24 ก.ค. 2550

ฟอร์ดสนับสนุนแก๊สโซฮอล



ฟอร์ดสนับสนุนแก๊สโซฮอล ย้ำ “ฟอร์ด โฟกัส” เติมได้ทันทีไม่ต้องรอ
***********************************************************

กรุงเทพฯ ประเทศไทย 23 กรกฎาคม 2550 -- ฟอร์ด ยืนยันรถยนต์ฟอร์ด โฟกัสทุกรุ่น เติมแก๊สโซฮอลได้ไร้ปัญหา โดยเป็นรถยนต์นั่งรุ่นแรกในประเทศไทยที่สามารถเติมได้ทั้งน้ำมันเบนซินทั่วไปและแก๊สโซฮอลที่มีส่วนผสมของเอทานอลได้ถึงร้อยละ 20 หรือ E20 ซึ่งคาดว่าจะเริ่มมีจำหน่ายในอีกไม่ช้านี้

นางสาวดวงกมล อิศรพันธุ์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าวยืนยันในงานเปิดตัวโครงการรณรงค์ให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ติดสติ๊กเกอร์ “มั่นใจใช้ได้น้ำมันแก๊สโซฮอล 95/91” ว่า ฟอร์ด โฟกัส เป็นรถยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง เนื่องจากถูกออกแบบและผลิตมาให้สามารถใช้น้ำมันเชื้อเพลิงได้ทั้งเบนซิน และน้ำมันแก๊สโซฮอล์ที่ผสมเอทานอล 10% และยังสามารถเพิ่มปริมาณส่วนผสมของเอทานอลได้สูงถึง 20% รวมทั้งยังมีมาตรฐานด้านความปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมสูง โดยมีเครื่องยนต์ที่เผาไหม้สมบูรณ์ จึงมีปริมาณไอเสียต่ำ

นอกจากนี้ ในงานแถลงข่าวดังกล่าว ซึ่งจัดโดยกระทรวงพลังงานนั้น ดร. จอห์น เบนเน็ต ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานของฟอร์ด มอเตอร์ คัมปานี ได้มาร่วมในงานแถลงข่าว หลังจากเข้าพบปะเพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงพลังงาน โดย ดร. เบนเน็ต เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานทดแทนของโลก และมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานทดแทนของฟอร์ด มอเตอร์ คัมปานี จนทำให้รถยนต์หลายรุ่นจากแบรนด์ชั้นนำในเครือฟอร์ด สามารถใช้น้ำมันที่มีส่วนผสมของเอทานอลได้มากถึง 85% หรือ E85 ซึ่งมีจำหน่ายแล้วในยุโรป บราซิล และอีกหลายประเทศ นอกจากนี้ ดร. เบนเน็ต ยังสอนหนังสือในมหาวิทยาลัยหลายแห่งในประเทศอังกฤษ ตลอดจนมีผลงานวิจัยมากมาย และเป็นกรรมการในสถาบันชั้นนำระดับโลกที่ทำงานด้านการพัฒนาและส่งเสริมพลังงานทดแทนด้วย

ฟอร์ด ได้สนับสนุนกระทรวงพลังงานในการรณรงค์ให้ประชาชนหันมาใช้แก๊สโซฮอลอย่างจริงจัง เนื่องจากเป็นพลังงานที่เหมาะกับประเทศไทย ซึ่งมีผลผลิตทางการเกษตรที่ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตอยู่เป็นปริมาณมาก ทำให้ประเทศไทยมีศักยภาพที่จะเป็นผู้ผลิตเอทานอลและน้ำมันแก๊สโซฮอลรายใหญ่ได้ นอกจากนี้แนวโน้มทั่วโลกยังหันมาให้ความสำคัญกับเอทานอลมากขึ้น โดยเป็นพลังงานทดแทนที่ได้รับการยอมรับและใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก

ในฐานะที่ฟอร์ดเป็นผู้นำของโลกในด้านพลังงานทดแทน ฟอร์ดเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายแรกซึ่งนำเข้ารถยนต์ที่สามารถใช้น้ำมันแก๊สโซฮอลที่มีส่วนผสมของเอทานอลได้ถึงร้อยละ 20 เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยตั้งแต่ พ.ศ. 2548 ปัจจุบันฟอร์ดมีรถยนต์ที่สามารถใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล E10 ได้ คือ
• ฟอร์ด โฟกัสทุกรุ่น ทั้งเครื่อง 1.8 ลิตรและ 2.0 ลิตร ในรุ่นเทรนด์ ฟิเนซ และเกีย ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งน้ำมันเบนซิน น้ำมันแก๊สโซฮอล E10 ที่มีจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน และน้ำมันแก๊สโซฮอล E20 ที่จะเริ่มจำหน่ายในอนาคตได้ทันทีโดยไม่ต้องปรับแต่งเครื่องยนต์
• ฟอร์ด เอสเคป ทุกรุ่น สามารถเติมน้ำมันแก๊สโซฮอล E10 ที่มีจำหน่ายในปัจจุบันได้
*************************************
รายละเอียดเครื่องยนต์
*************************************

หลากทางเลือกของเครื่องยนต์อันล้ำหน้าโฟกัสใหม่ มีหลากหลายทางเลือกของเครื่องยนต์ที่รอให้สัมผัส ทุกรายละเอียดได้รับการออกแบบ เพื่อตอบสนองการใช้งาน ที่ยอดเยี่ยม และมีความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง โดยในรุ่นเบนซินรหัส DURATEC ประกอบไปด้วย 125 แรงม้า - DURATEC 1,800 ซีซี มีกำลังสูงสุด 125 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 165 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที145 แรงม้า - DURATEC 2,000 ซีซี มีกำลังสูงสุด 145 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 185 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที ทั้งรุ่น 1,800 และ 2,000 ซีซี DURATEC มาพร้อมกับระบบใหม่ ที่ถูกพัฒนาการไหลเวียนของไอเสีย การเผาไหม้ และมีมลพิษต่ำ มีความประหยัดน้ำมันเป็นเยี่ยม เครื่องยนต์ที่เดินเรียบ นุ่มนวล พร้อมเทคโนโลยีฝาสูบที่ผลิตจากอลูมิเนียมน้ำหนักเบา ทวินแคม เพียบพร้อมด้วยนวัตกรรมล้ำสมัย เช่น วาล์วควบคุม ที่ออกแบบพอร์ตไอดี ให้ไอดีมีการหมุนวน และระบบประจุไอดีแปรผัน VIS-Variable Intake System รวมถึงการปรับแต่ง ระบบควบคุมการทำงานของวาล์ว ให้เปิดเพื่อรับอากาศให้มากขึ้น พร้อมเพิ่มแรงบิดให้กับเครื่องยนต์ เทคโนลียีล่าสุด ทางด้านเครื่องยนต์ของฟอร์ด ได้ถูกนำมาใช้เพื่อให้ขุมพลังเหล่านี้มีประสิทธิภาพในการทำงาน มีความทนทาน ไม่ยุ่งยากในการดูแลรักษา มีอายุการใช้งานยาวนาน ซึ่งเป็นพันธสัญญาของฟอร์ด ในการพัฒนาขุมพลังเหล่านี้ ให้สอดรับกับความต้องการในทุกด้านของลูกค้า อีกทั้งชิ้นส่วนของเครื่องยนต์ทุกชิ้น ได้รับการออกแบบและทดสอบ เพื่อที่ผู้ขับขี่ไม่ต้องดูแลรักษาให้ยุ่งยาก และอะไหล่ชิ้นส่วนต่างๆ มีอายุการใช้งานอย่างน้อย 240,000 กิโลเมตร หรือมีอายุโดยเฉลี่ย 10 ปีขึ้นไป