุปย่อสั้น ๆ ดังนี้

“ไวน์โลกเก่า” คือเมรัยที่ผลิตจากถิ่นไวน์ต่าง ๆ ที่สังกัดอยู่ในทวีปยุโรป ส่วน “ไวน์โลกใหม่” คือน้ำอมฤตแห่งชีวิตที่ผลิตจากถิ่นไวน์นอกทวีปยุโรป

ส่วนบุคลิกของไวน์โลกเก่าคืออะไร และไวน์โลกใหม่เป็นแบบไหน มีขบวนการผลิตแตกต่างว่ากันอย่างไรบ่าง ผมคงไม่แจกแจงไว้ตรงนี้ เพราะคงต้องว่ากันยาวในโอกาสอื่น
แต่พอสรุปได้ว่าไวน์โลกเก่าคือเมรัยที่ทำขึ้นมาด้วยกรรมวิธีแบบประเพณีนิยมที่สืบทอดภูมิปัญญาจากปู่ย่าตายาย ความโอชะของเมรัยขั้นอยู่กับพรสวรรค์และพรแสวง หรือกรรมวิธีการผลิตที่ช่ำชองกับคว่ามเมตตาของพระเจ้าที่จะบันดาลให้ดินฟ้าอากาศดีเหมาะเจาะ

ปีเก็บเกี่ยว (Vintage) สำหรับไวน์โลกเก่าทรงความหมายอย่างยวด ยิ่ง

ส่วนไวน์โลกใหม่คือเมรัยเท็คนิค เป็นการผลิตไวน์เพื่อเอาใจตลาด มีการปรุงแต่งสีกลิ่นรสด้วยวิทยาการทางวิทยาศาสตร์ให้ถูกใจผู้บริโภค ไม่ว่าปีเก็บเกี่ยว ใส สี กลิ่น รสของเมรัยทุกปีใกล้เคียงกัน

ดังนั้นนักดื่มไวน์คอใหม่มักจะชอบเท็คนิคไวน์หรือไวน์โลกใหม่ที่ดื่มง่าย สีกลิ่นรสฉูดฉาดดั่งใจหมาย ดื่มปุ๊บชอบปั๊บ ในขณะที่ไวน์โลกเก่าค่อนข้างดื่มยาก ต้องเป็นผู้เข้าใจไวน์จริง ๆ จึงจะเป็นสาวกตลอดกาล

ในบรรดาประเทศที่ได้ชื่อว่าไว้โลกใหม่ทั้งหลาย มีหลายถิ่นเมรัยที่ไวน์มีชื่อเสียงกระเดื่องพิภพ ไวน์ที่ผลิตออกมาเป็นที่โหยหาของคนรักไวน์ ได้แก่ไวน์จากแดนจิงโจ้ แดนกีวี่ ไวน์จากแดนทาร์ซานหรือแอ๊ฟริกาใต้ ไวน์ชิลี ไวน์อาร์เจนติน่า และไวน์แคลิฟอร์เนีย เป็นต้น

แต่ถ้าให้ฉายสป็อตไลท์ คงจะต้องให้แสงเจิดจ้าไปที่แคลิฟอร์เนียว่าเป็นเดี่ยวมือหนึ่งของไวน์โลกใหม่ โดยมีบุคลิกที่ดื่มเร็ว ติดใจนาน อลังการทันทีเช่นเดียวกับไวน์โลกใหม่ทั่วไป ในขณะเดียวกันก็มีความโอชะอย่างลึกซึ้งเช่นเดียวกับไวน์โลกเก่าแฝงเร้นอยู่ จึงเป็นจุดเด่นของไวน์จากแดนทมิฬแดงที่ตรองใจทั้งนักก๊งไวน์มือใหม่ และผูกพันทั้งนักดื่มไวน์มือเก่าได้อย่างสนิทสนม

ผมคนหนึ่งเป็นแฟนไวน์แคลิฟอร์เนียที่ค่อนข้างเหนียวแน่น ถ้าวันไนหอยากดื่มไวน์ แล้วตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเลือกไวน์โลกเก่าดีหรือโลกใหม่ดี มักจะจบลงตรงที่เลือกไวน์แคลิฟอร์เนียเป็นเหมาะเหม็งที่สุด

หลายวันก่อน ดื่มไวน์โดยไม่ต้องคู่กับอาหารกับก๊วนเมรัยที่รู้ใจกับ 5-6 คน ในจำนวนไวน์ 5-6 ขวดที่ถูกล่าสังหาร มีไวน์แคลิฟอร์เนียรวมอยู่ด้วยสองขวดสองยี่ห้อ ซึ่งผมอดไม่ได้ที่จะต้องรีบนำมาแนะนำ เพราะถือเป็นไวน์ที่รสชาติคุ้มราคาที่สุด

1.ไวน์แดงแคลิฟอร์เนีย บี่ห้อ Estrella รุ่นองุ่น Cabernet Sauvigmon 2002 Proprietor’s Reserve เกรด California ผลิตโดย Estrella River Winery California แรงแอลกอฮอล์ 12.5 ดีกรี

ไวน์สีเข้มลึกตัวนี้ ถ้าชิมแบบ ดู-ดม-ดื่ม โดยไม่เห็นฉลากไวน์ หลายคนอาจเข้าใจว่ากำลังดื่มไวน์จากเกาะซิซิลี ของอิตาลี ที่มีราคาแพง ทำจากองุ่น Nero d’Avola เพราะกลิ่นรสโกโก้ที่แทรกอยู่ในกลิ่นรสของผลพลัมช่างจัดจ้านฉูดฉาดคล้ายคลึงกันยิ่ง แต่ถ้านักดิ่มระดับเซียนก็จะจับได้ถึงปลายกลิ่นรสเมรัยมีแบล็กเคอร์เร้นท์ซ่อนไว้อย่างแนบเนียน ซึ่งเป็นบุคลิกจะเพาะของแคบ (Cab.) นอกจากนั้นน้ำไวน์ทุกหยาดหยดยังสดใสมีชีวิตชีวา มีรสตกค้างยาวไกล เป็นไวน์ที่เข้ากับอาหารได้อย่างหลากหลาย แม้แต่อาหารไทยอีสานรสแซ้บก็เข้าได้อย่างเหมาะเจาะ

แม้จะดื่มโดยไม่พึ่งพาอาหารเลย Estrella ตัวนี้ก็ดื่มได้อย่างเต็มรส โอชะลื่นไหลไม่มีสะดุดเหมือนไวน์บางตัวที่ต้องพึ่งอาหารเป็นสรณะ

2.ไวน์แดงแคลิฟอร์เนีย ยี่ห้อ Coastal Ridge รุ่น Cabernet Sauvignon 2002 เกรด California ผลิตโดย Coastal Ridge Winery เป็นไวน์ระดับแคลิฟอร์เนียธรรมดา แต่รสชาติหาได้ธรรมดาไม่ นอกจากมีสีแดงเข้มลึก เปิดจุกคอร์กปุ๊บจะได้กลิ่นแบล็กเคอร์เร้นท์ปั๊บขึ้นมาทันที เป็นกลิ่นเซ็กซี่ยั่วยวนจัญจวนใจสำหรับแฟนไวน์เป็นที่สุด เมื่อแกว่งแก้วให้น้ำไวน์กระเพื่อมเพื่อดมหากลิ่นอื่น ๆ ก็จะได้กลิ่นของผลไม้เปลือกแดงชุมนุมกันอย่างคับคั่ง เคล้าด้วยกลิ่นเครื่องเทศสมุนไพร ขนมปังปิ้งใหม่ ๆ

ไวน์มีแทนนินอ่อนโยนกำลังเหมาะเจาะ มีความสมดุลอย่างน่าคารวะ น้ำไวน์สดชื่น สดใส ดื่มง่าย เข้ากับอาหารหลายหลากชนิด ดีที่สุดถ้าได้เนื้อสัตว์ใหญ่ประเภทปิ้ง ๆ ย่าง ๆ โดยเฉพาะเนื้อแกะเข้ากันได้เป็นพิเศษ ยิ่งเป็นเนื้อสัตว์ป่ายิ่ง โอ.เค. เลย หรือจะดื่มคู่กับชีสยิ่งต้องยกนิ้วโป้งให้

ไวน์แคลิฟอร์เนียร์ทั้งสองตัวนี้ ดูเหมือนจะมีขายอยู่ทั่วไปในตลาดไวน์บ้างเรา

พูดถึงไวน์โลกใหม่ ไวน์ที่ผลิตในเมืองไทยก็ถือเป็นไวน์โลกใหม่ด้วย แต่ดูเหมือนวงการเมรัยบ้านเราจะขนานนามไวน์ไทยเป็น “นิวละติจู้ด” เพื่อให้เกิดความแปลกแยกและแตกต่าง

ไวน์ไทยมีทั้งที่ทำจากองุ่นล้วน และที่ผลิตจากผลไม้ทั่วไป กลุ่มที่ทำจาสกองุ่นทุกเจ้ายังยืนยงคงกระพันชาตรีและพัฒนาคุณภาพไวน์ของเขาไปเรื่อย ๆ ไม่หยุดยั้ง ส่วนกลุ่มที่ผลิตจากผลไม้ทั่วไป ถ้าเป็นระดับฝีมือระดับชาวบ้านต่างม้วนเสื่อไปนานแล้ว คงเหลือระดับฝีมือโรงงานอย่างเช่น Boss Winery ที่ชลบุรี ยังหาญกล้าสู้ไม่ถอย

นักสู้อย่าง Boss Winery ผลิตไวน์ผลไม้ออกมาหลายเวอร์ชั่น ที่น่าจับตามองเป็นพิเศษคือเวอร์ชั่น Mulbery Fruit Wine (ไวน์หม่อน) ที่พัฒนากลิ่นรสได้ดีอย่างเหลือเชื่อ ก็คงต้องติดตามดูกันต่อไปว่าผลงานของ Boss Winery จะอยู่ยงคงกระพันเหมือนไวน์องุ่นหรือเปล่า

หมายเหตุ.บทความนี้เขียนโดยอาจารย์กมลศักดิ์ ตั้งธรรมนิยม ไวน์กูรู ที่ให้เกียรติเสนอความรู้พื้นฐานไว้ช่วงท่ีผมเริ่มกลับมารายงานข่าวเรื่องไวน์ในไทยอีกครั้ง

29 พ.ค. 2550

HOW SAFE IS YOUR CAR ?






http://www.euroncap.com/home.aspx

เว็บของ Euro NCAP สามารถให้คำตอบท่านได้ว่ารถท่ีท่านขับอยู่ทุกวันนั้นมีความแข็งแกร่งปลอดภัยแค่ไหน ในเมื่อไม่มีใครกล้าขับรถของตัวเองไปทดลองชนกับอะไรเพื่อพิสูจน์ว่ามันสามารถคุ้มครองชีวิตคนขับ ชีวิตผู้โดยสารได้ขนาดไหน ก็มีองค์กรท่ีเขาทำให้ดู เอารถใหม่มาทดสอบชนแบบต่าง ๆ ทั้งจากด้านหน้า ด้านข้าง ทดลองชนหุ่นคนว่าหากชนแล้วจะเกิดการบาดเจ็บระดับไหน เนื่องจากรถยุคใหม่ได้คำนึงถึงการออกแบบเพื่อความปลอดภัยของผู้คนเดินถนนด้วย นอกจากนั้นก็มีมาตรฐานการคุ้มครองความปลอดภัยของเด็กเล็กในรถว่าคุ้มครองความปลอดภัยของลูก ๆ ของคุณได้แค่ไหน

ลองคลิ๊กเข้าไปดูรายละเอียดได้ บางทีรถท่ีโฆษณาว่าแจ๋ว ๆ อาจจะยุบบู้บี้ คะแนนความปลอดภัยตกวูบจนน่าใจหายก็ได้

ความจริงผู้ผลิตรถเขาก็ทดลองแบบนี้ทุกยี่ห้อ แต่นี่เป็นคนกลางครับ เขาไม่เข้าใครออกใคร ไม่มีโม้ อย่างแน่นอนครับ

PEUGEOT 207 เล็กแต่ปลอดภัยระดับ 5 ดาว








เปอโยต์ 207 คอมแพ็คคาร์รูปแบบใหม่ที่บรรจงสร้างอย่างมีสไตล์ เอกลักษณ์ความปราดเปรียว กะทัดรัด ที่ได้รับการออกแบบจากสถาบันชื่อดังที่ทันสมัยที่สุดของยุโรป ภายใต้ชื่อ ADN หรือ Automotive Design Network ซึ่งเป็นสถาบันการออกแบบรถยนต์รุ่นใหม่ ให้กับเปอโยต์

เปอโยต์ 207 เน้นรูปทรงที่มีพลังให้ความรู้สึกเคลื่อนไหวด้วยเอกลักษณ์ใหม่ของเปอโยต์ กระจังหน้าขนาดใหญ่ตามสไตล์เปอโยต์รุ่นใหม่ ไฟหน้าทรงหยดน้ำพร้อมติดตั้งไฟส่องสว่างด้านข้างที่ทำงานตามองศาการเลี้ยว ไฟตัดหมอกหน้ามี 2 แบบ สไตล์คลาสสิกติดตั้งกับมุมกันชนใต้คิ้วกันกระแทก และ สไตล์สปอร์ตดุดัน ติดตั้งระหว่างกันชนกับขอบกระจังหน้าล้อมกรอบด้วยโครเมียม
มุมมองด้านข้างเป็นทรงลิ่ม เส้นขอบล่างของหน้าต่างอยู่ในระดับต่ำเมื่อรวมเข้ากับโป่งล้อทั้ง 4 และกระจกส่องข้างทรงลู่ลม จึงทำให้ดูปราดเปรียวยิ่งขึ้น ด้านท้ายออกแบบให้สอดรับกับประตูบานท้ายและรูปทรงของโคมไฟให้มุมมองที่ราบรื่นด้วยการซ่อนปลายท่อไอเสียไว้ด้านหลังกันชน
กระจกหน้าบานใหญ่ยาวต่อเนื่องไปจนถึงหลังคาแบบพานาโรมิค กลาสรูฟ พร้อมฟิล์มสะท้อนความร้อนและม่านบังแดด กระจกมองข้างดีไซน์ใหม่ให้มุมมองด้านหลังกว้างขึ้นพร้อมติดตั้งไฟเลี้ยวด้านข้าง ระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบอัตโนมัติ ด้านหลังจะทำงานทันทีที่มีการถอยหลัง ไฟท้ายดีไซน์ใหม่แนวรถสปอร์ต และ ติดตั้ง Parking Sensor เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการถอยจอด
ภายในกว้างขวางมากขึ้นกว่าเปอโยต์ 206 ด้วยมิติความยาวเพิ่มขึ้น 200 มม.ฐานล้อยาวขึ้น 80 มม. เพื่อเพิ่มการยึดเกาะถนนและความปลอดภัยพร้อมเพิ่มพื้นที่ใช้สอยภายใน ความกว้าง 1,720 มม. เพื่อให้ผู้โดยสารไม่อึดอัดคับแคบ ส่วนความสูง 1,472 มม. เพื่อให้ตัวรถมีรูปลักษณ์ปราดเปรียว และให้อิสระในการออกแบบและติดตั้งเบาะนั่งให้ถูกต้องตามหลักสรีระศาสตร์มากที่สุด ห้องโดยสารให้ความสะดวกสบายในการใช้งาน แผงแดชบอร์ดดีไซน์ใหม่รับกับฝากระโปรงหน้า วิทยุรุ่น RD4 รองรับระบบ Hand Free Kit สามารถเล่น MP 3 ได้ พร้อม CD Changer แสดงผลการทำงานบนจอมัลติฟังก์ชั่น และ ระบบปรับอากาศแบบ Dual Zone มาตรวัด 3 วงล้อมกรอบด้วยโครเมียม


แม้เป็นรถเล็กแต่ความปลอดภัยสูงสุดระดับ 5 ดาวจากสถาบัน Euro NCAP การออกแบบ โครงสร้างด้านหน้าเป็นแบบเดียวกับเปอโยต์ 407 ที่จะดูดซับและกระจายแรงกระแทกจากการชนได้ดี เปอโยต์ 207 วางเครื่องยนต์ต่ำลงและลึกเข้าไปด้านใน เพื่อหลีกเลี่ยงการกระแทกศีรษะของคนโดนชน นอกจากโครงสร้างที่แข็งแกร่งแล้ว ภายในห้องโดยสารยังติดตั้งถุงลมกันกระแทกรอบคัน ด้านหน้า 2 จุด ด้านข้าง 2 จุด พร้อมม่านกันกระแทกอีก 2 จุด เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด 5 ตำแหน่ง ด้านหน้าปรับระดับสูง-ต่ำได้ พร้อมระบบรั้งกลับอัตโนมัติและผ่อนแรง ติดตั้งระบบป้องกันล้อล็อคขณะเบรก ABS พร้อมระบบกระจายแรงดันเบรก EBFD ระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน EBA ระบบรักษาเสถียรภาพการทรงตัวของรถ ESP คานซับแรงกระแทกด้านข้างพร้อมโฟมซับแรงกระแทกที่ประตู เสริมความมั่นใจในด้านความปลอดภัยได้เต็มเปี่ยม
เปอโยต์ 207 คอมแพ็คคาร์ 5 ประตู เครื่องยนต์เบนซิน รุ่นใหม่ที่พัฒนาร่วมกันระหว่าง พีเอสเอ เปอโยต์ ซีตรองและ บีเอ็มดับเบิลยู ขนาด 1,600 ซีซี 120 แรงม้า เครื่องยนต์มีส่วนประกอบของอลูมิเนียมทำให้มีน้ำหนักเบา เกียร์อัตโนมัติ AL4 4 สปีด พร้อมระบบ Trip Tronic

หมายเหตุ.ข่าวจากบ.ยูโรเปี่ยน โอโตโมบิลล์ จำกัด เป็นการเปิดตัวท่ีจ๊าบมากเมื่อสองเดือนก่อน

TRITON โฉมใหม่ แจ่มไม่เบา



มิตซูบิชิ ไทรทัน...เปลี่ยนสู่ความลงตัวใหม่

•เปลี่ยน.....สู่ความเหนือระดับด้วยเครื่องเล่น CD/MP3 พร้อมรีโมท เฉพาะรุ่น GL และ GLX
•เปลี่ยน.....สู่ความลงตัวยิ่งขึ้นด้วยคิ้วขอบกระบะสีเดียวกับตัวรถ ยกเว้นรุ่น Single Cab
•เปลี่ยน.....สู่สมรรถนะและพลังขับเคลื่อนที่เหนือกว่ากับทางเลือกใหม่
- เครื่องยนต์ใหม่ 2.5 DI-D ไฮเปอร์ คอมมอนเรล เทอร์โบ 116 แรงม้า ทางเลือกใหม่ สำหรับรุ่น Single CabGL และ Mega Cab GL
- เครื่องยนต์ 2.5 DI-D ไฮเปอร์ คอมมอนเรล เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ 140 แรงม้า กับอุปกรณ์มาตรฐานครบครัน สำหรับรุ่น Double Cab 2.5 GLS Limited ขับเคลื่อน 4 ล้อ
•เปลี่ยน.....สู่ความปลอดภัยยิ่งขึ้นจากระบบป้องกันล้อล็อก พร้อมระบบกระจายแรงเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ ( ABS /EBD) ถุงลมนิรภัยและเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับอัตโนมัติด้านคนขับ สำหรับรุ่น GLX ABS/Airbag และ GLS ทุกรุ่น
•เปลี่ยน.....สู่ความหรูหรายิ่งขึ้นด้วยการตกแต่งภายในสไตล์สีเงิน ซิลเวอร์ เดคอร์เรชั่น ยกเว้นรุ่น GL
•เปลี่ยน.....สู่ความสะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยเครื่องปรับอากาศแบบอัตโนมัติรายแรกของกระบะเมืองไทยสำหรับรุ่น GLS Limited ขับเคลื่อน 4 ล้อ

• ซิงเกิ้ลแค็บ : Single Cab
มาพร้อมอารยธรรมใหม่ของพลังจากอีกหนึ่งเครื่องยนต์ใหม่ 2.5 DI-D ไฮเปอร์ คอมมอนเรล DOHC 16 วาล์ว เทอร์โบ 116 แรงม้า พร้อมท่อรวมไอดี แบบ ทวิน อินเทค แมนิโฟลด์ แกร่งทั่วคัน แรงทุกหยด พร้อมลุยทุกสภาพงานบรรทุก รถกระบะพันธุ์แท้หนึ่งเดียว

• เมกะ แค็บ ขับเคลื่อน 2 ล้อ : Mega Cab 4x2
เหนือทุกอรรถประโยชน์ใช้สอย ด้วย 2 ขุมพลังจากเครื่องยนต์ 2.5 ดีเซล เทอร์โบ 90 แรงม้าและทางเลือกใหม่ด้วยเครื่องยนต์ 2.5 DI-D ไฮเปอร์ คอมมอนเรล DOHC 16 วาล์ว เทอร์โบ 116 แรงม้า ในรุ่น Mega Cab GL และเพิ่มความเท่ให้กับห้องโดยสารด้วยการตกแต่งภายในสไตล์สีเงิน ซิลเวอร์ เดคอร์เรชั่น รวมทั้งคอนโซลเกียร์สไตล์เท่ในรุ่น Mega Cab GLX พวงมาลัยพาวเวอร์ตกแต่งสีเงินสปอร์ต ล้ำสมัย* แผงหน้าปัดสปอร์ตหรู มาตรวัดเรืองแสง Racing Speed Meter พื้นสีขาว พร้อมไฟเรืองแสง และจอบอกตัวเลขระยะทางแบบดิจิตอล เปลี่ยนสู่ความเหนือระดับด้วยเครื่องเล่น CD/MP3 พร้อมรีโมท เน้นความลงตัวของดีไซน์ภายนอกด้วยคิ้วขอบกระบะสีเดียวกับตัวรถกลมกลืน สง่างาม สะดุดตาด้วยกระจกมองข้างแบบโครเมี่ยมปรับด้วยระบบไฟฟ้า เพิ่มความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นในรุ่น Mega Cab GLX ABS/Airbag

• ดับเบิ้ล แค็บ ขับเคลื่อน 2 ล้อ : Double Cab 4x2
ลงตัวทุกการใช้งาน พร้อมความสะดวกสบายเหนือระดับ หรูหรา กว้างสบายอย่างรถเก๋งจากห้องโดยสารใหญ่สุดในรถกระบะรุ่น 4 ประตู เพิ่มความเท่ให้กับห้องโดยสารด้วยการตกแต่งภายในสไตล์สีเงิน ซิลเวอร์ เดคอร์เรชั่น รวมทั้งคอนโซลเกียร์สไตล์เท่ในรุ่น Double Cab GLX พวงมาลัยพาวเวอร์ตกแต่งสีเงินสปอร์ต ล้ำสมัย* แผงหน้าปัดสปอร์ตหรู มาตรวัดเรืองแสง Racing Speed Meter พื้นสีขาว พร้อมไฟเรืองแสง และจอบอกตัวเลขระยะทางแบบดิจิตอล เปลี่ยนสู่ความเหนือระดับด้วยเครื่องเล่น CD/MP3 พร้อมรีโมท เน้นความลงตัวของดีไซน์ภายนอกด้วยคิ้วขอบกระบะสีเดียวกับตัวรถกลมกลืน สง่างาม สะดุดตาด้วยกระจกมองข้างแบบโครเมี่ยมปรับด้วยระบบไฟฟ้า** เพิ่มความมั่นใจมากยิ่งขึ้นด้วย 2 รุ่นพิเศษ Double Cab GLX ABS/Airbag มีให้เลือกทั้งแบบเกียร์ออโต้และเกียร์ธรรมดาที่มาพร้อมระบบความปลอดภัยครบครัน

• เมกะ แค็บ และ ดับเบิ้ล แค็บ ขับเคลื่อน 4 ล้อ : Mega Cab 4x4 and Double Cab 4x4 ทะยานไปสุดพลัง สู่จุดหมายสูงสุด ด้วย 2 ขุมพลัง สุดยอดความแรง สุดยอดความประหยัด จากเครื่องยนต์ 3.2 DI-D ไฮเปอร์ คอมมอนเรล DOHC 16 วาล์ว เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ 165 แรงม้า ใหญ่ที่สุดของรถกระบะเมืองไทย ที่มีให้เลือกทั้งแบบเกียร์ออโต้และเกียร์ธรรมดา พร้อมเพิ่มทางเลือกใหม่ด้วยเครื่องยนต์ 2.5 DI-D ไฮเปอร์ คอมมอนเรล DOHC 16 วาล์ว เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ 140 แรงม้า พร้อมการติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติม อาทิ ไฟตัดหมอกหน้าช่วยเพิ่มทัศนะวิสัยในการขับขี่ พร้อมสวิตซ์ เปิด-ปิดที่ก้านไฟเลี้ยว กันชนด้านท้ายดีไซน์ทันสมัยเข้ากับรูปลักษณ์ของตัวรถ และบันไดข้างตัวรถช่วยให้การขึ้น-ลงรถเป็นไปด้วยความสะดวกสบาย ลงตัวมากยิ่งขึ้นด้วยคิ้วขอบกระบะสีเดียวกับตัวรถ ภายในห้องโดยสารกว้างขวางมาพร้อมกับความเท่ในการตกแต่งสไตล์สีเงิน ซิลเวอร์ เดคอร์เรชั่น เย็นสบายอย่างเหนือระดับด้วยเครื่องปรับอากาศแบบอัตโนมัติรายแรกของกระบะเมืองไทย* กระจกข้างพับเก็บด้วยระบบไฟฟ้า* เบาะนั่งด้านหน้าตำแหน่งคนขับปรับด้วยไฟฟ้าได้ถึง 8 ทิศทาง* กระจกบานหลังควบคุมการเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบป้องกันอันตราย(เลื่อนลงอัตโนมัติเมื่อมีสิ่งกีดขวาง)* และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เพิ่มความมั่นใจยิ่งขึ้นด้วยระบบความปลอดภัยครบครัน อาทิ ระบบป้องกันล้อล็อก พร้อมระบบกระจายแรงเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ ( ABS /EBD) ถุงลมนิรภัยด้านคนขับ ถุงลมนิรภัยด้านคนนั่ง* เข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับอัตโนมัติสำหรับเบาะคู่หน้า* ระบบเซ็นทรัลล็อก และกุญแจรีโมท ให้ประสิทธิภาพเหนือชั้นและง่ายต่อการใช้งานด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Easy Select 4WD หรือ ES4 เทคโนโลยีที่ผ่านการทดสอบมาแล้วจากสนามแข่งดาการ์ แรลลี่ ที่ทำให้สามารถเปลี่ยนจากขับเคลื่อน 2 ล้อ ความเร็วสูง (2H) เป็นแบบขับเคลื่อน 4 ล้อความเร็วสูง (4H)

• เพิ่มความสะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยระบบอำนวยความสะดวกและปลอดภัยอัจฉริยะETACS (ELECTRONIC TIME AND ALARM CONTROL SYSTEM)
รายแรกของรถกระบะในเมืองไทยที่ให้ความสะดวกได้มากที่สุด
1. ระบบตัดการทำงานไฟใหญ่หน้าอัตโนมัติเมื่อปิดสวิทซ์กุญแจ ภายในเวลา 3 นาที และดับทันทีเมื่อเปิดประตูรถ
2. สัญญาณเสียงและไฟกระพริบเตือนเมื่อประตูปิดไม่สนิท สัญญาณเสียงและไฟกระพริบจะแสดงบนหน้าปัดเมื่อมีการออกรถในขณะที่ประตูปิดไม่สนิทที่ความเร็วเกิน 8 กม./ ชม.
3. ใบปัดน้ำฝนปรับความเร็วอัตโนมัติ ในกรณีที่ฝนตกและผู้ขับเปิดที่ปัดน้ำฝนตำแหน่งปัดหยุด เมื่อใช้ความเร็วที่ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่ปัดน้ำฝนจะเปลี่ยนเป็นจังหวะที่ 1 อัตโนมัติ และจะเปลี่ยนกลับมาที่ตำแหน่งปัดหยุดเหมือนเดิมเมื่อความเร็วต่ำกว่า 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
4. สัญญาณเตือนลืมปิดไฟหรี่หน้า หากผู้ขับลืมปิดไฟหรี่หน้าหลังจากดับเครื่องยนต์และเปิดประตู
5. ระบบหน่วงเวลาปิดไฟในห้องโดยสาร (15 วินาที) เมื่อเปิดประตูหรือดับเครื่องยนต์แล้วดึงกุญแจออก ไฟเก๋งในห้องโดยสารจะสว่างขึ้นถึงแม้จะปิดประตูแล้วเพื่อช่วยในการมองเห็นสิ่งของภายใน และจะดับลงเมื่อผู้โดยสารสตาร์ทรถ หรือล็อกรถจากภายนอก
6. ระบบหน่วงเวลาเปิด-ปิดกระจกไฟฟ้า หลังจากการดับเครื่องยนต์ในรถกระจกไฟฟ้าจะยังสามารถเปิดปิดได้ต่อไปอีกเป็นระยะเวลา 30 วินาที หลังดับเครื่องยนต์ (ยกเว้นรุ่น GL)
7. ระบบเซ็นทรัลล็อก ควบคุมการเปิด-ปิดล็อกประตูทุกบานจากด้านคนขับ (ยกเว้นรุ่น GL)
8. ระบบปลดล็อกด้วยรีโมท สามารถล็อกและปลดล็อกประตูทุกบาน รวมถึงการล็อกประตูอัตโนมัติ และหากไม่มีการเปิดประตูภายใน 30 วินาที หลังจากการกดปุ่มปลดล็อกจากรีโมทที่กุญแจ ระบบจะล็อกให้เองเพื่อป้องกันการกดล็อกผิด (เฉพาะรุ่น GLS และ GLS-Limited )

หมายเหตุ.ข่าวจากมิตซูบิชิ

Audi TT Coupe 2.0 TFSI เกียร์ S Tronic







ยนตรกรรมสปอร์ตคูเป้ระดับพรีเมียมคลาสจากประเทศเยอรมนี ที่มีความปราดเปรียวเฉียบคมกว่ารุ่นก่อนทั้งในด้านดีไซน์ที่สวยงามโฉบเฉี่ยว ใช้เครื่องยนต์ 2.0 Turbo FSI ที่ได้รับรางวัล “Engine of the Year” จากประเทศยุโรป ในปี 2005 และ 2006 ให้กำลังสูงสุด 200 แรงม้าที่ 5,100 – 6,000 รอบต่อนาที ให้แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร ที่1,800 – 5,000 รอบต่อนาที ระบบเกียร์ S Tronic 6 สปีด ซึ่งเป็นเกียร์ระบบใหม่ล่าสุดของออดี้ที่ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์ ทำได้รวดเร็วและแม่นยำมากยิ่งขึ้นกว่าเกียร์ธรรมดาทั่วไปและคงความนุ่มนวล สะดวกสบายเหมือนเกียร์อัตโนมัติ มีอัตราเร่งจาก 0-100 ภายในเวลาเพียง 6.4 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ 240 กม. / ชม. โครงสร้างตัวถังรถแบบ ASF Audi Space Frame design ซึ่งประกอบด้วยอลูมิเนียม 69% และเหล็ก 31% จึงทำให้รถมีน้ำหนักเบากว่า แต่แข็งแรง ทนทานกว่ารุ่นเดิม วัสดุที่เป็นเหล็ก 31% ที่อยู่ด้านท้ายจะช่วยให้การกระจายน้ำหนักทั้งด้านหน้าและด้านหลังรถมีความสมดุลย์อย่างดีเยี่ยม จึงทำให้ได้รับรางวัลด้านนวัตกรรมตัวถังยอดเยี่ยม “Euro Car Body Award 2006” ด้านหน้าโดดเด่นด้วยกระจังหน้าใหม่แบบชิ้นเดียวที่ทรงพลังดุดันกว่าเดิม ด้านหลังโค้งมนเรียว มีสปอยเลอร์หลังแบบยกตัวอัตโนมัติเมื่อความเร็วถึง 120 กม./ชม. ช่วยเพิ่มสมรรถนะการทรงตัวช่วงความเร็วสูง และมีโลโก้ TT ที่เป็นเอกลักษณ์เหมือนเดิม

หมายเหตู.ข่าวจากยนตรกิจ กรุ๊ฟ รายละเอียดอื่น ๆ เชิญท่ี www.yontrakit.com

KIA PICANTO ซิตี้คาร์น่าใช้จากเกาหลี








KIA PICANTO ซิตี้คาร์ขนาดเล็กกระทัดรัด ขนาด 5 ประตู สีสันแห่งความ
สดใส ทันสมัย สนุกสนานทุกการขับขี่ ประหยัดน้ำมัน และคุ้มค่าสูงสุดสำหรับยานยนต์ซิตี้คาร์ในระดับเดียวกัน ด้วยรูปลักษณ์ที่ปราดเปรียว เร้าใจทุกการสัมผัส ภายในได้รับการออกแบบให้กว้างขวาง สามารถปรับพื้นที่ภายในได้หลากหลายรูปแบบ โดยจุผู้โดยสารได้ 4-5 คนอย่างสบาย ทั้งสามารถปรับเพิ่มเนื้อที่สำหรับการบรรทุกสัมภาระได้มากถึง 880 ลิตร ทำให้ตอบสนองทุกการใช้งานได้เฉกเช่นเดียวกับรถในระดับซีดานโดยทั่วไป โดยเฉพาะการขับขี่ที่เปี่ยมสมรรถนะและความคล่องตัว ทั้งประหยัดน้ำมันเป็นเลิศ
KIA PICANTO เครื่องยนต์ เบนซิน ขนาด 1.1 ลิตร 4 สูบ แรงม้าสูงสุด 65 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดที่ 9.9 กก.-ม. (97.12 นิวตันเมตร) ที่ 2800 รอบ/นาที ความเร็วสูงสุดที่ 154 กม./ชม. อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ภายใน 15.1 วินาที เฉลี่ยการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่ความเร็วคงที่ 60 กม./ชม.ในอัตรา 26.2 กม./ลิตร ระบบเกียร์มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ ระบบซิงโครเมท และเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ควบคุมด้วยระบบอิเลคทรอนิคส์
ระบบกันสะเทือนหน้าเป็นแบบแมคเฟอร์สันสตรัท สามารถรับแรงสะเทือนจากถนนได้ดี และควบคุมรถได้อย่างแม่นยำ ด้านหลังเป็นแบบทอร์ชั่นบีม เกาะถนน และนุ่มนวลขณะเข้าโค้ง พวงมาลัยเป็นแบบ 3 ก้าน ระบบแรคแอนด์พิเนียน รัศมีวงเลี้ยง 4.6 เมตร ทำให้การควบคุมการทรงตัวเป็นไปอย่างง่ายดาย และเพลิดเพลินในทุกการขับขี่ นอกจากนี้ ในรถยนต์รุ่นดังกล่าวยังเปี่ยมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก และความปลอดภัย ทั้งในแบบ Passive และแบบ Active Safety อย่างครบครัน
รับประกันคุณภาพความยอดเยี่ยม จากรางวัล “ยานยนต์ยอดประหยัด” ของรถยนต์ในกลุ่มเอ-เซ็กเมนต์ ของสถาบัน ADAC ประเทศเยอรมนี ส่งผลทำให้ KIA PICANTO เป็นยานยนต์ที่เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ในยุคปัจจุบัน

หมายเหตู.ข่าวจากยนตรกิจ กรุ๊ฟ รายละเอียดอื่น ๆ เชิญท่ี www.yontrakit.com

28 พ.ค. 2550

ขับรถให้กินน้ำมันแต่น้อย / สิ่งควรหลีกเลี่ยงในการใช้รถใชัถนน

เงื่อนไขของการ “จิบ” น้ำมัน

รถยนต์ปัจจุบันยังใช้เชื้อเพลิงน้ำมันเบนซิน และดีเซลเป็นหลัก แก๊ส NGV,LPG ยังเป็นส่วนน้อย แม้รัฐบาลจะส่งเสริมให้ใช้มากขึ้น แต่ต้องรอปั๊มแก๊สให้ทั่วถึง อีกสองสามปีจำนวนรถท่ีใช้แก๊สอาจถึงครึ่ง

ณ ขณะนี้ มาดูเงื่อนไขท่ีทำให้รถกินน้ำมันน้อย กันดีกว่า ในการเดินทางไปถึงเป้าหมายเดียวกันความสิ้นเปลืองอาจต่างกันครึ่งต่อครึ่งก็เป็นได้ เงื่ือนไขท่ีไม่ต้องเปิดตำรา แต่หลายท่านอาจมองข้ามคือ ข้อแรกยางลมอ่อนเกินไป เช่นขนาดยางท่ีใช้กำหนดให้อย่างต่ำ 28 ปอนด์/ตารางนิ้ว แต่ความดันลมเหลือแค่ 20 ปอนด์/ตารางนิ้ว ก็ทำให้เกิดความฝืดขึ้นได้มาก แถมโครงสร้างยางเสื่อมอย่างรวดเร็ว เสียงต่อการระเบิดอีกด้วย เพราะขณะวิ่งไปแก้มยางจะเคลื่อนตัวยุบยืดมากกว่าปกติ จนเกิดความร้อนสูง
ต่อมาก็คือชิ้นส่วนท่ีตั้งฉากกับผิวถนนบนรถมีมากมายเช่นการเสริมกระบะสูงขึ้นเป็น
แท่งซึ่งมันจะต้านลม เนื่องจากแรงต้านจากอากาศหรือแรงลมจะเพิ่มเป็นกำลังสองเมื่อรถเร็วขึ้นหนึ่งเท่า แรงต้านจะกลายเป็นยกกำลังสอง ไม่ใช่เพิ่ม 2 เท่า คือ จาก 2 เป็น 4 จาก 4 เป็น 16 จาก16 เป็น 256 ไม่ใช่จาก 2 เป็น จาก 4 เป็น 8 จาก 8 เป็น 16 อย่างท่ีเข้าใจกัน เนื่องจากเป็นการวิ่งสวนฝ่าอากาศไป ทดลองง่าย ๆ เมื่อเราแบมือต้านลมขณะรถวิ่งท่ีความเร็วสูง ๆ จะต้านลมมากจนกล้ามเนื้อล้า ลองคิดถึงพื้นท่ีท่ีตั้งฉากกับผิวถนนในรถว่ายิ่งกว้างก็จะยิ่งเพิ่มภาระให้เครื่องยนต์ คือต้องใช้แรงมาก ยิ่งเร็วแรงต้านยิ่งมาก จึงทำให้รถยุคใหม่มีทรวดทรงลู่ลม บางรุ่น บางยี่ห้อรูปทรงน้อง ๆ เครื่องบินเลยทีเดียว
การแก้ไขตรงนี้เมื่อจำเป้นต้องใช้รถท่ีมีชิ้นส่วนเป็นแผ่นต้านลมก็ง่าย ๆ คือขับช้า ๆ สัก 50-60 กม./ชม. ไปเรื่อย ๆ ก็สามารถขนส่งถึงปลายทางได้เช่นกัน การท่ีมีกฎหมายให้รถบรรทุกขับช้า ๆ ให้วิ่งชิดซ้ายตลอดก็สามารถช่วยชาติประหยัดพลังงานได้มาก

ต่อมาก็คือนิสัยในการขับรถ ไม่เร่งเบิ้ลคันเร่งเล่น ไม่ขับกระชากลากเกียร์จนรอบสูงมาก ๆ ในแต่ละเกียร์โดยไม่จำเป็น เช่นรถเก๋ง หรือปิคอัพตัวเปล่าไม่มีน้ำหนักบรรทุก ก็ไม่ต้องลากเกียร์

ไม่ใช้ระบบไฟจนโอเวอร์เช่น ติดตั้งระบบเสียงท่ีกินไฟมาก ๆ ไฟในรถก็มาจากไดชาร์ตซึ่งขับเคลื่อนโดยเครื่องยนต์ผ่านมูเล่ย์สายพาน เพื่อชาร์ตแบตเตอรี่ ยิ่งเร่งเครื่องเสียงดังมาก ๆ เปิดนาน ๆ ก็ยิ่งเปลืองน้ำมัน

เงื่อนไขต่อมาก็คือเครื่องยนต์ ขาดการดูแล ไม่ได้เปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามระยะทาง หรือตามระยะเวลา ทำให้เกิดความฝืดมาก ตลอดจนไส้กรองสกปรกก็มีส่วนทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันมาก

รถเก่าเครื่องหลวมควันโขมงก็กินน้ำมันมาก เนื่องจากต้องเร่งเครื่องรอบสูงขึ้นเพื่อให้มีแรงวิ่งไปเหมือนรถชาวบ้านท่ีเครื่องฟิต ๆ

ความสิ้นเปลืองท่ีเกิดจากการเผลอไผลลืมปลดเบรกมือ หรือเบรกมือค้างนิด ๆ แล้วขับไป นี่ก็เปลืองน้ำมันมาก

การวางแผนเดินทางท่ีใช้เส้นทางสั้นท่ีสุด การจารจรไม่ติดขัด ก็ทำให้ประหยัดได้มาก

อย่างไรก็ตามไม่ถึงกับต้องทรมานขับรถปิดแอร์ ไปตลอดเวลายามแดดเปรี๊ยง ๆ อาจปิดแอร์เวลากลางคืนก็ช่วยประหยัดได้มาก อย่าไปเลียนแบบนักขับรถแข่งอีโคโนมีรัน เพราะต้องทรมานในการขับรถเกียร์สูงสุด รอบต่ำ ๆ โดยแตะเบรกน้อยท่ีสุด อาจทำให้เกิดอุบัติืเหตุชนเฉียว หรือตกข้างทางได้หากเสี่ยงไปโดยไม่เบรกเลย
สถิติการกินน้ำมันมากมายนั้นอาจไม่คุ้มกับชีวิตท่ีไม่ปลอดภัย และเสียมารยาทบนถนน



นิสัยการขับขี่ท่ีผิด ๆ สมควรเลิก
1.การเปิดไฟกระพริบ แบบฉุกเฉินขณะจะตรงไปเมื่อถึงทางแยก เนื่องจากไฟฉุกเฉินมีไว้สำหรับจอดฉุกเฉินเท่านั้น เหตุผลคือคนท่ีอยู่ด้านซ้ายก็คิดว่าจะเลี้ยวซ้าย คนท่ีมองจากด้านขวาก็คือว่าจะเลี้ยวขวา ก็มีเมืองไทยนี่แหละไม่รู้ว่าใครแนะนำมาผิด ๆ

2.การบีบแตรพร่ำเพรื่อ แสดงอารมณ์ สมควรระงับอารมณ์เสียบ้างมันเป็นการแสดงถึงความป่าเถื่อน

3.จอดรถด้านขวาของขอบถนนแทนท่ีจะชิดซ้ายในทิศทางของตัวเอง

4.การจอดรถแช่ขวางชาวบ้านบนถนนท่ีจอแจ

5.ขับรถฝ่าไฟแดง อันตรายท่ีสุด ถนนเกษตร-นวมินทร์ มีการชนกันมากเนื่องจากชอบเร่งรถให้พ้นไฟแดงแล้วเบรกไม่ทัน ชนท้ายกันวันละหลายราย

……ยังมีอีกมาก !!

27 พ.ค. 2550

ไปดูแข่งรถ F1 ท่ี MONACO



เมื่อตอนหัวค่ำขับรถฝ่าสายฝนไปโรงแรมคอราด ถนนวิทยุ ไปดูถ่ายทอดสดการแข่งฟอร์มูลาร์ วัน สนาม มอนาโค โดยเบนซ์ เป็นผู้เชิญไป มีผู้สื่อข่าวสายรถยนต์ท่ีเกี่ยวข้องกับเบนซ์ และลูกค้าวีไอพี ของเบนซื ไปร่วมงานกว่า 200 คน งานนี้ได้กระทบไหล่ แชมป์ และรองแชมป์สนามนี้ คือ Fernando Alonso และ Lewis Hamiton เรียบร้อยแล้วครับ ในการแข่งเป็นการขับในเมืองวนไปวนมาหลายสิบรอบ ตั้งแต่ทุ่มหนึ่ง อยู่จนแข่งเสร็จแจกรางวัล จึงมึนหัวหน้าซีดกลับมานี่แหละ (ถ้าจิบไวน์หน้ามันจะแดง แปลกแต่จริง สงสัยไวน์เป็นแอลกอฮอล์ไม่ได้ผ่านการกลั่น อย่างท่ี ดร.ทั้งหลายบอกว่ามีประโยชน์ กว่าเหล้ากลั่น แต่ในงานไม่มีไวน์ แลัไวน์ไม่ได้เป็นผู้สนับสนุน จึงอดไปตามธรรมเนียม)

สาเหตุท่ีมึนเนื่องด้วย Johnnie Walker และนาฬิกา TAG Heuer เป็นสปอนเซอร์ มีการเสริพ วิสกี้ และเครื่องดื่มซอฟท์ดริ๊ง พร้อม มีของแกล้มอร่อย ๆ ทั้งนั้น ก็จิบไป 2 แก้วครึ่ง กับอื่น ๆ อีกเล็กน้อย

ในบรรยากาศแห่งการแข่งขันบนจอทีวีขนาดใหญ่พร้อมเสียงบรรยายไทยแทรกเป็นช่วง ๆ พอให้รู้ว่าใครเป็นใคร ก็รถสูตรหนึ่งวิ่งเร็ว ๆ ระดับน้อง ๆ สามร้อยกิโลเมตร/ชม.ในทางตรง แต่มอนาโคมันแคบมีโค้งแบบพับผ้าตามวงเวียนในเมืองซึ่งเป็นวิวสวยของเขา

ความจริงประเทศไทยมีที่แข่ง F1 ได้มากมาย แต่ด้วยการพัฒนากีฬาแข่งรถยังไม่ได้ระดับ คนดูยังมีน้อยมาก ในสนามพีระเซอร์กิต พัทยา ตอนเปิดใหม่ ๆ มีคนดูมากคึกคักพอสมควร ตอนเริ่มแข่งมีบรรยกาศอินเตอร์ แต่ตอนนี้เคยไปดู ปรากฎว่าคนยกป้ายเวลาก่อนแข่งกลายเป็นคนงาน แต่งตัวแบบคนเดินถนนธรรมดา ๆ ไม่ใช้ใส่บีกินี่ อย่างสมัยก่อนซะแล้ว หลายอย่างทำให้คนดูน้อยลงอย่างชัดเจน

ผู้ท่ีเกี่ยวข้องต้องถามตัวเองว่า เหตุไฉนกีฬาแข่งรถจึงไม่อินเตอร์เสียที

ท่ีมาเลย์เซีย มีแข่งมาตลอด ท่ีจีนก็เริ่มมาได้ใหม่ ๆ เป็นที่สนใจของชาวโลก

ค่ำวันนี้แม้ไม่ได้บินไปมอนาโค แต่ก็ได้กระทบไหล่ แชมป์ อย่าง Alonso และรองแชมปื Hamiton เรียบร้อยแล้ว

เครื่องเบนซ์ซะอย่างมันแรงจริง ๆ ทำให้ทีม Vodafone McLaren Mercedes แจ่ม ในคืนนี้

ทัวร์กับ ISUZU 4WD ไปแปดริ้ว- พัทยา ตามหาเมืองมินิสยาม








22-23 พ.ค. 2550 จากตรีเพชรอีซูซุ ขึ้นทางด่วนไปลงมอเตอร์เวย์ มุ่งสู่ตลาดคลองสวน เป็นตลาดเก่า 100 ปี มาดคล้ายยุค ร.5 ยังคงอยู่ ตลาดนี้เป็นเหมือนท่าเรือจุดพักของเรือเมล์นายเลิศสายบางกอก-แปดริ้วสมัยโบราณ อาคารได้อนุรักษ์ไว้ ครั้งนี้เป็นหนที่สองที่ได้แวะมา จากการคุยกับชาวบ้านได้ความว่าหากจะให้ดีต้องมาเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งมีตลาดนัด คึกตักมาก วันธรรมดาก็เงียบเหงาอย่างวันนี้ มีแต่ร้านค้าเท่านั้นที่เปิดดำเนินการ

ได้ความว่าคุณพี่ท่ีมาซื้อไข่ไก่ ชอบอีซูซุ เช่นกัน แต่ชาวบ้านจะซื้อรุ่นขับ 2 ล้อมากกว่า หรือหากอยากมีมาดเข้มก็เลือก 2 ล้อยกสูงกัน


จากนั้นก็ไปวัดหลวงพ่อโสธร ได้ถ่ายภาพหลวงพ่อแบบชัด ๆ ก็วันนี้ เพราะไม่ค่อยมีประชาชนหนาแน่น องค์จำลองก็ยังอยู่ที่เดิมเป็นอาคารไม้ เพื่อให้ผู้มีจิตศรัธาได้แก้บน จุดธูปเทียนมีควันได้เต็มที่ สำหรับในมหาวิหารอุโบสถใหม่ ราคากว่า 2400 ล้านบาท ไม่ให้จุดธูปเทียน แต่อย่างใด

จากนั้นก็ไปร้านสุนันท์ไก่ย่างเจ้าแรกของแปดริ้ว สัมผัสอาหารไทยสไตล์อีสาน มีปลาช่อนเผา ไก่ย่าง แกงแผดหอยขม ส้มตำ คอหมูย่าง กับข้าวเหนียว จิบแป๊บซี่

อิ่มแล้วก็กลับเข้ามอเตอร์เวย์ ผจญกับการซ่อมทาง ไปมินิสยาม ที่พัทยา เพื่อชมสิ่งก่อสร้างระดับโลกที่ย่อมารวมไว้ ตั้งแต่หอเอนแห่งเมืองปิซ่า ประตูชัย หอไอเฟ่น ปราสาทหลาย ๆ แห่ง สพิ้งจากอียิบ อาคารไม้เป็นซุ้มประตูของเกาหลี โบถส์คริสต์จากรัสเซีย และสถานที่สำคัญ ๆ ของไทย เช่นวัดพระแก้ว ท่ีจริงคือภาพในกำแพงพระบรมมหาราชวังทั้งหมด สภานแขวน พระรม 9 อนุสาวรีย์ต่าง ๆ ทั่วไป สถานีหัวลำโพง สนามบินดอนเมือง โบราณสถานหลายแห่ง ที่นี่เปิดตั้งแต่ เจ็ดโมงเช้ายันสี่ทุ่ม มีนักท่อบงเที่ยวเข้าชมมาก ขนาดกลางวันแดดเปรี้ยง ๆ ก็ยังมีมาประปราย


หลังจากเหงือตกกันเป็นแถวก็เข้าโรงแรม ที่นาเกลือซอย 16 ริมทะเลเป็นเครือข่ายโซฟิเทล มีม้ามังกรเป็นปติมากรรมวิ่งบนผิวน้ำ มีสุดสาคร เป็นผู้ควบคุมทั้งฝูง


ค่ำก็ไปร้านซีฟู้ด ตังเก มื้อใหญ่ คุยออกรสด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ ก่อนกลับไปนอน โรงแรมสไตล์รีสอร์ท และสปา เมาแล้วลืมสปาไปเลย

งานนี้เอาไวน์ HARDI s ไปด้วย เอาไปถ่ายรูปนะ ไม่ได้ดื่ม


รุ่นขึ้น 23 พ.ค. 2550 ก็นำรถไปลุย ทางโหด ในบ่อดิน ก่อนกลับ กทม.


นับเป็นการทำงานหลายอย่างในทริปเดียว ไม่ต้องไปไกลก็สามารถสัมผัสรถรุ่นใหม่ได้ รายงานข่าวสารได้ สบาย ๆ




เครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล กับเหตุผลท่ีต้องมีอินเตอร์คูลเลอร์

อินเตอร์คูลเลอร์คืออุปกรณ์ลดอุณหภูมิอากาศท่ีผ่านการอัดจากชุดเทอร์โบชาร์ตเจอร์ ซึ่งอาศัยไอเสียท่ีพุ่งออกจากห้องเผาไหม้สู่ท่อร่วมไอเสีย หรือท่ีเรียกว่าเฮดเดอร์ จากนั้นก็ไปเป่าใบพัดซึ่งมี 2 ด้าน ด้านรับแรงอัดจากไอเสีย กับด้านดูดอากาศจากภายนอกท่ีผ่านใส้กรองอากาศ ในกรณีของเครื่องยนต์ท่ีมีอินเตอร์คูลเลอร์ มันจะอยู่ระหว่างทางจากไส้กรองผ่านใบพัดเทอร์โบกับท่อร่วมไอดี อากาศท่ีดูดเข้ามาอย่างหนาแน่น จนเกินอุณหภูมสูงขึ้น ทำให้มวลอากาศเจือจางจากการขยายตัว และอ๊อกซิเจนก็เจอจางตามปริมาตรท่ีเพิ่มขึ้นด้วย

แต่เมื่ออากาศท่ีดูดมาอย่างมากมายโดยใบพัดด้านดูดอากาศดีไหลผ่านรังผึ้งของอินเตอร์คูลเลอร์ท่ีรับเอาลมจากภายนอกเข่้ามาระบายผ่านสกู๊ปดักลมท่ีฝากระโปรงหน้า หากอินเตอร์คูลเลอร์อยู่บยเครื่องยนต์ หรือรับลมจากหน้ารถหากอินเตอร์คูลเลอร์อยู่ด้านหน้ารถ ใกล้ ๆ รังผึ้งหม้อน้ำ (ส่วนมากจะอยู่ต่ำลงไป)

เมื่อรถวิ่งไปด้วยความเร็ว เร็วมากก็ระบายความร้อนออกจากอากาศท่ีดูดและพ่นออกมาอย่างหนาแน่นรุนแรงได้มาก เมื่ออุณหภูมิลดลงมวลอาาศท่ีเข้าสู่ห้องเผาไม่ก็หนาแน่น อ๊ออกซิเจนก็หนาแน่น จึงทำให้การเผาไหม้สมบูรณืรุนแรง

ก่อให้เกิดการระเบิดเผาไหม้ท่ีรุนแรงรวดเร็ว ในห้องเผาไหม้ และส่งแรงขับดันกระบอกสูบให้เคลื่อนลงรวดเร็วและอย่างแรง เหตุการเหล่านี้เกิดขึ้นเป็นวัฎจักร ดูด-อัด-ระเบิด-คาย สไตล์เครื่อง 4 จังหวะ ยิ่งเร่งเครื่องรอบสูงขึ้น มันก็ทำงานรวดเร็วขึ้น เป็นพัน ๆ หมื่น ๆ แสน ๆ คร้งในไม่กี่นาทีขึ้นอยู่กับรอบเครื่องยนต์ ด้วยเหตุของการทำงานท่ีมีการเสียดสีอย่างมากมายเป็นความถี่ีต่อเนื่องจึงต้องมีน้ำมันเครื่องอย่างดีคอยหล่อลื่นเครื่องยนต์ด้วย เพื่อให้มันขยันทำงานนานขึ้น ท่ามกลางภาระกิจท่ีดุเดือดร้อนแรง

เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ คูลเลอร์จึงมีแรงม้าและแรงบิดมากกว่าเครื่องดีเซลธรรมดาเมื่อมีความจุหรือซีซีเท่ากันอย่างเด่นชัด

ก็สมควรเลือกใช้เครื่องแบบใหม่ท่ีทันสมัย ทั้งระบบหัวฉีด ระบบจ่ายน้ำมันแบบคอมมอนเรลด้วย

รถปิคอัพสมัยใหม่ เครื่องแรง ไม่ค่อยมีควันดำ เนื่องจากทุกระบบกลไก ประสานการทำงานสัมพันธ์กันพอดิบพอดีด้วยวงจรคอมพิวเตอร์ ไม่ว่ารอบสูงหรือรอบต่ำ มันเผาไหม้ได้ดีตลอด

ลองหาซื้อมาใช้สักคัน ไอ้รถท่ีมีเครื่องยนต์ดี ๆ แล้วจะสะใจจจจจ !!

เผลอตัวเปิด HARDY s ไวน์ขายดีแดนจิงโจ้


ขณะกำลังอ่านข่าวการบ้านการเมืองช่วงดึกคืนวันท่ี 26 พ.ค. 2550 ได้ความว่ากลุ่มเก่ากำลังขนคนเข้ากรุง กลุ่มเจ้าหน้าท่ีก็พยายามสกัดกั้น เล่นการเมืองกันจนผมมึน จึงเดินไปท่ีเก็บไวน์ หยิบ เจ้าขวดสวย มาเปิด โอโฮ สีสวยงามมาก เป็นสีน้ำเม็ดผักปัง ม่วงแดง แน่นทึบนิดหน่อย เป็นไวน์ปี 2005 เปิดพักไว้ครึ่งชั่วโมงให้เขาหายใจหายคอ เพื่อรวบรวมพลังกลิ่นรสให้พร้อม จึงค่อย ๆ รินลงแก้วไวน์

นี่มันสวรรค์ราคาไม่แพง สี่ร้อยกว่าเท่านั้น หอมมาก มีความเข้มพอเพียงทีเดียว เมื่อจิบ และสัมผัสกับประสาทรับรสในปากแล้วก็ต้องบอกว่า พอใจ ๆ มีฝาดนิด ๆ เปรียวนิดเดียว แต่กลิ่นอบอวลดีจัง

ว่าง ๆ ลองหามาชิมดูแล้วจะบอกว่า มันเป็นอย่างนี้นี่เอง !!!

ข้อมูลจากผู้จัดจำหน่ายเป็นดังนี้


HARDY s ไวน์แดงน่าจิบจากแดนจิงโจ้

ขวดนี้เป็นหนึ่งในสองขวดท่ีขายดีของผู้นำเข้่า เป้นรุ่น Stamp Shiraz/Cabernet Sauvignon หรืออ่านเป็นภาษาไทยว่า แสตมปื ซีราส/คาร์เบอร์เนย์ โซวินญอง

มันออกจะฝรั่งเศสจ๋าสักกะหน่อย เพราะไวนืนั้นฝรั่งเศสเป็นผู้พัฒนาจนเลื่องชื่อ จากท่ีคนยุคอียิปโบราณ7-8 พัน ปี ก่อนเป็นผู้ทำมาก่อนโดยบีังเอิญท่ีน้ำองุ่นมันหมักของมันเอง จนเกิดเป็นไวน์ท่ีเราชอบจิบ ชอบ ดู-ดม-ดื่ม กันนั้นแหละครับท่าน

ไวน์แดงตัวนี้ เป็นตัวท่ีมีน้ำหนักปานกลางและนุ่มนวล ได้รสชาติของผลไม้สดจากองุ่นสองพันธุ์ คือซีราสและคาร์เบอร์เนย์ โซวินญอง สีแดงเข้มให้กลิ่นหอมแรงของผลเชอรี่สด แต่นุ่มและให้ความสมดุลของกรดอย่างยอดเยี่ยม

เขาเขียนมาเอามาเล่าต่อ

ลองชิมดูหรือยัง ผมมีแล้วว่าเก็บไว้ก่อน แต่เผลอเปิด จิบ ดู-ดม-ดื่ม ซะแล้ว ช่วยไม่ไดเ้จริง ๆ ครับ

26 พ.ค. 2550

ชุดแต่ง โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ จากZENITH


นี่คือฃุดแอโรพาร์ตจาก ZENITH เพิ่มความสวยงาม มีผลด้ารอากาศพลศาสตร์ ทำให้แรงต้าน และลมอู้เข้าใต้ท้องรถลดลง

The Car Blog: Rants and opinions about the world of automobiles.

The Car Blog: Rants and opinions about the world of automobiles.


เป็นเรื่องเป็นราวดี