7 ส.ค. 2550

Ferrari F430 Scuderia









Ferrari F430 Scuderia

หมายเหตุ บทความนี้ค้นมาจากเน็ท ไม่ได้แปลเอง ว่าง ๆ จะเรียบเรียงจากต้นฉบับเดิมมารายงาน เพียงแต่ว่าเกิดชอบหน้าปัดของเขาเข้า ภาพเหล่านี้มาจาก http://www.autoblog.com/photos/ferrari-f430-scuderia/321415/full/
****************************************

ถ้าคิดว่า 430 ที่มีขายอยู่ในตลาดคือเวอร์ชันแห่งความแรงสุดขั้วเท่าที่เฟอร์รารี่ผลิตออกขายให้กับรถสปอร์ตสายพันธุ์นี้แล้วล่ะก็ เห็นทีคงจะต้องบอกว่า ‘ท่านกำลังคิดผิดถนัด’ เพราะว่าค่ายม้าป่าลำพองแห่งมาราเนลโลกำลังเตรียมตลอดเวอร์ชันใหม่ล่าสุดของรถสปอร์ตรุ่นนี้ออกสู่ตลาดชื่อ สคูเดอเรีย (Scuderia) โดยมีคิวเปิดตัวในแฟรงค์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ 2007 เดือนกันยายนที่จะถึงนี้

เหมือนกับรุ่นก่อนอย่าง 360 ที่นอกจากจะมีรุ่นธรรมดาแล้วยังมีตัวแรงอย่างสตราดัลเล (Stradale) เป็นการพัฒนาโดยอิงเทคโนโลยีจากสนามแข่งออกมาขายในตลาด แนวคิดนี้ได้ถูกถ่ายทอดมาสู่ 430 กับการเปิดตัวรุ่นสคูเดอเรียออกมา ใครที่แฟนรถแข่งของทีมเฟอร์รารี่แล้วได้ยินชื่อนี้แล้วคงจะต้อง ‘อ๋อ’ ทันที เพราะนี่คือคำในภาษาอิตาลีที่มีความหมายว่า ‘คอกม้า หรือ Stable’ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเกี่ยวพันกับสัญลักษณ์ม้าลำพอง และเฟอร์รารี่ก็นำมาใช้ต่อท้ายกับทีมแข่ง F1 ของตัวเอง คือ เฟอร์รารี่ สคูเดอเรีย

ในเมื่อบอกใบ้กันถึงขนาดนี้ หลายคนคงจะเดาได้แล้วว่า 430 สคูเดอเรียได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีความแรงมาจากมอเตอร์สปอร์ตประเภทไหน ทางค่ายม้าป่าลำพองบอกว่าทุกรายละเอียดแม้ว่าจะอิงอยู่บนตัวถังแบบคูเป้หลังคาแข็ง หรือ Berlinetta ของเอฟ430 รุ่นธรรมดา แต่ทว่ากลับซ่อนความไม่ธรรมดาเอาไว้ภายใน

เพราะคอนเซ็ปต์ของเวอร์ชันนี้คือ การปรับปรุงรถสปอร์ตที่มีอยู่ด้วยเทคโนโลยีจากสนามแข่ง F1 เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบความแรงและสมรรถนะอันเหนือระดับ ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่จะพบว่า ความจริงแล้ว ตัวรถรุ่นนี้มีน้ำหนักเบากว่าเอฟ430 ถึง 100 กิโลกรัม โดยอยู่ที่ 1,250 กิโลกรัม อันเป็นผลมาจากการนำวัสดุที่มีน้ำหนักเบาแต่แข็งแกร่งมาใช้ในการผลิตชิ้นส่วนตัวถังและชิ้นส่วนต่างๆ ในตัวรถ รวมถึงยังตัดระบบหรืออุปกรณ์ที่ไม่จำเป็นออกไป เพื่อให้ม้า 1 ตัวจากเครื่องยนต์แบกภาระในการรับน้ำหนักลดลง จะส่งผลต่อเนื่องมาที่อัตราเร่งในช่วงต้น และสมรรถนะในการบังคับควบคุมรถทั้งทางตรงและเส้นทางคดเคี้ยว

ไม่เฉพาะการปรับปรุงในเรื่องของน้ำหนักตัวรถเท่านั้น ในส่วนของเครื่องยนต์ก็มีการยกระดับความแรงขึ้นอีก เครื่องยนต์เบนซินวี8 4300 ซีซี.แบบหายใจเอง หรือ NA- Naturally Aspirated ได้รับการรีดกำลังจาก483 มาอยู่ที่ 510 แรงม้า ที่ 8,500 รอบต่อนาที และเมื่อบวกกับน้ำหนักที่ลดลงมาอยู่ที่ 1,250 กิโลกรัม ทำให้ 1 แรงม้าของเครื่องยนต์รับน้ำหนักเพียง 2.45 กิโลกรัมเท่านั้นเอง

ในเรื่องของระบบส่งกำลังถือว่าเป็นอีกส่วนที่ได้รับการถ่ายทอดจากสนามแข่ง F1 ซึ่งเฟอร์รารี่นำเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะแบบ F1 Shift มาจับคู่กับเครื่องยนต์วี8 เกียร์รุ่นนี้มีพื้นฐานและโครงสร้างการทำงานเหมือนกับเกียร์ธรรมดา แต่ใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์และไฟฟ้าในการควบคุมการทำงานของระบบคลัตช์ และการเปลี่ยนเกียร์ ทำให้สามารถตอบสนองการขับได้ไม่ต่างจากเกียร์ธรรมดา แต่สะดวกสบายโดยเฉพาะเมื่อขับในเมืองเหมือนกับเกียร์อัตโนมัติ

นอกจากนั้นเฟอร์รารี่ยังปรับปรุงสมองกลควบคุมการทำงานของเกียร์ ด้วยการนำรุ่นใหม่ล่าสุดในชื่อ F1 Superfast มาใช้ ผลก็คือ การเปลี่ยนเกียร์ในแต่ละตำแหน่งเร็วขึ้นกว่าเดิม และใช้เวลาเพียง 0.06 วินาทีในการเปลี่ยนเกียร์แต่ละตำแหน่ง อีกทั้งยังถือเป็นครั้งแรกที่มีการนำระบบแทร็กชั่นคอนโทรล ควบคุมการลื่นไถลอย่าง F1-Trac มาจับคู่ในการทำงานร่วมกับระบบเฟืองท้ายอิเล็กทรอนิกส์ในชื่อ E-Diff เพื่อประสิทธิภาพในการป้องกันการลื่นไถล และความสมบูรณ์แบบในการถ่ายทอดกำลังจากเครื่องยนต์

การเปิดตัวจะมีชึ้นในแฟรงค์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ 2007 แน่นอน และจะเริ่มขายช่วงปลายปีนี้ โดยในงานจะมีการเชิญอดีตนักแข่งชื่อดังอย่างมิชาเอล ชูมัคเกอร์มาร่วมในงาน ชูมัคเกอร์เป็นแชมป์โลก F1 มากถึง 7 สมัย และทำได้ถึง 5 สมัยในยุค 11 ปีทอง (1996-2006) ที่เป็นนักแข่งของทีมเฟอร์รารี่ สำหรับราคายังไม่มีการเปิดเผยออกมาในตอนนี้