28 พ.ค. 2550

ขับรถให้กินน้ำมันแต่น้อย / สิ่งควรหลีกเลี่ยงในการใช้รถใชัถนน

เงื่อนไขของการ “จิบ” น้ำมัน

รถยนต์ปัจจุบันยังใช้เชื้อเพลิงน้ำมันเบนซิน และดีเซลเป็นหลัก แก๊ส NGV,LPG ยังเป็นส่วนน้อย แม้รัฐบาลจะส่งเสริมให้ใช้มากขึ้น แต่ต้องรอปั๊มแก๊สให้ทั่วถึง อีกสองสามปีจำนวนรถท่ีใช้แก๊สอาจถึงครึ่ง

ณ ขณะนี้ มาดูเงื่อนไขท่ีทำให้รถกินน้ำมันน้อย กันดีกว่า ในการเดินทางไปถึงเป้าหมายเดียวกันความสิ้นเปลืองอาจต่างกันครึ่งต่อครึ่งก็เป็นได้ เงื่ือนไขท่ีไม่ต้องเปิดตำรา แต่หลายท่านอาจมองข้ามคือ ข้อแรกยางลมอ่อนเกินไป เช่นขนาดยางท่ีใช้กำหนดให้อย่างต่ำ 28 ปอนด์/ตารางนิ้ว แต่ความดันลมเหลือแค่ 20 ปอนด์/ตารางนิ้ว ก็ทำให้เกิดความฝืดขึ้นได้มาก แถมโครงสร้างยางเสื่อมอย่างรวดเร็ว เสียงต่อการระเบิดอีกด้วย เพราะขณะวิ่งไปแก้มยางจะเคลื่อนตัวยุบยืดมากกว่าปกติ จนเกิดความร้อนสูง
ต่อมาก็คือชิ้นส่วนท่ีตั้งฉากกับผิวถนนบนรถมีมากมายเช่นการเสริมกระบะสูงขึ้นเป็น
แท่งซึ่งมันจะต้านลม เนื่องจากแรงต้านจากอากาศหรือแรงลมจะเพิ่มเป็นกำลังสองเมื่อรถเร็วขึ้นหนึ่งเท่า แรงต้านจะกลายเป็นยกกำลังสอง ไม่ใช่เพิ่ม 2 เท่า คือ จาก 2 เป็น 4 จาก 4 เป็น 16 จาก16 เป็น 256 ไม่ใช่จาก 2 เป็น จาก 4 เป็น 8 จาก 8 เป็น 16 อย่างท่ีเข้าใจกัน เนื่องจากเป็นการวิ่งสวนฝ่าอากาศไป ทดลองง่าย ๆ เมื่อเราแบมือต้านลมขณะรถวิ่งท่ีความเร็วสูง ๆ จะต้านลมมากจนกล้ามเนื้อล้า ลองคิดถึงพื้นท่ีท่ีตั้งฉากกับผิวถนนในรถว่ายิ่งกว้างก็จะยิ่งเพิ่มภาระให้เครื่องยนต์ คือต้องใช้แรงมาก ยิ่งเร็วแรงต้านยิ่งมาก จึงทำให้รถยุคใหม่มีทรวดทรงลู่ลม บางรุ่น บางยี่ห้อรูปทรงน้อง ๆ เครื่องบินเลยทีเดียว
การแก้ไขตรงนี้เมื่อจำเป้นต้องใช้รถท่ีมีชิ้นส่วนเป็นแผ่นต้านลมก็ง่าย ๆ คือขับช้า ๆ สัก 50-60 กม./ชม. ไปเรื่อย ๆ ก็สามารถขนส่งถึงปลายทางได้เช่นกัน การท่ีมีกฎหมายให้รถบรรทุกขับช้า ๆ ให้วิ่งชิดซ้ายตลอดก็สามารถช่วยชาติประหยัดพลังงานได้มาก

ต่อมาก็คือนิสัยในการขับรถ ไม่เร่งเบิ้ลคันเร่งเล่น ไม่ขับกระชากลากเกียร์จนรอบสูงมาก ๆ ในแต่ละเกียร์โดยไม่จำเป็น เช่นรถเก๋ง หรือปิคอัพตัวเปล่าไม่มีน้ำหนักบรรทุก ก็ไม่ต้องลากเกียร์

ไม่ใช้ระบบไฟจนโอเวอร์เช่น ติดตั้งระบบเสียงท่ีกินไฟมาก ๆ ไฟในรถก็มาจากไดชาร์ตซึ่งขับเคลื่อนโดยเครื่องยนต์ผ่านมูเล่ย์สายพาน เพื่อชาร์ตแบตเตอรี่ ยิ่งเร่งเครื่องเสียงดังมาก ๆ เปิดนาน ๆ ก็ยิ่งเปลืองน้ำมัน

เงื่อนไขต่อมาก็คือเครื่องยนต์ ขาดการดูแล ไม่ได้เปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามระยะทาง หรือตามระยะเวลา ทำให้เกิดความฝืดมาก ตลอดจนไส้กรองสกปรกก็มีส่วนทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันมาก

รถเก่าเครื่องหลวมควันโขมงก็กินน้ำมันมาก เนื่องจากต้องเร่งเครื่องรอบสูงขึ้นเพื่อให้มีแรงวิ่งไปเหมือนรถชาวบ้านท่ีเครื่องฟิต ๆ

ความสิ้นเปลืองท่ีเกิดจากการเผลอไผลลืมปลดเบรกมือ หรือเบรกมือค้างนิด ๆ แล้วขับไป นี่ก็เปลืองน้ำมันมาก

การวางแผนเดินทางท่ีใช้เส้นทางสั้นท่ีสุด การจารจรไม่ติดขัด ก็ทำให้ประหยัดได้มาก

อย่างไรก็ตามไม่ถึงกับต้องทรมานขับรถปิดแอร์ ไปตลอดเวลายามแดดเปรี๊ยง ๆ อาจปิดแอร์เวลากลางคืนก็ช่วยประหยัดได้มาก อย่าไปเลียนแบบนักขับรถแข่งอีโคโนมีรัน เพราะต้องทรมานในการขับรถเกียร์สูงสุด รอบต่ำ ๆ โดยแตะเบรกน้อยท่ีสุด อาจทำให้เกิดอุบัติืเหตุชนเฉียว หรือตกข้างทางได้หากเสี่ยงไปโดยไม่เบรกเลย
สถิติการกินน้ำมันมากมายนั้นอาจไม่คุ้มกับชีวิตท่ีไม่ปลอดภัย และเสียมารยาทบนถนน



นิสัยการขับขี่ท่ีผิด ๆ สมควรเลิก
1.การเปิดไฟกระพริบ แบบฉุกเฉินขณะจะตรงไปเมื่อถึงทางแยก เนื่องจากไฟฉุกเฉินมีไว้สำหรับจอดฉุกเฉินเท่านั้น เหตุผลคือคนท่ีอยู่ด้านซ้ายก็คิดว่าจะเลี้ยวซ้าย คนท่ีมองจากด้านขวาก็คือว่าจะเลี้ยวขวา ก็มีเมืองไทยนี่แหละไม่รู้ว่าใครแนะนำมาผิด ๆ

2.การบีบแตรพร่ำเพรื่อ แสดงอารมณ์ สมควรระงับอารมณ์เสียบ้างมันเป็นการแสดงถึงความป่าเถื่อน

3.จอดรถด้านขวาของขอบถนนแทนท่ีจะชิดซ้ายในทิศทางของตัวเอง

4.การจอดรถแช่ขวางชาวบ้านบนถนนท่ีจอแจ

5.ขับรถฝ่าไฟแดง อันตรายท่ีสุด ถนนเกษตร-นวมินทร์ มีการชนกันมากเนื่องจากชอบเร่งรถให้พ้นไฟแดงแล้วเบรกไม่ทัน ชนท้ายกันวันละหลายราย

……ยังมีอีกมาก !!